4 พี่น้องถูกพ่อแม่ทิ้งอยู่บ้านกลางป่า มีเพียงกล้วยประทังชีวิต

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (13 ก.พ.) เมื่อเวลา 11.00 น. นางสาวชนัญชิดา สุดรอด พนักงานเจ้าหน้าที่คุ้มครองเด็ก บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดชุมพร เปิดเผยว่า ทางบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดชุมพร ได้รับเรื่องร้องเรียนจากพลเมืองดี ว่าพบหนูน้อย 4 คนพี่น้อง ใน ม.4 ต.สองพี่น้อง อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร มักจะถูกพ่อแม่ปล่อยให้อยู่บ้านเพียงลำพัง

โดยบ้านหลังดังกล่าวปลูกอยู่กลางป่าสวนยางพารา อยู่ห่างจากชายแดนไทย-เมียนมา เพียง 1 กม. เป็นบ้านในโครงการบ้านท้องถิ่นไทย เทิดไท้องค์ราชัน 84 ปี ที่ทาง อบต.สองพี่สอง ได้ปลูกสร้างให้กับ นายถัด อายุ 42 ปี ได้อยู่อาศัยตามวัตถุประสงค์เป้าหมายของผู้ยากจน

เจ้าหน้าที่พบ ด.ช.เฟิร์ส อายุ 10 ปี ซึ่งเป็นพี่คนโต กำลังเลี้ยง ด.ช.เด อายุ 6 ปี และ ด.ญ.ฝ้าย อายุ 4 ปี อยู่หน้าบ้าน ซึ่งทั้งสามคนอยู่ในสภาพสวมเสื้อผ้ามอมแมม เนื้อตัวเหมือนไม่เคยได้อาบน้ำชำระร่างกายมาเป็นเดือน ส่วนภายในบ้านเป็นห้องโถงเล็กๆ พบว่ายังมีมุ้งกางอยู่เต็มห้อง

โดยในมุ้งเจ้าหน้าที่ยังพบ ด.ช.วุฒิ อายุ 8 ปี ซึ่งอยู่ในสภาพร่างกายพิการแขนขาลีบ นอนอุจจาระแตกเต็มแพมเพิร์สที่สวม เจ้าหน้าที่จึงได้ช่วยกันเก็บมุ้งออกเพื่อให้ลมพัดผ่านเอากลิ่นอับ ที่ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งเจือจางไป ก่อนช่วยกันทำความสะอาดชำระล้างตัว ด.ช.วุฒิ

นอกจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่ยังตรวจสอบพบว่า ด.ช.เด วัย 6 ปี บริเวณก้นและเอว มีร่องรอยถูกทำร้ายด้วยของเหล็ก เป็นรอยแนวยาวหลายแนวอีกด้วย

สอบถาม ด.ช.เฟิร์ส พี่ชายที่ต้องดูแลน้องทั้งสาม บอกกับทางเจ้าหน้าที่ว่า นายถัด และนางลำปาง ซึ่งเป็นพ่อแม่ มักจะไม่ค่อยจะอยู่บ้าน  ทำให้ตนเองซึ่งกำลังเรียนอยู่ระดับชั้นประถมปีที่ 4 ต้องหยุดเรียนอยู่เป็นประจำ เพื่อต้องคอยดูแลน้องทั้งที่พิการและปกติเพียงลำพัง โดยจะมีกล้วยวางไว้ให้กินเวลาที่หิว

ด้านนายกิตติ เทพเต็ม นายก อบต.สองพี่น้อง เผยว่า สำหรับตัวนายถัดและนางลำปาง พ่อแม่ของหนูน้อยทั้ง 4 คนนี้ ที่ผ่านมา ทางผู้นำท้องที่ เคยสืบพบว่ามีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติดระดับผู้เสพ ซึ่งก็ได้นำตัวมาทำข้อตกลงให้หยุดพฤติกรรมดังกล่าว และชุมชนได้พยายามช่วยเหลือกันมาโดยตลอด

และบ้านหลังนี้ก็เช่นกันได้ผ่านประชามติจากชุมชน ที่ต้องการช่วยเหลือครอบครัวของนายถัด เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ ที่ต้องอาศัยบ้านที่ผุพังหลังเล็กๆ มีหลังกันฝน ฝาบ้านก็เอาเศษสิ่งของที่เหลือใช้มาบุตีปิดเพื่อกันแดดกันลมและฝน

นายกิตติ กล่าวว่า วันนี้ได้มาเห็นสภาพบ้าน กับคนที่ได้รับมอบบ้านขององค์ราชัน ตนเองเสียความรู้สึกเป็นอย่างมาก แทนที่จะดูแลรักษากลับปล่อยปละละเลย หนำซ้ำยังไม่ดูแลและใส่ใจลูกทั้ง 4 คนให้ดี ตรงตามเจตนารมณ์ของการยกระดับคุณภาพชีวิตของครอบครัว บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดชุมพรได้ลงช่วยเหลือนำตัวเด็กไปดูแล เพราะหากปล่อยให้อยู่แบบนี้ อนาคตของเด็กก็ยิ่งจะแย่ลง

ด้าน นางสาวชนัญชิดา สุดรอด พนักงานเจ้าหน้าที่คุ้มครองเด็ก บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดชุมพร กล่าวว่า หลังจากที่ได้รับการร้องเรียนมา ทางบ้านพักเด็กก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ประสานงานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องระดมกันมาช่วยเหลือ

เพราะเห็นว่าการเลี้ยงบุตรปล่อยปละละเลยไม่ได้มาตรฐานขั้นต่ำตาม พรบ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 ก็จะนำตัวเด็กเข้ามารับการคุ้มครองสวัสดิภาพที่บ้านพักเด็กและครอบครัวไว้ก่อน จนกว่าทางพ่อแม่เด็กจะมีความพร้อมกว่าที่เป็นอยู่ในขณะนี้ จึงค่อยมาแสดงความจำนงรับเด็กไปเลี้ยงดูเองต่อไป