กู้ภัยซีเรียแทบทรุด บ้านเจอระเบิดลง แม่สิ้นใจต่อหน้าต่อตา
อาสาสมัครกู้ภัยซีเรียแทบทรุด พบบ้านตัวเองเจอระเบิดลง ผู้เป็นแม่ถูกทับอยู่ใต้ซากปรักหักพัง สิ้นใจต่อหน้าต่อตา
สำนักข่าว BBC2 รายงานว่า (14 ก.พ.) อาสาสมัครกู้ภัยคนหนึ่งในซีเรียต้องตกใจและเสียใจอย่างมาก เมื่อพบว่าบ้านของตนเองถูกระเบิดโจมตี ระหว่างที่กำลังปฏิบัติหน้าที่กู้ภัยจากเหตุโจมตีทางอากาศ เมื่อเขารุดไปถึงที่เกิดเหตุก็พบผู้เป็นแม่เสียชีวิตต่อหน้าต่อตา และท้ายที่สุดเขาก็ทำได้เพียงเข้าไปยกร่างของเธอออกมาจากบ้านที่กลายเป็นซากปรักหักพังนั้น
ซามีร์ ซาลิม (Samir Salim) เป็นสมาชิกอาสาสมัครกู้ภัยคนหนึ่งของ “กลุ่มหมวกขาว” (White Helmets) เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ที่เขตกูตาตะวันออก ใกล้เมืองดามัสกัส ซึ่งเป็นเขตที่กองกำลังฝ่ายกบฏต่อต้านรัฐบาลซีเรียยึดครอง และถูกรัฐบาลปิดล้อม ถูกโจมตีทางอากาศจากกองทัพรัฐบาล เขาและพี่น้องอีกสามคน รวมทั้งเพื่อนร่วมทีมกำลังยุ่งอยู่กับภารกิจกู้ภัย แต่ทันใดนั้นเขาก็พบว่าจุดปลายทางที่กำลังรุดไปนั้นคือบ้านของเขาเอง
ซามีร์บอกว่า “ผมกำลังจะออกไปช่วยเหลือ เห็นควันดำลอยมาจากทางไปบ้านของเรา ผมรีบวิ่งเข้าไปดู และพบว่านั้นคือบ้านเราเอง” เมื่อเขาไปถึงก็พบว่าบ้านที่เขาเคยอยู่นั้นกลายเป็นซากปรกหักพังไปแล้ว เขาและเพื่อนร่วมทีมได้รีบเข้าไปช่วยชีวิตพ่อของเขา หลานที่เพิ่งเกิดได้ไม่นาน น้องสาวและพี่สะใภ้
แต่ขณะที่พบแม่ของเขานั้นกลับสายเกินไป เธอถูกแผ่นอิฐขนาดใหญ่ถล่มทับ ซึ่งพวกเขาไม่สามารถยกแผ่นอิฐนั้นออกได้ และเขาทำได้เพียงเฝ้ามองแม่ที่ถูกทับอยู่นั้นจนหมดลมหายใจเฮือกสุดท้ายอย่างตะลึงงัง
เขาบอกว่า “ผมรีบเข้าไป แต่สถานการณ์ดูสิ้นหวังมาก เพดานพังถล่มลงมา ท่านถูกทับอยู่ด้านใต้ ผมยกแผ่นอิฐนั้นขึ้นไม่ได้ ท่านยังมีชีวิต แต่ไม่สามารถพูดได้ และใช้สายตาขอร้องอ้อนวอนให้ผมช่วยท่านออกมา”
ทั้งนี้ การโจมตีทางอากาศของรัฐบาลซีเรียทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 200 รายในเวลาหนึ่งสัปดาห์ อย่างไรก็ตาม ซามีร์ได้ย้ายไปอยู่บ้านใหม่กับสมาชิกในครอบครัวที่เหลืออยู่ และเขาปฏิญาณว่าจะยังทำหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยต่อไป
อัลบั้มภาพ 4 ภาพ