ชุลมุนนักท่องเที่ยวจีนติดค้างสนามบินญี่ปุ่น ฉุนเปิดฉากปะทะตำรวจ
นักท่องเที่ยวจีน ปะทะ ตำรวจญี่ปุ่น หลังติดค้างที่สนามบิน 1 วันเต็ม และไม่พอใจได้รับการปฏิบัติไม่เท่าเทียม
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อวันที่ 25 ม.ค. ที่ผ่านมา เกิดเหตุนักท่องเที่ยวชาวจีน 175 คน ซึ่งติดค้างอยู่ที่สนามบินนานาชาตินาริตะ ในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ทะเลาะวิวาทกับเจ้าหน้าที่ตำรวจของญี่ปุ่น เนื่องจากไม่พอใจที่ได้รับการปฏิบัติไม่เท่าเทียมกับผู้โดยสารชาวญี่ปุ่น
ตามรายงานระบุว่า นักท่องเที่ยวชาวจีนกลุ่มดังกล่าวเป็นผู้โดยสารของสายการบิน เจ็ตสตาร์ ของญี่ปุ่น มีกำหนดเดินทางออกจากสนามบินนานาชาตินาริตะไปยังสนามบินนานาชาติผู่ตง เซี่ยงไฮ้ ในเวลา 21:45 น. วันพุธ (24 ม.ค.) ที่ผ่านมา แต่เนื่องจากสภาพอากาศที่เซี่ยงไฮ้ขณะนั้นมีหิมะตกหนัก ทำให้เที่ยวบินไม่สามารถขึ้นบินได้ และเกิดความล่าช้านานกว่า 24 ชั่วโมง
โดยพวกเขาเผยว่า ทางพนักงานของสายการบินใส่ใจดูแลผู้โดยสารที่เป็นชาวญี่ปุ่น 5 คน ในเที่ยวบินเดียวกันเป็นอย่างดี แต่กับพวกเขากลับปล่อยให้จัดการตัวเอง อีกทั้งยังไม่ยอมจัดหาเจ้าหน้าที่ที่สามารถสื่อสารภาษาจีนได้ให้ ซ้ำยังบอกให้เก็บสัมภาระและหาที่พักกันเอาเอง พร้อมทั้งย้ำเป็นภาษาอังกฤษด้วยว่า “ออกไป (get out)” ซึ่งทำให้พวกเขาไม่พอใจ
กระทั่งเช้าวันที่ 25 ม.ค. สถานการณ์ก็ถึงจุดเดือด เมื่อมีผู้โดยสารชาวจีนคนหนึ่งถูกห้ามไม่ให้ไปใช้บริการตู้หยอดเหรียญที่ตั้งอยู่ภายในอาคารผู้โดยสาร จนเกิดมีปากเสียงและเกิดปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้ามาระงับเหตุดังกล่าว
ต่อมาทางสถานทูตจีนประจำประเทศญี่ปุ่นได้เข้ามาไกล่เกลี่ย ซึ่งทางการบิน เจ็ตสตาร์ ยินยอมปฏิบัติต่อนักท่องเที่ยวชาวจีนกลุ่มดังกล่าวอย่างเหมาะสม พร้อมจ่ายค่าอาหารและจัดการเรื่องที่พักให้ รวมทั้งจัดเที่ยวบินเพื่อให้เดินทางประเทศด้วย
ทั้งนี้ เช้าตรู่วันที่ 26 ม.ค. นักท่องเที่ยวชาวจีนกลุ่มดังกล่าวเกือบทั้งหมดก็ได้เดินทางกลับมายังเซี่ยงไฮ้ ขาดเพียงนักท่องเที่ยวบางคนที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวไว้ ซึ่งสถานทูตจีนได้ขอให้ตำรวจญี่ปุ่นจัดการกับคดีดังกล่าวอย่างยุติธรรมและเป็นธรรม รวมถึงปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ที่ถูกต้องตามกฎหมายของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องด้วย