แพทย์เตือนบีบจมูก-เม้มปากขณะจาม เสี่ยงภาวะ “ลมเข้าสมอง”
(28 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โลกออนไลน์กำลังให้ความสนใจคำเตือนจากนายแพทย์ที่ระบุว่า พบคนไข้เป็นหญิงสูงวัยชาวไทย มีภาวะลมรั่วเข้าสมอง เพราะเม้มปากตอนไอจาม และน่าจะคนไข้คนแรกของโลกที่เป็นภาวะดังกล่าว
เพจเฟซุบ๊ก หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC ของ นายแพทย์มนูญ ลีเชวงวงศ์ หัวหน้าประจำห้องไอซียู และหัวหน้าโรคระบบทางเดินหายใจและปอด โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ได้โพสต์เรื่องราวและกรณีที่เกิดขึ้นกับคนไข้หญิงสูงวัยชาวไทย อายุ 82 ปี ที่มาพบแพทย์เพราะโรคเบาหวานและไขมันในเลือดสูง
นายแพทย์มนูญ เปิดเผยว่า คนไข้มาหาหมอครั้งแรก เมื่อเดือนธันวาคม 2559 ด้วยอาการพูดไม่ชัด นึกคำพูดไม่ออกไป 3 วัน กระทั่งได้ทำการตรวจวัดคลื่นแม่เหล็ก หรือ MRI เช็คดูภายในสมอง ปรากฏว่าพบลม หรือ air pocket อยู่ในเนื้อสมองข้างซ้าย จึงได้เฝ้าติดตามดูอาการและพบว่าดีขึ้นอย่างช้าๆ ปัจจุบันอาการเป็นปกติแล้ว
คุณหมอยังบอกว่า จากการศึกษาหาสาเหตุว่า เหตุทำให้ลมถึงเข้าไปอยู่ในเนื้อสมองได้ อาจจะเกิดขึ้นเพราะการใช้มือบีบจมูกหรือเม้มปากตอนจาม เพื่อเป็นการกั้นหรือบรรเทาเสียงระหว่างไอจาม ต่อมาจึงได้กลับไปซักถามอาการคนไข้ใหม่ ว่าเคยมีพฤติกรรมเหล่านี้หรือไม่
คนไข้เล่าให้ฟังว่า ช่วงก่อนจะไม่สบาย ขณะกำลังจะสั่งน้ำมูกออกมา เกิดอาการอยากจามขึ้นมา จึงใช้มือบีบจมูกกั้นเอาไว้ แล้วเอานิ้วอุดรูหูข้างขวา รวมทั้งเม้มปากพร้อมๆ กัน ทำให้หูข้างซ้ายอื้อและมีเสียงดัง ลมจากอาการจามออกทางจมูกปากไม่ได้ ทำให้ผ่านท่อในปากเข้าหูชั้นกลาง แล้วทะลุกะโหลกใต้สมองและโผล่เข้าชั้นสมองดังกล่าว
นายแพทย์มนูญ ยังระบุอีกว่า คนไข้รายนี้น่าจะเป็นรายแรกของโลกที่มาภาวะลมรั่วเขาสมอง เพราะเกิดจากการบังคับไม่ให้จามออกทางปากและจมูก ดังนั้นการกลั้นไอจามลักษณะนี้ยังทำให้ลมเข้าสมองได้ รวมทั้ง ปอดรั่ว, แก้วหูทะลุ, ผนังช่องคอทะลุ หรือ เส้นเลือดในสมองแตกได้