เปิดชีวิต ตี๋ ดอกสะเดา เฉียดตายยกครัวเพราะเมาแล้วขับ เกือบเลิกเมียเพราะมีกิ๊ก

ตี๋ ดอกสะเดา นักแสดงตลกรุ่นใหญ่ที่สร้างเสียงหัวเราะให้กับวงการบันเทิงมากว่า 33 ปี ออกมาเปิดเผยถึงความหลังในอดีตที่แอบคบกิ๊กถึง 4 คน แต่ก็ถูกจับได้ทุกครั้ง แต่ครั้งล่าสุดทำเอาภรรยาทนไม่ได้หอบลูกชายหนี พร้อมเผยวินาทีเฉียดตายจากอุบัติเหตุเมาแล้วขับของตัวเองที่เกือบทำให้ตายยกครัวมาแล้ว ในรายการคุยแซ่บ SHOW ทางช่อง ONE31

เรืองกิ๊ก 4 คนนี่จริงมั้ย "มันก็เป็นช่วงนึงของวัยอาจจะช่วงวัยฮอร์โมนพลุ่งพล่าน ผมไม่อายนะเรื่องกิ๊ก 4 คน ผมมองเป็นเรื่องสนุก"

พี่สนุกแต่แฟนพี่ไม่สนุก "เขาเนี่ยเป็นตัวทำให้ผมสนุกเลย"

ล่าให้ฟังหน่อย "คือผมก็ไม่เข้าใจว่าเพื่อนเขาไปอยู่ทั่วประเทศหรืออะไร คือผมไปกับผู้หญิงไปเที่ยวในกรุงเทพฯ ไม่ไปนะกลัวเขาจับได้ เราไปพัทยาเลยไกลๆ แล้วก็บอกเขาเล่นละครเวที พอกลับมาเขาก็บอกว่าเขาเช็ครอบแล้วมันไม่มีนะ เขาก็ถามว่าไปกับใคร เดินใส่หมวกด้วย ผมถ้าไม่จับได้คาหนังคาเขาผมไม่ยอมรับหรอก ยังไงผมก็ไม่ยอมรับ เขาเลยเอารูปให้ดูแล้วถามว่าแล้วนี่รูปใคร เลยถามเขาว่าเอามาจากไหน เขาบอกว่าเพื่อนถ่ายส่งมาให้

นี่คือคนแรกที่จับได้ คบนานมั้ย "คนแรกครับ ก็สักพักนึงครับ เขาบอกให้โทรหาผู้หญิงคนนั้นเลย ผมเลยต้องโทรเพราะเขาขึ้นคร่อมบนตัวผมแล้ว ผมเลยรีบโทรแล้วบอกว่าแค่นี้นะเมียจับได้แล้ว"

แล้วคนที่ 2  เป็นยังไง "ก็ในกรุงเทพฯ ครับ พัทยาไม่ไปแล้ว ก็ไปนั่งกินข้าวกำลังนั่งกินเพลินๆ สักพักมีโทรศัพท์เขาเข้ามา เพราะเราบอกเขาว่าไปอัดรายการ แล้วรีบโทรหาเขาบอกว่าอยู่สตูฯ ไม่เชื่อให้ฟังเสียงคนหัวเราะซิ เขาถามว่าแต่เมื่อกี้อยู่ไหน ผู้หญิงที่นั่งกินข้าวด้วยใคร สุดท้ายเพื่อนเขาเป็นคนบอก เพื่อนเขาไปรับเหมาทำโรงแรมอะไรซักอย่างอยู่แถวนั้นแล้วเห็นผมพอดี"

ปกติอัดรายการเขาโทรตามมั้ย "เขาไม่เคยโทรเลย แล้วเรื่องของเรื่องเขามีดาวเทียมในโทรศัพท์คอยตามผมอยู่ครับ ผมก็ตัดสินใจยังไม่รับโทรศัพท์นะ จนกินข้าวเสร็จแล้วก็กลับไปที่สตูดิโอ"

อันนี้มีรูปถ่ายมั้ย "อันนี้ไม่มีรูป เพราะเพื่อนโทรมาบอก เขาเลยโทรหาผมทันทีเลย เขาบอกให้ผมต่อสายคุยกัน 3 สาย ผมบอกว่าทำไม่เป็น เขาบอกว่าแต่หนูทำเป็น ผมเลยตัดบทวางสายบอกว่าไปถ่ายรายการก่อน ผมเข้าไปในสตูฯ ขอให้ ผกก. ช่วย สรุปคือซื้อซิมให้ใหม่แล้วให้เอ็กซ์ตร้าในกองถ่ายสวมรอยเป็นผู้หญิงที่ไปกินข้าวด้วยให้โทรไปหาเมีย พอเตี๊ยมกันเป็นอย่างดีเลย สักพักเอ็กซ์ตร้าบอกว่าโทรเรียบร้อยแล้วค่ะ ผมก็สบายใจกลับบ้านไปปกติผมต้องไหว้พระก่อน ผมกำลังก้มลงเห็นกระดาษเขียนมาใส่หน้าว่าที่โทรมาตัวปลอม เพราะเมียผมจับพิรุธเก่ง"

