ศพพลทหารดับระหว่างถูกคุมขัง กลายเป็นหินหลังเสียชีวิตได้ 10 เดือน

ศพพลทหารดับระหว่างถูกคุมขัง กลายเป็นหินหลังเสียชีวิตได้ 10 เดือน

ศพพลทหารดับระหว่างถูกคุมขัง กลายเป็นหินหลังเสียชีวิตได้ 10 เดือน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากกรณีที่ พลทหาร ยุทธกินันท์ อายุ 22 ปี ซึ่งได้เสียชีวิต เมื่อวันที่ 1 เม.ย.60 ระหว่างการรักษาตัวที่ รพ.สุราษฎร์ธานี โดยญาติและมารดาคือ นางเรณู อายุ 41 ปี ได้เข้าร้องเรียนต่อ พล.ต.วิชัย ทัศนมณเฑียร ผู้บัญชาการมณฑลทหารบก ที่ 45 (มทบ.45) เนื่องจากเชื่อมั่นว่าถูกทำร้ายร่างกายภายในเรือนจำ มทบ.45 จนถูกนำส่งโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานีและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ก่อนที่จะมีการเผาจำลอง วันที่ 10 เม.ย.

ในส่วนคดีศาลได้ออกอนุมัติหมายจับจำนวน 9 หมาย และหมายเรียก 1 หมาย ต่อมาในวันที่ 24 เม.ย.ศาลออกหมายเรียก ให้ผู้ต้องหาอีก 1 คนเข้ารับทราบข้อกล่าวหา ต่อมาอัยการศาล มทบ.มีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 11 คน ในวันที่ 28 มิ.ย.60 ทำให้ผู้ต้องหาทั้งหมดตกเป็นจำเลย ถูกคุมขังในคดีเดิมอยู่ที่เรือนจำ และได้ใช้สิทธิประกันตัวไปบางราย คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาคดีของศาลมทบ.45

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (3 ก.พ.) ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า ร่างของพลทหารยุทธกินันท์ ซึ่งถูกบรรจุไว้ในโลง ร่างกลับไม่เน่าเปื่อยแต่กลายเป็นหินแข็งสีทองเหลือง สภาพชุดแต่งกายทหารยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์

โดย นางเรณู มารดาผู้ตาย กล่าวว่า ไม่คิดว่าสภาพศพจะเป็นเช่นนี้แค่อยากเปิดดู เพราะสงสารลูก โดยใส่โลงไว้เฉยๆ หลังจากถอดปลั๊กตู้แช่ไปเมื่อสามเดือนหลังจากบำเพ็ญกุศลศพเสร็จ แต่ไม่ได้ปิดฝา เมื่อเห็นสภาพลูกเป็นเช่นนี้รู้สึกดีใจมากเป็นคนมีบุญ ในเมื่อเป็นเช่นนี้อยากจะเก็บศพไว้

รู้สึกภูมิใจเป็นอย่างมากที่ลูกเสียชีวิตแล้วเป็นแรงจูงใจให้คนเขาวัดมาทำบุญมากยิ่งขึ้น ด้วยการสร้างโบสถ์สร้างวัด เนื่องจากตอนไหนมีชีวิตอยู่เวลานั่งรถผ่านกับแม่ก็มักจะพูดว่าวัดบ้านเราไม่มีอะไรเลยแม้กระทั่งโบสถ์ คิดว่าสิ่งเหล่านี้คงเกิดจากแรงศรัทธาของลูก อีกทั้งในช่วงบำเพ็ญกุศลศพลูกได้มาเข้าฝันไม่ให้เผาร่าง

ด้าน พระเอกพันธ์ อังสุธโร อดีตทหารซึ่งเป็นเพื่อนรุ่นพี่ ได้เดินทางไปบวชที่วัดยางงาม อำเภอหนองไผ่ จังหวัดเพชรบูรณ์ เมื่อเดือนพ.ค.2560 กล่าวว่า พลทหารยุทธกินันท์ เข้าฝันว่าบุหรี่หมด จึงได้เดินเข้าไปดูที่ไว้ศพพร้อมกับญาติโยมที่มาแก้บน และดึงให้ช่างเจาะช่องคอนกรีตเพื่อดูศพ พบว่าร่างกลายเป็นหินไปทั้งตัว จึงได้ปรึกษากับญาติของผู้ตายเพื่อทำโลงแก้วเก็บศพไว้

สำหรับเรื่องราวภายในวัดก่อนหน้านี้ช่างที่มาก่อสร้างเคยพบเห็นทหารถือปืนเดินวนไปวนมาบริเวณฐานโบสถ์ที่กำลังก่อสร้างอยู่ อีกทั้งเด็กนักเรียนที่มาเข้าค่ายอบรมก็มักจะเห็นทหารเดินไปเดินมาไปในวัดอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งก็เป็นเรื่องความเชื่อของบุคคล

ขณะที่ ผู้ใหญ่บ้าน เล่าว่า หลังจากบำเพ็ญกุศลศพพลทหารแล้ว มีการเก็บศพไว้ที่วัดก็มีปรากฏการณ์แปลกๆ หลายครั้ง อีกทั้งยังมีคนนิยมเข้าวัดมากขึ้นกว่ามากกว่าเมื่อก่อน รวมถึงเงินที่ได้จากการทำบุญก็เพิ่มขึ้น จนสามารถสร้างและปรับปรุงหลายสิ่ง ภายในวัดทำให้เจริญขึ้นกว่าเมื่อก่อน และหวังว่าต่อจากนี้ไปคงจะมีประชาชนทั่วไปเดินทางเข้าทำบุญสมทบทุนเพื่อการสร้างโบสถ์สร้างวัดมากยิ่งขึ้น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook