ย้อนรอย ดร.กาญจนา ผอ.สำนักอนุรักษ์ เคยฟ้อง ติ๊ก เจษฎาพร รุกป่าภูคิ้ง
จากกรณีที่ ดร.กาญจนา นิตยะ ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช แถลงข่าวการจับกุมนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารบริษัทอิตาเลียนไทยฯ และไม่ได้เป็นแขกพิเศษตามที่ถูกกล่าวอ้าง ระบุตัวเองได้รับโทรศัพท์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการแจ้งความประสงค์ก่อนล่วงหน้าที่จะเข้าพื้นที่ โดยแจ้งว่าจะเข้าไปกางเต็นท์ เพื่อศึกษาธรรมชาติ
โดยจะเดินทางเข้าไปพื้นที่ จำนวน 4 คน มีการสอบถามว่าหากจะเข้าไปพักในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรต้องทำอย่างไร ก็ได้บอกข้อมูลเบื้องต้นและประสานไปยังหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่ตะวันตก ซึ่งก็เป็นการทำงานตามขั้นตอนปกติ คือมีการทำหนังสือขออนุญาตตามขั้นตอนปกติ
และขอยืนยันว่าไม่ใช่แขกของตนเองตามที่มีการกล่าวอ้าง เพราะทำทุกอย่างตามขั้นตอน การจะอนุญาตเข้าพักได้หรือไม่ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่ามีอำนาจตัดสินใจ และตามขั้นตอนจะต้องแจ้งสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 เพชรบุรี (สบอ.3) ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (7 ก.พ.) ในโลกออนไลน์ก็ได้มีการแชร์ข่าวเมื่อปี พ.ศ.2554 ซึ่ง ดร.กาญจนา ซึ่งในขณะนั้น อยู่ในฐานะหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว (ทุ่งกะมัง) อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ ได้แจ้งจับ นายเจษฎาภรณ์ ผลดี หรือ ติ๊ก ดารานักแสดงชื่อดัง ในข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าหน้าที่ขณะไปถ่ายทำรายการเนวิเกเตอร์ ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว (ทุ่งกะมัง) อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ
โดย ติ๊ก เจษฎาภรณ์ ได้เข้าไปในพื้นที่ป่าหวงห้ามบนภูคิ้ง เขตรอยต่อ อ.เกษตรสมบูรณ์ จ.ชัยภูมิ ผิดตามข้อตกลงที่ขออนุญาตไว้
ต่อมา พ.ต.ท.ศรายุทธ ดาวแจ้ง พนักงานสอบสวน สภ.เกษตรสมบูรณ์ เจ้าของคดี เปิดเผยว่า จากการรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด ทั้งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และฝ่ายผู้แจ้งตัวแทนกรมอุทยานแห่งชาติฯ มีความเห็นสั่งไม่ฟ้องพระเอกดัง และรายการเนวิเกเตอร์
และส่งให้อัยการพิจารณาแล้ว ซึ่งก็มีความเห็นสั่งไม่ฟ้องในคดีนี้แล้วด้วยเช่นกัน เนื่องจากเห็นว่าต่างฝ่ายก็มีเจตนาที่ดีร่วมกันป้องกันรักษาป่า และอยากให้เป็นกรณีศึกษาได้เป็นบทเรียนร่วมกันต่อไปมากกว่า ซึ่งคดีนี้สามารถเจรจากันได้และต่างฝ่ายก็ไม่ได้มีความติดใจอะไรต่อกัน
ขณะที่ ดร.กาญจนา นิตยะ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว (ในขณะนั้น) เปิดเผยว่า ในเรื่องการยกฟ้อง ติ๊ก เจษฎาภรณ์ ผลดี และรายการเนวิเกเตอร์ หลังมีการแจ้งความดำเนินคดี ก็เป็นเรื่องที่ได้ปล่อยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจว่ากันตามพยานฐานหลักฐาน ซึ่งก็มีแนวทางที่จะเอาผิดได้โดยเฉพาะเรื่องการฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงาน ซึ่งก็เป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องจะเห็นสมควรได้
และคดีนี้ก็ไม่อยากไปทะเลาะกับใคร โดยเฉพาะดาราดัง ที่เข้าใจว่าอาจจะมีเจตนาที่ดีที่อยากจะร่วมรักษาป่า สัตว์ป่า ร่วมกัน และก็อยากจะสร้างมาตรฐานที่ให้ทุกคนได้ตระหนักร่วมกันจากนี้ไปว่าอะไรควร อะไรไม่ควร เพื่อให้เป็นแบบอย่างที่ดีร่วมกันต่อไปด้วย