DNA "น้องเมย" พิสูจน์ไม่ได้ เรื่องวิทยาศาสตร์จริงๆ ไม่ใช่ใบสั่ง!
หลังนายสมณ์ พรหมรส ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ออกจดหมายแถลง เรื่อง น้องเมย นักเรียนเตรียมทหาร หรือ นตท. ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ ที่เสียชีวิตวันที่ 17 ต.ค. 60 ว่า
สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ไม่สามารถตรวจยืนยันว่าชิ้นเนื้อ เช่น หัวใจ และ สมอง ที่ส่งมาให้ตรวจเป็นอวัยวะของ นตท.ภคพงศ์ หรือไม่ เพราะสารพันธุกรรมเนื้อเยื่อในอวัยวะผ่านการดองน้ำยาฟอร์มาลิน จนเสื่อมสลายไปมาก
ซึ่งตรงกับที่คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดีตรวจสอบ หลังสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ส่งไปให้ช่วยตรวจสอบเพื่อยืนยันอีกครั้ง
เรื่องนี้เป็นหลักการทำงานของแพทย์นิติเวชจริง หรือรับใบสั่งลองมาฟัง คำสัมภาษณ์จาก นายสกลกฤษณ์ เอกจักรวาล นักนิติวิทยาศาสตร์ ไปพร้อมๆ กับ Sanook! News กัน
“ตอนแรกแพทย์นิติเวชที่ชันสูตรคงต้องการตรวจหาสาเหตุการการเสียชีวิตของน้อง ซึ่งก็ต้องใช้การดองน้ำยาฟอร์มาลิน เพื่อทำให้แพทย์สามารถตรวจสอบอวัยวะได้ดีขึ้น จะทำให้เห็นกล้ามเนื้อ และรายละเอียดส่วนอื่นชัดขึ้น แต่น้ำยาฟอร์มาลินไปทำลายสารพันธุกรรม ทำให้ไม่สามารถตรวจสอบหา DNA จากชิ้นส่วนอวัยวะต่างๆ ได้” นายสกลกฤษณ์ กล่าว
ในคนปกติการตรวจหา DNA สามารถตรวจจากเซลล์เยื่อบุกระพุ้งแก้ม แต่สำหรับผู้เสียชีวิตนั้น ถ้าเพิ่งเสียชีวิต ก็ยังสามารถตรวจได้จากสารคัดหลั่งหรือชิ้นส่วนอวัยวะในร่างกายได้ ขึ้นอยู่กับสภาพและการเปลี่ยนแปลงหลังการตาย แต่ถ้าถูกเผานั่งยาง หรือเพลิงไหม้บางส่วน หรือฝังไปแล้วก็ตรวจ DNA จากกระดูกหรือฟัน
แต่กรณี นตท.ภคพงศ์ อย่างที่ทราบกันตอนแรก แพทย์อาจจะทราบอยู่แล้วว่าผู้เสียชีวิตเป็นใคร และคงต้องการตรวจหาสาเหตุการเสียชีวิต โดยไม่คิดว่าเรื่องราวจะมาถึงประเด็นนี้
ประกอบกับประเทศไทย ยังไม่มีมาตรฐานที่ชัดเจนว่า แพทย์สามารถตัดแบ่งชิ้นส่วนไปดองฟอร์มาลินได้ ในอัตราส่วนเท่าไหร่ หรือดองชิ้นส่วนอวัยวะได้ทั้งหมด โดยการตรวจหาสาเหตุการเสียชีวิต เป็นไปตามวิจารณญาณของแพทย์นิติเวช
Meay P Tanyakan
ส่วนการเก็บอวัยวะของผู้เสียชีวิต มีวิธีอื่นอีกหรือไม่ ที่สามารถรักษาชิ้นเนื้อให้สามารถตรวจ DNA ได้ นายสกลกฤษณ์ กล่าวว่า บางกรณีสามารถนำไปเก็บด้วยการนำมาแช่เย็น ในห้องเย็นได้ แต่วิธีแช่แข็งนั้นไม่ใช่วิธีที่ดีหากจะดูกล้ามเนื้อ หรือหาสาเหตุการเสียชีวิตนั่นเอง
อย่างไรก็ตามในกรณีการเสียชีวิตของ นตท.ภคพงศ์ เรื่องการสั่งธำรงวินัยน้อง (ซ่อม) นั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจเห็นสมควรสั่งฟ้อง นักเรียนเตรียมทหารรุ่นพี่ 1 คน ข้อหาทำร้ายร่างกาย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมส่งสำนวนการสอบสวนให้อัยการ ศาลทหาร ในเร็วๆ นี้
ขณะที่คดีเรื่องการหาสาเหตุการเสียชีวิตนั้น นอกจากเพิ่งทราบว่า DNA ไม่สามารถตรวจสอบได้ สถานีตำรวจภูธรเมืองนครนายก ยังต้องสอบปากคำพยานเพิ่มเติม ถึงจะสามารถสรุปสำนวนการสอบสวนได้