18 ล้อเลี้ยวไม่ทันมอง ขยี้หนุ่มขี่รถร่วมแก๊งทำความดี เสียชีวิตสยอง
ขบวนจักรยานยนต์วัยรุ่นจากชลบุรี จะไปร่วมทำกิจกรรมสร้างความดีให้สังคมที่ระยอง แต่ไปไม่ถึง รถ 18 ล้อเลี้ยวตัดหน้า เหยียบทับร่างติดล้อเสียชีวิต
(10 ก.พ.) ร.ต.อ. ยม พรหมศาสตร์ ร้อยเวร สภ.นิคมพัฒนา จังหวัดระยอง ได้รับแจ้งจากกู้ภัยสยามร่วมใจ ปู่อินทร์ จ.ระยอง ว่ามีอุบัติเหตุรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ บริเวณ ถนนสาย 36 กระทิงลาย-ระยอง ขาเข้าระยอง ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 28-29 หมู่ 6 ตำบลมะขามคู่ อำเภอนิคมพัฒนา จังหวัดระยอง บริเวณปากซอย 6 ทางเข้าโรงงานอุตสาหกรรมหนัก จึงรีบรุดไปที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุพบรถเทรลเลอร์นิสสัน สีฟ้า จอดอยู่ในลักษณะส่วนหัวเลี้ยวซ้ายเข้าไปในถนนซอย 6 ส่วนหางยังอยู่บนถนนสาย 36 เต็มช่องจราจรเลนซ้ายสุดหนึ่งช่อง ทำให้รถยนต์ที่วิ่งใช้เส้นทางต้องเบี่ยงเลนการจราจรติดขัด จากการตรวจสอบบริเวณใต้ท้องรถบรรทุกพบซากรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟ 125 สีน้ำเงิน สภาพรถพังเสียหายทั้งคัน ผู้ขับขี่อัดติดเสียชีวิตอยู่ใต้ท้องรถ ทราบชื่อ นายปิยเดช อายุ 23 ปี
ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 50 เมตร พบรถจักรยายนต์ฮอนด้าซูเปอร์คัพ 110 จอดตกอยู่ในร่องเกาะกลางถนน มีผู้บาดเจ็บสาหัสนอนหมดสติอยู่ เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น และนำตัวส่งโรงพยาบาลนิคมพัฒนา ทราบชื่อ นายฐานทัพ อายุ 16 ปี ส่วนคนขับรถบรรทุก คาดว่าหลบหนีไปแล้ว
จากการสอบสวนเบื้องต้น พยานผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุมีกลุ่มรถจักรยานยนต์ขับมาด้วยกันราวๆ 50 คัน ทุกคันเดินทางมาจากอำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี เพื่อจะไปร่วมกิจกรรมทำความดี ณ ชายหาดบ้านเพ จังหวัดระยอง
เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นทางแยกซ้าย รถจักรยานยนต์ทุกคันวิ่งข้ามไปหมดแล้ว เหลือเพียงสองคัน ซึ่งวิ่งอยู่ห่างจากกลุ่ม รถเทรลเลอร์บรรทุกเหล็กเส้นวิ่งมาจากชลบุรี กำลังจะเลี้ยวซ้ายเข้าถนนซอย 6 โดยไม่ทันสังเกตเห็นว่ามีรถจักรยานยนต์เหลืออีกสองคันวิ่งอยู่ด้านท้ายขบวน จึงชนรถจักรยานยนต์คันแรกกระเด็นตกลงไปในร่องเกาะกลางถนน
ส่วนรถจักรยานยนต์อีกคันหลบไม่พ้น หลุดเข้าไปใต้ท้องรถ จึงถูกล้อรถเหยียบติดอยู่ใต้ท้องและเสียชีวิต หน่วยกู้ภัยต้องใช้เครื่องตัดถ่างชุดใหญ่เข้าให้การช่วยเหลือยกรถบรรทุกให้ลอยขึ้น ก่อนจะช่วยกันดึงซากรถจักรยานยนต์และร่างผู้เสียชีวิตออกมาโดยใช้เวลานาน 30 นาที
เจ้าหน้าที่ให้นำส่งโรงพยาบาลนิคมพัฒนาเพื่อให้แพทย์ตรวจพิสูจน์ก่อนส่งมอบให้ญาติรับไปดำเนินการตามประเพณี เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่จะดำเนินการติดตามตัวผู้ขับขี่รถบรรทุกคันที่ก่อเหตุ มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป