ฟังมุม โอ๊ต ปราโมทย์ ถูกดราม่าหยาบใส่วง BNK48 โดนด่าลามถึงพ่อแม่

กลายเป็นประเด็นจนเป็นเรื่องเป็นราว เมื่อสาวๆ ตัวแทนจากวงสุดฮิตในขณะนี้อย่าง “BNK48” ได้ไปออกรายการที่หนุ่มอารมณ์ดีอย่าง “โอ๊ต ปราโมทย์” ร่วมเป็นพิธีกร แต่กลับหลุดคำหยาบใส่น้องๆ นักร้องกลุ่มดังกล่าวจนทำให้แฟนคลับไม่พอใจและเกิดเป็นกระแสดราม่าขึ้นมา ถึงขั้นที่หนุ่มโอ๊ตถึงกับตัดพ้ออยากหยุดทุกอย่าง

ล่าสุดในงานโออิชิ โอทั้งคู่ ยูเลือกได้ “โอ๊ต ปราโมทย์” ได้ออกมาเปิดใจกับสื่อมวลชนให้ฟังเป็นครั้งแรกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยเจ้าตัวได้ชี้แจงให้ฟังว่าหากใครดูรายการจริงๆ จะรู้ว่านั่นคือตัวตนของตัวเอง และคำพูดหยาบคายไม่ได้พูดกับน้องๆ เลยสักคำ พร้อมยอมรับบางคนไม่พอใจต่อว่าถึงพ่อแม่ ซึ่งส่วนตัวพ่อแม่ทราบข่าวแล้วแต่ตนก็ได้อธิบายทุกอย่างให้เข้าใจ

ถามถึงเรื่องที่วง BNK48 ไปออกรายการแล้วเกิดกระแสดราม่าตามมา ?
"คือเป็นรายการที่เราทำอยู่แล้ว ผมว่าถ้าได้ดูคลิปจะรู้ว่าเราไม่ได้ไปพูดถึงน้องเขา ก่อนขึ้นรถผมได้คุยกับน้องเขาและคุยกับทีม คุยกันหมดแล้วว่ารูปแบบรายการเป็นแบบนี้ เราก็ถามว่าอะไรบ้างที่ห้าม ซึ่งก็ได้รับรู้ว่าห้ามโดนตัว ห้ามถ่ายภาพ เราก็เคารพกฎ เพราะถ่ายทำรายการเสร็จลงมาจากรถก็คุยกันแฮปปี้ จนกระทั่งรายการออกอากาศก็ยังคุยกันอยู่เลยว่าสนุกดี ไม่คิดว่ามันจะเป็นประเด็นดราม่าขึ้นมา"

ตอนแรกตกใจไหมที่ประเด็นดราม่ามันรุนแรง ?
"ตกใจครับ คือเราได้ดูแล้วด้วย แล้วก็รู้สึกว่าเราไม่ได้ไปคุกคามน้องเขา หรือว่าไปพูดจาไม่ดีใส่น้องเขา ซึ่งถ้าดูรายการดีๆ จะเห็นว่าตอนที่ผมหันไปคุยกับน้อง ผมพูดกับน้องเพราะทุกคำเลยนะ เพราะว่าเราเองก็เป็นแฟนคลับน้องเขานะ เวลาที่เราไปเล่นคอนเสิร์ตเราก็พยายามเล่นเพลงของน้องเขาตลอดเพราะเราชื่นชอบ ทั้งเพลงและตัวของน้อง ซึ่งถ้าคนติดตามผมจะรู้ดี"

พอมีกระแสได้คุยกับน้องเขาบ้างหรือยัง ?
"ในความโชคร้ายมันก็มีความโชคดี น้องไปเป็นแขกรับเชิญพิเศษของคอนเสิร์ต The Mask Singer ที่ผ่านมา ก็ได้เจอกันเลยคุยกัน ซึ่งน้องๆ ก็เดินมาให้กำลังใจ บอกว่าพวกหนูเข้าใจนะว่ามันไม่ได้มีอะไร”