เมียพี่ร้องไห้เสียใจบ้างมั้ย "สองครั้งนี้เขายังไม่ร้อง"

แล้วครั้งที่ 3 "ครั้งที่ 3  นี่คาหนังคาเขาเลยครับ เดินกอดกันลงมาจากคอนโด คอนโดผู้หญิงนะไม่ใช่ของผม เมียผมมาดักรออยู่  2 ชม คือครั้งนี้เป็นครั้งที่ผมไม่เอาอีกแล้ว คือผมขับรถเข้ามาบอกกับ รปภ. ว่าถ้าใครมาถามบอกว่าไม่รู้เรื่องนะ รปภ. เขาก็โอเค เราให้ตังค์เขาด้วยนะ เราก็ไปจอดรถตามปกติแล้วก็นั่งอยู่สักพักเขาส่งรูปทะเบียนรถเรามาละ ผมก็นึกในใจจะทำยังไงดีวะเนี่ย เรื่องของเรื่อง รปภ. เขาเปลี่ยนเวร แล้วเมียผมเขาดันไปถาม รปภ. อีกคนเขาอ้างว่ามาส่งของให้พี่ตี๋ พี่ตี๋เค้าสั่งเอาไว้ รปภ. เขาเลยบอกว่าเพิ่งเห็นผมเดินเข้าไปเขาเลยพาเมียผมไปนั่งรอ"

แล้วเดินกอดคอกันเดินลงมาเลย "ผมก็เดินพลิ้วลงมาเลย เปิดลิฟท์มาก็เจอเขาพอดี ผมเลยบอกว่าไม่มีอะไรให้กลับไปคุยกันที่บ้าน เขาก็ดีนะไม่มีไปอาละวาด ไม่ก้าวร้าว หรือด่าอะไรเลย"

เพราะเขาดีแบบนี้พี่ตี๋เลยหยุด "ต้องหยุดซิครับ เพราะเขาหนีผมไป พาลูกไปด้วย" 

ตอนนี้ลูกพี่อายุเท่าไหร่ "คนโตลูกสาว  25 คนกลาง  18  คนเล็ก 11  ขวบ"

คือเอาลูกไปหมดเลย "เอาไปคนเดียวครับ เพราะอีก 2 คนเขาโตแล้ว"

ตอนที่เรารู้ว่าภรรยาเราเอาลูกไปด้วยเรารู้สึกยังไง "ปกติเขาอยู่บ้านเขาจะต้องทำอะไรทุกอย่าง ไม่ว่าจะกิน จะธุรกรรมอะไรคือเขาทุกอย่าง โทรไปเขาก็ไม่รับ ผมก็จะร้องไห้แล้ว ผมก็รอดูก่อนว่ายังไง พอวันที่สองเขาก็กลับมาแล้ว พอกลับมาเราก็บอกเขาว่าไม่เอาแล้ว ไม่ทำอีกแล้วนะ" 

แล้วอีกครั้งนึง "อีกครั้งนึงผมจำไม่ได้แล้วครับ แต่อันล่าสุดนี่คือแรงสุด"

จากวันนั้นเป็นต้นมาพี่หยุดเลยหรอ มีอีกมั้ย "เขาไว้ใจผมครับ เพราะโทรศัพท์ผมจะวางเอาไว้เลย เป็นแต่ก่อนผมจะเอาโทรศัพท์ติดตัวตลอด บางทีเขาอยู่ไกลๆ เราอ่านไลน์เราก็อ่านไป ยิ้มไปตลอด" 

ตอนที่ภรรยากับลูกไม่อยู่ถามจริงๆ รู้สึกยังไง "ก็รู้สึกว่าเขาจะไปจริง ๆ เหรอ เพราะเราเข้าใจว่ามันหลายครั้ง"

แล้วถ้าเขาไปจริงๆ "ผมก็จะไปตามเขากลับมา ผมจะอ้อนวอนเขาให้กลับมา สัญญาว่าจะไม่ทำอีกแล้ว"

