หนุ่มคลิปเตะเมีย-ผลักลูก เข้าพบตำรวจ ยันเป็นเรื่องในครอบครัว

ชายหนุ่มจากคลิปฉาวเตะเมีย ผลักแม่-ลูกชายล้มข้างถนน กลายเป็นที่วิจารณ์ในโลกออนไลน์ ล่าสุดเข้าพบชี้แจงกับตำรวจ ยืนยันเป็นเรื่องทะเลาะกันในครอบครัวเท่านั้น

เมื่อคืนวานนี้ (4 ก.พ.) พ.ต.อ.นิรุธ ประสิทธิเมตต์ ผกก.สภ.ปลายบาง สั่งการให้ชุดสืบสวน สภ.ปลายบาง ตรวจสอบชายที่ทำร้ายผู้หญิงและเด็กตามที่มีผู้เห็นเหตุการณ์แล้วบันทึกภาพไว้ก่อนนำไปโพสต์ในโซเชียลมีเดีย จากการตรวจสอบทะเบียนรถคันดังกล่าวพบว่าเจ้าของรถคือ นายนิรุท อายุ 35 ปี จึงได้เดินทางไปเชิญตัวมาสอบถามถึงเรื่องราวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

จากการสอบถาม นายนิรุท เจ้าของรถที่ปรากฏในคลิป ยอมรับว่าชายในคลิปที่ถูกแชร์ออกไปคือตนเอง โดยในวันเกิดเหตุตนและแม่ พร้อมด้วยภรรยาและลูกชาย 2 คนกำลังเดินทางกลับบ้าน จ.นครปฐม เพื่อที่จะไปเตรียมจัดงานทำบุญครบรอบ 100 วันให้กับพี่ชาย

เมื่อขับรถมาถึงจุดเกิดเหตุ ตนกับภรรยาได้เกิดมีปากเสียงโต้เถียงกันอย่างรุนแรง เนื่องจากภรรยาไปรับออเดอร์ของลูกค้ามาทำ ซึ่งตรงกับวันทำบุญของพี่ชายพอดี ตนเกรงจะทำของส่งให้ลูกค้าไม่ทัน ทำให้ภรรยาไม่พอใจใช้มือผลักมาที่ใบหน้าตน ขณะที่กำลังขับรถอยู่

ด้วยความโมโหตนจึงได้จอดรถข้างทาง หลังจากนั้นก็เป็นไปตามภาพในคลิปที่ปรากฏออกไป ซึ่งตนก็ขอยอมรับผิดกับสิ่งที่ทำไปนั้น ทั้งหมดเป็นเพราะอารมณ์ชั่ววูบและได้มีการพูดคุยปรับความเข้าใจกับแม่ ภรรยาและลูกๆ ทั้ง 2 คนแล้ว
ส่วนที่มีการโพสต์ว่าตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ข้อความดังกล่าวได้สร้างความเสื่อมเสียให้กับวงการตำรวจ จึงอยากให้ตรวจสอบข้อมูลก่อนจะนำไปโพสต์ หลังจากนี้ถ้ามีโอกาสจะเดินทางไปขอโทษกับพ่อแม่ของภรรยา เพราะตนทราบดีว่าลูกใครใครก็รัก

ทางด้าน พ.ต.อ.นิรุธ กล่าวว่าหลังมีการพูดคุยสอบถามนายนิรุทถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นพบว่าเป็นเรื่องปัญหาภายในครอบครัว ซึ่งนายนิรุทก็ได้ยอมรับผิดทุกอย่างกับสิ่งที่กระทำลงไป เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายตาม พ.ร.บ.ความรุนแรงในครอบครัว ถึงแม้ภรรยาและแม่จะไม่เข้าแจ้งความดำเนินคดีก็ตาม

อย่างไรก็ตามอยากฝากเตือนถึงผู้ที่ประสบเหตุและมีการบันทึกภาพไปโพสต์ในสื่อสาธารณะ โดยที่ไม่ทราบถึงข้อเท็จจริง อาจเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ. 2550 มาตรา 5 ผู้ที่พบเห็นหรือทราบว่ามีความรุนแรงในครอบครัวมีหน้าที่แจ้งต่อเจ้าพนักงานและห้ามไม่ให้นำภาพไปเผยแพร่ต่อสาธารณชน นอกจากนี้จะเข้าข่ายความผิดกฎหมาย พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ อีกด้วย