โมโหหิว! หนุ่มเมียนมาคลั่งหิวข้าวไม่มีงานจับเด็กเป็นตัวประกัน
เศรษฐกิจย่ำแย่แนวชายแดนแม่สอด เป็นเหตุให้ชายชาวเมียนมาคลุ้มคลั่ง ใช้มีดจี้จับเด็กวัย 4 ขวบเป็นตัวประกัน ในพื้นที่ตำบลพระธาตุผาแดง อำเภอแม่สอด เจ้าหน้าที่ เจรจานานเกือบ สองชั่วโมง ก่อนชาร์จตัวช่วยเหลือเด็กได้อย่างปลอดภัย
เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำตู้หนองบัว เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอแม่สอด และเจ้าหน้าที่ทหารตลอดจนชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน ชาวบ้าน ร่วมกันเจรจา ชายเมียนมา ทราบชื่อคือนายอ่องมิว ไม่มีนามสกุล อายุ 41 ปี หลังคลุ้มคลั่ง ก่อเหตุ ใช้มีด จี้เด็กชายอ่องอ่อง วัย 4 ขวบเป็นตัวประกัน ในพื้นที่บ้านแม่ตาวใหม่ หมู่ 3 ตำบลพระธาตุผาแดง อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก
ทั้งนี้ชายคนร้าย เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่จัดรถให้ เพื่อต้องการเดินทางกลับไปยังจังหวัดเมียวดี ประเทศสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา จนมีพลเมืองดี ได้ใช้รถสามล้อเครื่อง เจรจาอาสาไปส่งชายดังกล่าว ซึ่งยังคงอยู่ในลักษณะใช้มีดจี้คอ เด็กเป็นตัวประกัน
จนเวลาผ่านไปเกือบสองชั่วโมง คนร้ายได้บังคับให้คนขับรถสามล้อ ขับรถวนไปมาหลายรอบบนถนนสายแม่สอด-อุ้มผาง อำเภอแม่สอด และคนร้ายเริ่มมีอาการเครียดอย่างเห็นได้ชัดโดยขู่จะฆ่าเด็ก ในขณะที่นายซอ พ่อของเด็ก ได้เดินทางติดตามเหตุการณ์และลูกชายที่ถูกจับเป็นตัวประกันอย่างใกล้ชิด
ด้านพันตำรวจโทจีระศักดิ์ ศรีธรรม รองผู้กำกับการฝ่ายสืบสวน สถานีตำรวจภูธรแม่สอด ได้เข้าเจรจา ร่วมกับเจ้าหน้าที่จิตเวช จากโรงพยาบาลแม่สอด โดยคนร้ายมีท่าทีอ่อนล้า ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะ มอบน้ำดื่มให้คนร้าย ในระหว่างนั้นเมื่อคนร้ายเผลอ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าชาร์จตัวจนสามารถช่วยเหลือตัวประกันเด็กได้อย่างปลอดภัย
ทั้งนี้เบื้องต้นเด็กได้ถูกส่งตัวเพื่อตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลแม่สอด ส่วนคนร้ายที่ก่อเหตุ ถูกควบคุมตัวไปสอบสวนที่สถานีตำรวจภูธรแม่สอด
อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ในครั้งนี้ ทำให้มีพลเมืองดี ที่จะเข้าช่วยเหลือเด็ก ถูกมีดคนร้ายบาด ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย คือนายติ๊บ นวลเขียว ส่วนสาเหตุของการก่อเหตุนั้นเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบสวน แต่เบื้องต้นจากการสอบถามผู้อยู่ในเหตุการณ์ทราบว่านายอ่องมิว คนร้าย ได้เดินทางมาที่กระท่อมในไร่ ที่มีนายซอ พ่อของเด็ก โดยหิวข้าวอยากกินข้าวและต้องการทำงานด้วย
แต่ด้วยเหตุผลใดไม่ทราบเกิดคลุ้มคลั่งจับเด็กจำนวน 2 คน ซึ่งเป็นลูกของนายซอ เป็นตัวประกัน โดยแม่เด็กสามารถช่วยเด็กไว้ 1 คน แต่อีกคนไม่สามารถช่วยได้ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะพยายามเจรจาและชาร์จตัวช่วยเหลือไว้ดังกล่าว ทั้งนี้จึงมีการสันนิษฐานว่าอาจเกิดจากความเครียดเรื่องงาน ส่วนกรณีการใช้สารเสพติดด้วยหรือไม่นั้น จะต้องมีการตรวจสอบที่แน่ชัดต่อไป