ไมค์ พิรัชต์ ให้กำลังใจ แม่ ครอบครัวถูกโยงทุกดราม่า

ก้าวสู่อีกสเต็ปของคำว่า “โกอินเตอร์” สำหรับนักร้อง-นักแสดงหนุ่มชื่อดัง “ไมค์ พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล” ที่ล่าสุดเจ้าตัวได้เชิญสื่อมวลชนร่วมฟังการเปิดใจครั้งสำคัญ ในฐานะนักแสดงอาชีพภายใต้สังกัดยักษ์ใหญ่ระดับโลก CAA Hollywood (Creative Artists Agency) โดยเจ้าตัวได้เล่าถึงประสบการณ์และความตั้งใจในการทำงานครั้งนี้กับเราว่า

“ใช้เวลาอยู่เป็นเดือนเลยครับกว่าจะมีโอกาสได้เซ็นต์สัญญา ซึ่งครั้งแรกที่เขาติดต่อกลับมาผมรู้สึกตื่นเต้นมาก อีกทั้งเอเจนซี่ที่ได้ร่วมงานกันก็คือเอเจนซี่ที่หลายๆ คนอยากทำงานด้วย ซึ่งสำหรับการทำงานของผม ณ จุดนี้ ผมเปิดหมดครับในส่วนของโอกาสที่จะมีเข้ามา อีกทั้งตัวเราเองก็ทำได้หลายอย่างด้วย ทั้งแสดง เต้น และร้อง รวมถึงเรามีเป้าหมายและความตั้งใจจริงๆ ที่เราจะทำงานให้ออกมาสำเร็จ”

“การทำงานของผมหลังจากนี้ส่วนใหญ่จะต้องบินไปบินมาครับ แต่ถามว่าหลักๆ แล้วจะเป็นงานที่จีนไหม เอ่อ…ก็คงที่จีนครับ แต่ถ้าหากมีงานทางอเมริกาเข้ามาก็ต้องไป ซึ่งมันขึ้นอยู่กับโปรเจคมากกว่าครับ เพราะตอนนี้ทางทีมก็พิจารณางานกันอยู่ (ยิ้ม) ถามว่าผมมองอนาคตไว้ยังไงกับงานตรงนี้ ผมมองว่าถ้าหากมันประสบความสำเร็จมันก็เป็นเรื่องดีนะครับ เพราะผมฝันไว้ตั้งแต่เด็กๆ แล้วว่าผมอยากจะไปฮอลลีวูด และวันนี้พอเรามายืนในจุดนี้จุดที่พอเห็นแสงของความหวังนั้นผมก็อยากจะทำได้ดีที่สุด แต่ทั้งหมดทั้งมวลก็คือผมได้ทำสิ่งที่ผมรัก ผมรักงานของผมและอยากทำให้ชีวิตมั่นคงเพื่อดูแลคนรอบข้าง รวมถึงดูแลชีวิตผมได้ครับ”

ถามถึงประเด็นที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับข้อความที่ ซาร่า คาซิงกีนี โพสต์ข้อความทำนองว่า อย่ายุ่งกับเขาและลูก คนเลยโยงว่าเป็นเรา ?
“ไม่เกี่ยวครับ ไม่เกี่ยวกันเลย ผมเห็นแล้วเหมือนกันแต่ว่าตอนนั้นผมอยู่ที่จีน จากนั้นก็ได้มีโอกาสคุยกัน ซึ่งเขาก็บอกว่า เขาสื่อถึงบุคคลอื่น บุคลคลที่สามซึ่งผมขอไม่เอ่ยละกันครับว่าเป็นใคร แต่มันก่อให้เกิดความไม่พอใจ ซาร่าเขาก็เลยโพสต์ข้อความออกไปว่าอย่ามายุ่ง (ยิ้ม) คือเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับผมเลยครับ เพราะว่าก่อนที่ผมจะบินไปจีน ผมก็ยังมารับแม็กซ์ไปอยู่ด้วยกันและเราก็คุยกันปกติ ซึ่งข้อความนี้เขามาโพสต์ขึ้นทีหลัง ดังนั้นไม่ใช่ผมแน่นอน”

“แต่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกหรอกครับที่คนจะพุ่งเป้ามาที่ผม เพราะอาจจะด้วยรูปประโยคหรืออะไรก็แล้วแต่มันอาจทำให้เข้าใจผิดกันได้ รวมถึงมันเกี่ยวข้องกับลูกด้วย แต่ก็อย่างที่ผมบอกไปตั้งแต่แรก ผมมั่นใจครับว่าไม่ใช่ผม (ยิ้ม)”

ช่วงนี้เหมือนครอบครัวเราจะถูกโยงเข้ากับเรื่องดราม่าหลายเรื่อง เรามีอะไรอยากจะพูดไหม ?
“ผมคิดว่าไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็แล้วแต่ เอ่อ…คุณแม่ผมไม่เกี่ยว ไม่ว่าใครจะโยงอะไรมาหรือใครจะด่าหรือต่อว่าอะไร ก็ขอให้เข้ามาที่ตัวเราดีกว่าไม่ต้องไปโยงคนอื่นหรือคนในครอบครัว เพราะว่าคนที่อยู่ในประเด็นคือตัวผมและตัวพี่กอล์ฟ มันไม่จำเป็นต้องโยงไปคนอื่นครับ”

“ถามว่าคุณแม่เครียดไหม คือมันก็เป็นเรื่องปกตินะครับ แต่เราก็ให้กำลังใจคุณแม่เต็มที่และก็บอกกับท่านว่า เราเป็นคนในสังคม เราอยู่ในจุดสว่าง ก็ย่อมจะเจอกับคนหลากหลายความคิดอยู่แล้ว แต่ถ้าเกิดเรามัวไปอ่านมัวไปนั่งสนใจนู่นนั่นนี่เราก็คงไม่ได้ทำอะไรกันพอดี (ยิ้ม) ส่วนทางกอล์ฟก็ เอาจริงๆ ผมรู้ข่าวแค่ผิวเผินมากครับ คือไม่รู้ดีเทลอะไรเลยเพราะปกติครอบครัวผมไม่ค่อยจะคุยกันเรื่องพวกนี้ เพราะว่ามันเป็นแค่เรื่องของคนสองคน อีกอย่างเราเองก็ไม่อยากจะยุ่งอะไรด้วย แต่ถามว่าเป็นห่วงคนในครอบครัวไหม ผมเป็นห่วงตลอดอยู่แล้วครับ ที่ผ่านมาผมก็จะคอยถามไถ่อยู่เสมอครับว่าใครเป็นยังไงบ้าง เพื่อที่จะได้ให้กำลังใจกัน”