จากนี้จะเกร็งไหมในการร่วมงานกับน้อง ?
"ไม่เลยก็ปกติเหมือนคนทำงานในวงการบันเทิงด้วยกัน แต่แค่เรารู้ข้อจำกัดของน้องเขาว่าเป็นยังไง"

แต่ตอนนี้คนตีความหมายผิดไปแล้ว ?
"ผมว่ามันมาจากเรื่องอื่นด้วย ตอนนี้มันเป็นการด่ากันเพื่อความหมั่นไส้เพราะความอยากด่า เราก็เลยทวิตเตอร์ไปอันล่าสุดว่าวันที่เรารู้จักกันวันแรกเราก็เป็นแบบนี้ รายการก็เป็นแบบนี้ เราไม่ได้เปลี่ยนเลย เราก็ยังต่ำตมเหมือนเดิม ทำไมถึงจำวันแรกที่เราเจอกันไม่ได้ว่าเราถูกใจถูกคอกันเพราะอะไร"

แต่ก็มีคนมาให้กำลังใจทางเราเยอะเหมือนกัน ?
“มีเยอะมากครับสิ่งที่ผมเป็นห่วงที่สุดคือตอนนี้กระแสมันตีกลับไปว่าน้อง หรือไปว่าบริษัท ผมก็เลยบอกทุกคนรอบตัวว่าโอเค ทุกคนไม่ต้องเป็นห่วง เรายังเป็นแฟนคลับน้องเหมือนเดิม ชื่นชอบน้องเขาเหมือนเดิม"

จริงๆ มันบวกกับกระแสเก่าที่เราเจอ ?
"ใช่ผมคิดว่ามันเป็นช่วงที่น้ำกำลังเชี่ยวช่วงนี้เลย กฐินหลายกองนิดนึงครับผม (หัวเราะ)”

จะทำให้เราระมัดระวังในการคำพูดมากขึ้นไหม เพราะมีคนแสดงความคิดเห็นว่าเราจาบจ้วงผู้หญิง แต่ว่าผู้หญิงก็ยินยอม ?
"เป็นรายการเก่าใช่ไหมครับ จะพูดว่ายังไงดีคือในตอนนี้ผมมองว่าสังคมของเราใช้คำว่าคุกคามทางเพศโดยที่เรายังไม่รู้ว่าความหมายจริงๆ มันคืออะไร เส้นแบ่งของคำว่าคุกคามทางเพศมันไม่เหมือนกัน คือเราเองเราพยายามไม่แตะเนื้อต้องตัวน้องเลย ก่อนเข้ารายการก็คุยกันก่อน กระทั่งถ่ายทำรายการเสร็จแล้วก็คุยกัน น้องเองยังส่งข้อความหาเราเลย เขาถามเราว่าเป็นยังไงบ้าง โอเคไหม ตัวน้องก็โอเค เขาก็อยากช่วยถ้าเห็นว่าเราไม่สบายใจ แต่เราก็บอกว่าให้น้องอยู่นิ่งๆ ดีกว่า เพราะว่าถ้าน้องออกมาเดี๋ยวเราก็โดนด่าอีก (หัวเราะ) แล้วถ้าอะไรที่จะอธิบายได้ว่าอะไรคือคุกคามทางเพศผมก็อยากจะอธิบายนะ ตอนนี้เราต้องทำความเข้าใจให้มันถ่องแท้ก่อนว่าการคุกคามทางเพศมันแค่ไหนและมันได้ขนาดไหน"

รูปแบบรายการหรือคำพูดในรายการจะต้องระวังมากขึ้นไหม ?
"เราเป็นเหมือนเดิมเลย หลายคนด่าเราถึงพ่อถึงแม่ ด่าว่าเป็นเพราะเราต่ำอย่างนี้ไงเลยทำได้ แต่จริงๆ แล้วเราเป็นคนอย่างนี้ เราก็ไม่เคยประดิษฐ์ตัวเองให้เป็นคนหยาบคาย ด่าผมหยาบคายไม่โกรธนะ แต่ถ้าด่าว่าผมสร้างภาพให้หยาบคายเพื่อดังมันก็อีกเรื่องหนึ่ง แล้วคลิปทุกรายการผมก็เป็นอย่างนี้ทุกรายการ งานทุกงานที่ผมไปลูกค้าเห็นลูกค้าก็รับรู้อยู่แล้วว่าเราเป็นคนแบบนี้ แล้วรายการของเราเป็นรายการทางเลือกเป็นรายการที่โอเคหยาบคาย แต่ว่ามันก็เป็นตัวตนของเราแบบนี้ มันเป็นรายการทางเลือกและรายงานทางเลือกคือคุณต้องเลือกที่จะดูรายการผม พี่ก็ต้องค้นหาเพื่อจะได้ดูเราไม่ได้เอาไปยัดเหยียดให้เขาดูนะ ถ้าพี่จะมาด่าผมว่าทำอะไรออกฟรีทีวีพูดจาหยาบคาย คือออกฟรีทีวีเหมือนยัดเหยียดให้เด็กดูมันก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่อันนี้คือรายการทางเลือกหมายความว่าถ้าเขาดูรายการเราที่เลือกที่จะดูไงถ้ากดดูแล้วไม่ชอบก็แค่ดูอันอื่นไป”

ก็ยังยืนยันว่าจะไม่เปลี่ยนรูปแบบรายการ ?
"เป็นคนเดิมครับ ทุกวันนี้ที่ผมมีงานมาได้ไม่ใช่ว่าผมเป็นแบบนี้เหรอ ผมไม่อยากทรยศคนที่ชอบผมจริงๆ ถ้าผมเปลี่ยนไปคนก็ด่าอีก”

เห็นบอกว่ามีคนด่าถึงพ่อถึงแม่เรา ท่านได้ทราบข่าวที่เกิดขึ้นบ้างไหม ?
"แม่ก็พอรู้ข่าวบ้าง อธิบายให้แม่ฟังแล้วแม่ก็เข้าใจ เราบอกอยู่แล้วเพราะแม่เองก็เห็นรายการ แม่ก็เห็นว่าในบริบทในการคุยกันไม่ได้เป็นการว่าใส่น้อง แต่ผมพูดกับคนอื่นแค่นั้นเอง แต่มันอยู่ในรถคันเดียวกัน ซึ่งโอเคใช้คำพูดไม่เหมาะสม มันเป็นเรื่องที่คนจะต้องด่าแล้วก็ยอมรับ"

ถามถึงสิ่งที่โพสต์ในทวิตเตอร์ว่าอยากจะหยุดทุกอย่าง ?
"มันอยากหยุดเพราะว่าเราคุยกับพลอย หอวัง ว่าอยากเลิก เราเคยสนุกกับการทำงาน แต่ผมก็คิดว่าไม่ควรมีใครบนโลกใบนี้ที่สมควรจะถูกชี้หน้าด่าหรอกทั้งๆ ที่เรายังไม่ได้ทำความผิดอะไรที่มันร้ายแรงถูกไหม ถ้าผมขึ้นรถแล้วปาถุงขยะใส่น้องๆ อันนั้นค่อยมาด่ากัน หรือว่าเราพูดจาไม่ดีใส่น้องเขาก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่อันนี้ดูได้เลยว่าผมเบามาก ผมพยายามเลี่ยง พยายามคุยกับน้องด้วยถ้อยคำที่ดี เราก็เสียใจ”

สภาพจิตใจตอนนี้เป็นยังไงบ้าง ?
“ตอนนี้ดีขึ้นเพราะว่าเราได้พูดคุยกับน้อง แล้วก็ทางทีมงานของน้องก็มาให้กำลังใจเรา เราก็บอกเขาไปว่าไม่เป็นไรครับ คนอย่างผมโดนด่ามาทั้งชีวิตอยู่แล้ว สบายมากครับ สบายใจได้เลย (ยิ้ม)”