แล้วเขาว่าไง "เขาก็บอกว่าถ้าทำอีกคราวนี้ไปแน่"

เหตุการณ์นี้กี่ปีแล้ว " 4 ปีแล้ว" 

ถ้าพี่ต่ายดูอยู่ทางบ้านอยากบอกอะไร "ก็ไม่ต้องห่วง สบายใจได้ มันไม่มีอีกแล้ว อยู่อย่างเราก็มีความสุขแล้ว ไม่ต้องไปหาเรื่องปวดหัว คือเหนื่อย แต่บางทีเราเจอเราก็มีการวอกแว่กบ้างนะ แต่เราตัดใจ ห้ามใจไว้ดีกว่า" 

ย้อนเวลากลับไปจริงหรอที่สมัยก่อนพี่ตกอับไม่มีเงินกินข้าว "ถามว่ามีเงินกินข้าวมั้ยก็มีนะ ตอนอยู่วงลูกทุ่ง ตอนนั้นอยู่กับพี่เด๋อ ประมาณปี 2530 ก็ยังไม่ค่อยมีรายได้มากเพราะได้มาก็ใช้ไป วันไหนฝนตกวงก็ไม่ได้เล่น เราก็ไม่มีรายได้ แต่ผมมีความสุขนะ"

เขาว่ามีอยู่วันนึงพี่มีเงินติดกระเป๋าแค่ 5 บาท "เป็นวันสุดท้ายที่อยู่วงลูกทุ่งครับ พี่เด๋อเขาจะลงจากวงลูกทุ่ง มาเล่นคาเฟ่ แล้ววันนั้นจะเข้ากรุงเทพฯ ทั้งเนื้อทั้งตัวผมมีเงินอยู่ 5 บาท" 

แล้วตอนนั้นทำไงอ่ะ ถ้าหิว หรือต้องใช้ตังค์ "ผมก็อยู่กับพรรคพวกก็ไม่ได้อดอยากอะไร เพราะมากับรถของคณะที่เข้าต้องเข้ากรุงเทพฯ อยู่แล้ว"  

จริงหรือเปล่าพี่เกือบตายมาแล้วรอบนึง "อันนี้ถือว่าเป็นอุบัติเหตุที่เกี่ยวกับรถเลยครับ เพราะผมเป็นคนชอบดื่ม ช่วงนั้นยังไม่มีการตรวจแอลกอฮอล์ลเมาแล้วขับ นานมาแล้วครับเมื่อ 20  ปีที่แล้ว ไปไหนผมก็ดื่มตลอด สามารถเอาแก้วเอาวางที่ตักแล้วขับรถด้วย ผมก็จะมีอุบัติเหตุบ่อย จนพี่เด๋อบอกว่าปีนึงผมน่าจะขับรถแค่สามเดือน นอกนั้นเข้าอู่หมด"

แสดงว่าชนไม่หนัก "อันนั้นไม่หนักครับ แต่ที่เกือบตายนี่คือล่าสุดผมไปกับครอบครัวครับ ก็ดื่มเหมือนกันครับแล้วทำงานเหนื่อยด้วยแล้วเผลอหลับใน น่าจะเหยียบประมาณ 120-130 ผมวูบไปแล้วเริ่มตาขึ้นมา จะไปชนคันข้างหน้าแล้วเบรคไม่อยู่เลยหักพวงมาลัยไปมาแล้วดันไปดึงเบรคมือรถเลยหมุนซึ่งข้างหน้าเป็นรถเทรลเล่อร์ สรุปท้ายรถผมไปชนกับท้ายรถเทรลเล่อร์กระโปรงหลังกับกระจกผมนี่ขาดเลย พอชนเสร็จผมก็มองดูลูกเมียไม่เป็นไรมาก ผมมองกระจกหลังเห็นมือคนพยายามหยิบของในรถ ผมเลยตะโกนออกไปว่ายังไม่ตาย"

หลังจากเหตุการณ์นี้หยุดเลยมั้ยเรื่องการดื่ม "ผมก็บอกเขาเลยว่าพ่อไม่ดื่มเหล้า ไม่ดื่มเบียร์อีกแล้ว"

อยากบอกอะไรกับคนที่ยังเมาแล้วขับอยู่ "คือเมาแล้วขับมันอันตรายจริงๆ เมานี่ก็เสียเงิน เสียสุขภาพ แล้วก็อาจจะเสียชีวิตด้วย ถ้าจะดื่มนี่นั่งแท็กซี่ดีกว่า"

ติดตามรายการคุยแซ่บ Show ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ 14.00-15.00 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama และ www.sanook.com