เปิดคำสอบสวน 2 ผัวเมียฆ่าเผานั่งยางอิตาลี ให้การโบ้ยความผิดกันเอง

ตำรวจเปิดเผยคำให้การของ 2 ผู้ต้องหาเอี่ยวฆ่าเผานั่งยางชาวอิตาลี ล่าสุดยังให้การขัดแย้งกันเอง โบ้ยความผิดให้กันและกัน มุ่งเน้นปมขัดแย้งเพราะเรื่องชู้สาว เพราะฝ่ายหญิงคบซ้อนทั้ง 2 ฝ่าย

พล.ต.ต.ธวัชชัย มวญนรา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิจิตร พร้อมด้วย พ.ต.อ. ชัยเสถียร มณีจักร ผู้กำกับการตำรวจภูธรบึงนาราง ทำการสอบสวนของมูลเหตุของการก่อเหตุ โดยนำตัว นายอาโมรี อายุ 34 ปี ชาวฝรั่งเศส ผู้ต้องหามาสอบสวนเพิ่ม โดยให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา อ้างว่าไม่รู้และไม่ทราบว่าชายชาวอิตาลี อยู่ในประเทศไทย

จากการสอบสวน นายอาโมรี ชาวฝรั่งเศส ยังคงให้การปฎิเสธทุกข้อกล่าวว่า ซึ่งให้การว่าไม่ทราบว่าเหยื่อผู้เสียชีวิต อยู่ในพื้นที่จังหวัดพิจิตร และไม่มีส่วนรู้เห็นกับการฆาตกรรมที่เกิดขึ้น แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากมีหลักฐานที่ค่อนข้างชัดเจน

โดยเฉพาะยางที่นำมาใช้ในการเผานั่งยาง ซึ่งเป็นยางที่มีพยานผู้ยืนยันได้ว่าเป็นยางนำมาจากบ้านของนายอาโมรี ที่เคยเห็นที่บ้านเช่าที่เช่าบ้านอยู่ในพื้นที่ ซึ่งเป็นพื้นที่ติดต่อกันกับที่เกิดเหตุ และมั่นใจว่าเป็นผู้มีส่วนร่วมในการลงมือสังหารในครั้งนี้ แต่จะมีคนร้ายกี่รายและใครบ้าง เจ้าหน้าที่ต้องสอบสวนจากผู้ต้องหาคนร้ายทั้งสองคน ก่อน

ขณะที่ นางสาวรุธจิรา อายุ 38 ปี แฟนสาวชาวไทยของนายอาโมรี ที่เพิ่งถูกจับกุมตัวในสวนลำไย เมื่อช่วงเที่ยงวันที่ผ่านมา ได้ถูกนำตัวไปสอบสวน เบื้องต้นยังคงให้การปฏิเสธ อ้างว่าตนเองไม่ได้เป็นผู้ลงมือก่อเหตุ แต่เป็นฝีมือของนายอาโมรี สามีชาวฝรั่งเศส ที่ลงมือเองทั้งหมด ส่วนตัวเองแค่อยู่ในเหตุการณ์และช่วยอำพรางศพให้เท่านั้น

พ.ต.ต.ชัยเสถียร มณีจักร ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบึงนาราง ล่าวว่า “จากคำให้การเบื้องต้นของนางสาวรุธจิรา อ้างว่าเมื่อวันที่ 18 มกราคม 2561 ทั้ง 3 คน รวมทั้งเหยื่อผู้เสียชีวิตด้วย ได้นั่งรถยนต์รถยนต์โตโยต้า ยาริส สีบรอนซ์เงิน ไปยังบริเวณถนนคันคลอง ห่างจากจุดเผาศพ 10 กิโลเมตร เพื่อสะสางปัญหากัน แต่ตกลงกันไม่ได้จนเป็นเหตุให้ นายอาโมริ เป็นผู้ลงมือฆ่า

จากนั้นจึงช่วยกันยกศพผู้เสียชีวิตขึ้นหลังรถ เพื่อไปเผาทำลายหลักฐาน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มุ่งปมสังหารเรื่องชู้สาว เนื่องจากทั้งสองคน ต่างเป็นสามีของนางสาวรุจิรา และผู้เสียชีวิตเคยจ้าง นายอาโมรี ให้เลิกรา เป็นจำนวนเงิน 100,000 บาท แต่ นายอาโมรี ไม่ยอมเลิกกับฝ่ายหญิง น่าจะเกิดการหึงหวงกันเกิดขึ้น

ส่วนอาวุธสำคัญที่เจ้าหน้าที่พบคือมีด คาดว่าเป็นอาวุธสังหารที่พบเจอในที่ซ่อนตัว ขณะนี้ได้ส่งตรวจพิสูจน์แล้ว โดยตอนนี้คำให้การทั้ง 2 คนยังขัดแย้งและไม่สอดคล้องกัน ต่างโยนความผิดให้กันและกัน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการเก็บหลักฐาน ทั้งวัตถุพยานที่เกิดเหตุและพยานแวดล้อม เพื่อดำเนินคดีเอาผิดกับผู้ต้องหาต่อไป

อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหา ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและปิดบัง ซ่อนเร้น ย้าย หรือ ทำลายศพ หรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการตาย หรือเหตุแห่งการตาย เอาไว้ก่อน