เจอตัวทันควัน สาวนั่งถ่ายรูปปะการังหมู่เกาะสุรินทร์ ยันรู้เท่าไม่ถึงการณ์

เจ้าหน้าที่อุทยานฯ เจอตัวนักท่องเที่ยวถ่ายรูปนั่งบนปะการัง หมู่เกาะสุรินทร์ ดำเนินคดีปรับ 1,500 บาท เจ้าตัวขอโทษ เพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์

จากกรณีที่มีผู้โพสต์ภาพนักท่องเที่ยวดำน้ำที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ บริเวณจุดดำน้ำแหลมแม่ยาย มีการโพสต์ท่าถ่ายรูปนั่งบนปะการัง โดยไม่สนใจว่าปะการังจะเสียหายหรือไม่ เพราะคิดว่าเป็นเพียงก้อนหินใต้ทะเล กระทั่งมีผู้นำภาพดังกล่าวไปโพสต์แชร์ต่อบนโลกโซเชียลมีเดีย กลายเป็นกระแสวิจารณ์ต่างๆ นานา

พร้อมกับขอให้ทางเจ้าหน้าที่ของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์เร่งหาตัวนักท่องเที่ยวคนดังกล่าว เพื่อเอาผิดจากการกระทำดังกล่าวเนื่องจากว่า จุดชมวิวแหลมแม่ยายเป็นจุดดำน้ำที่มีปะการังสวยงามหลายชนิด เป็นที่อยู่อาศัยของปลานีโม่อีกหลายสายพันธ์ เป็นอีกจุดหนึ่งที่นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวเกาะสุรินทร์จะต้องมาดำน้ำดูปะการังที่นี่

ล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (8 ก.พ.) หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ นายพุทธพจน์ คูประสิทธิ์ ได้สั่งการให้ชุดปฏิบัติการใต้น้ำประจำอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ลงพื้นที่โดยทันที พร้อมชุดปฏิบัติการจนสามารถพบนักท่องเที่ยวคนดังกล่าวพร้อมเพื่อนจำนวน 3 คน

จากนั้นได้เชิญตัวมาแจ้งข้อหา โพสต์ภาพถ่ายขณะนั่งอยู่บนปะการัง ซึ่งการกระทำ​ดังกล่าว​เป็น​การกระทำ​ผิด​ตาม พ.ร.บ.อุทยาน​แห่งชาติ​ พ.ศ. 2504 ตามมาตรา 16(2) ฐานทำด้วยประการใดๆให้เป็น​อันตราย​ หรือทำให้เสื่อม​สภาพ​แก่ทรัพยากร​ธรรมชาติ​ ประกอบ​มาตรา 26 มีโทษ​ปรับไม่เกิน 500 บาท และผิดตามมาตรา 18 ฐาน ไม่ปฏิบัติตาม​คำสั่ง​ของพนักงาน​เจ้าหน้าที่​ ประกอบ​มาตรา​ 25 มีโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท

ซึ่งเจ้าหน้าที่​อุทยาน​ได้ทำการบันทึกและเปรียบ​เทียบปรับนักท่องเที่ยว​จำนวน 3 คน คนละ 1,500 บาท พร้อมทั้งมีการสร้างความเข้าใจ ตักเตือน​แก่นักท่องเที่ยว​ให้ทราบถึงกฎระเบียบ​ในการเข้ามาท่องเที่ยว​ใน​อุทยาน​แห่งชาติ​ โดยไม่ส่ง​ผลกระทบ​ต่อ​ทรัพยากร​ธรรมชาติ

ต่อมาผู้ใช้เพจเฟซบุ๊ก​ดังกล่าว ได้ออกมาโพสต์ขอโทษ​ต่อสังคม พร้อมกล่าวแสดงความเสียใจเพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์​​ต่อ​เหตุการณ์​ที่เกิดขึ้น ตนและเพื่อนๆ รู้สึกผิดที่กระทำการแบบนั้น​เป็นอย่างมาก

ขณะที่หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ กล่าวว่า เหตุเช่นนี้มักจะมีปัญหาการลักลอบเข้าไปดำน้ำทำลายปะการังจากฝีมือของนักท่องเที่ยวบางรายเป็นประจำ แม้จะมีการประชาสัมพันธ์ ป้ายข้อความ หรือแม้จัดเจ้าหน้าที่คอยดูแล เพื่อไม่ให้มีการดำน้ำทำลายปะการังอย่างผิดวิธี แต่ก็มีนักท่องเที่ยวที่ไม่ปฏิบัติเล็ดลอดสายตาเจ้าหน้าไปได้อยู่เรื่อยๆ