แก๊งเงินกู้บุกอุ้มหัวหน้าเก่าขึ้นรถ ซ้อมขู่เซ็นรับสภาพหนี้เงินแสน

ชาวบ้านเห็นทั้งตลาด แก๊งเงินกู้บุกอุ้มพ่อค้าเสื้อมือสอง อดีตเป็นหัวหน้าสายเก่า ซ้อมและขู่ให้เซ็นยอมรับสภาพหนี้หลักแสน แจ้งความกลับเพราะไม่ได้ก่อหนี้ก้อนนี้

(4 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเฟซบุ๊ก ข่าวประจำคนไทย ได้แชร์คลิปภาพเหตุการณ์วัยรุ่นขับรถกระบะโตโยต้า วีโก้ 4 ประตู สีขาว อุ้มชายคนหนึ่งขึ้นไปบนรถ พร้อมระบุข้อความว่า โกรธอะไรกันมา ทำไมต้องทำถึงขนาดนี้ ด่วนเหตุเพิ่งเกิด ณ ตลาดสุชาติรังสิต เกิดเหตุลักพาตัว อย่างอุกอาจ มีผู้ชาย 4-5 คน มาอุ้มชายคนนี้ที่ตลาด ล็อกคอขึ้นรถท่ามกลางสายตาประชาชน

ปรากฏว่าหลังเกิดเหตุดังกล่าว เมื่อช่วงกลางดึกวานนี้ (3 ก.พ.) มีผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความที่ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เพื่อดำเนินคดีกับชายวัยรุ่นประมาณ 10 คน ที่ขับรถกระบะโตโยต้า วีโก้ 4 ประตู สีขาว คันที่ปรากฏในคลิป ในข้อหาบังคับข่มขู่และทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ

จากการสอบถาม นายศราวุธ อายุ 26 ปี ผู้เสียหายเป็นพ่อค้าขายเสื้อผ้ามือสอง ได้เล่าว่า ตนคือผู้เสียหายที่ปรากฏอยู่ในคลิปดังกล่าว โดยช่วงเกิดเหตุได้มีชายวัยรุ่นเกือบ 10 คน ขับรถมาหาตนที่ตลาด ตนจำได้ว่า 6 คนในนั้นเป็นลูกน้องเก่า สมัยที่ทำงานเก็บเงินกู้และเป็นหัวหน้าสายให้กับเจ้าแม่เงินกู้รายใหญ่ในพื้นที่

อยู่ๆ กลุ่มวัยรุ่นก็มาฉุดอุ้มตนขึ้นไปบนรถ ขณะที่กำลังจัดเสือผ้าอยู่ที่ตลาด ก่อนที่ นายยงยุทธ หนึ่งในชายกลุ่มนั้นได้ชกใบหน้า 6-7 ครั้ง ตอนที่ถูกอุ้มขึ้นไปนั่งอยู่ในรถ พร้อมกับกล่าวหาว่าตนเอาเงินของบริษัทเงินกู้ไป ก่อนคนร้ายจะหยุดรถในลงที่ด้านหลัง สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ เพื่อพูดคุยก่อนที่จะให้ร้อยเวรเขียนบันทึกเพื่อให้เซ็นชื่อยินยอมรับสารภาพหนี้ 240,000 บาท โดยมีคนยินคุมเชิง ขณะนำตัวตนเองลงมานั่งเซ็นที่ห้องสืบสวนประจำวัน

แต่เพราะความกลัวจะไม่ปลอดภัยต่อครอบครัวที่เดินทางตามมาด้วย จึงยอมเซ็นชื่อไปโดยไม่ทราบว่ามีข้อความอะไรในเอกสารบ้าง หลังจากนั้นกลุ่มชายฉกรรจ์ก็ปล่อยตนเองไว้ที่ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ และเดินทางกลับไปโดยไม่เกรงกลัวกฏหมายบ้านเมือง

ต่อมาตนจึงเดินทางไปที่ รพ.ภูมิพลอดุลยเดช เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บที่เป็นแผลฟกช้ำที่ใบหน้าและดั้งจมูก ก่อนจะนำหลักฐานกลับมาแจ้งความอีกครั้ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นัดสอบปากคำเพิ่มเติมในวันที่ 5 กุมภาพันธ์นี้

นายศราวุธ ยังเปิดเผยอีกว่า เมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้ว ตนเองเคยทำงานเกี่ยวกับเงินกู้นอกระบบ โดยเป็นหัวหน้าดูแลชุดเก็บเงินกู้ หรือ หัวหน้าสายดูแลเงินของเจ๊คนหนึ่ง ซึ่งเป็นเจ้าของเงินโดยมีศูนย์อยู่ภายในหมู่บ้านรัตนโกสินทร์ 200 ปี โดยปล่อยคิดดอกเบี้ยร้อยละ 20 มีลูกน้องในสาย 6 คน

ต่อมาได้มีลูกน้อง 1 คนได้ยักยอกโกงเงินบริษัทไปประมาณ 500,000 บาท แล้วหนีหายตัวไป โดยเงินดังกล่าวไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับตน เพราะตนเองไม่ได้นำไป กระทั่งมีข้อครหาเรื่อยมา ทำให้ตนต้องออกจากวงการเงินกู้นอกระบบ หันมาค้าขายเสื้อผ้ามือสองที่ตลาดแทน ก่อนจะถูกกลุ่มชายฉกรรจ์มาอุ้มขึ้นรถไปดังกล่าว

ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง พ.ต.อ.อริยะ พันธ์ฟัก ผกก.สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ทราบว่าได้รับรายงานจาก ร.ต.ท.(หญิง)รัตนพร บุญหรรษา รองสารวัตรสอบสวนว่า เมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. วันที่ 3 กุมภาพันธ์ ได้มีกลุ่มคนเดินทางเข้ามาพบที่โรงพักพร้อมกับให้ตนลงบันทึกประจำวันว่า ได้ตกลงกันว่าจะมีการชดใช้หนี้เป็นจำนวนเงิน 240,000 บาท โดยยินยอมชดใช้ให้เป็นรายเดือนๆ ละ 5,000 บาท

ซึ่งขณะที่เดินทางมาลงบันทึกประจำวันนั้นไม่มีท่าทางว่าถูกทำร้ายหรือบังคับมา ทั้งสองฝ่ายคุยและตกลงกันเหมือนคนรู้จักกัน พร้อมทั้งลงรายมือชื่อไว้ทั้งสองฝ่าย ก่อนที่จะเดินทางกลับไป จนกระทั้งช่วงดึกได้รับรายงานจาก พ.ต.ท.สุเมธ จงเนติวิศิษฐ์ ที่เข้าเวรอยู่ในขณะนั้น ว่า นายศราวุธ ได้เดินทางเข้ามาพบ พร้อมแจ้งว่าถูกแก๊งค์เงินกู้ที่ตนเคยทำงานอยู่ด้วย พาตัวขึ้นรถแล้วไปทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ

โดยบังคับให้รับสภาพหนี้ 240,000 บาท ทั้งที่ตัวเองไม่ได้ก่อ ซึ่งในเบื้องต้นได้มอบหมายให้ ร.ต.ท.(หญิง)รัตนพร บุญหรรษา รองสารวัตรสอบสวน ให้เรียกคู่กรณีทั้งสองฝ่ายให้เข้ามาพบและสอบสวนเพิ่มเติมเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าแท้จริงเป็นอย่างไร หากว่ามีการกกระทำความจริงตามที่ถูกกล่าวหา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป