"เปรี้ยว ฆ่าหั่นศพ" ขึ้นศาลยืนยันไม่ได้ฆ่า "น้องแอ๋ม"
"เปรี้ยว หั่นศพ" ยืนยันไม่ได้ฆ่า "น้องแอ๋ม" ขณะที่ "เอิน-แจ้ และ วศิน" รับสารภาพเพียงร่วมทำลายศพเท่านั้น
วันนี้ (20 ก.พ.) ที่ศาลจังหวัดขอนแก่น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการสอบคำให้การฝ่ายโจทก์ตามคำสั่งศาล จ.ขอนแก่น ในคดีร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน ระหว่างโจทก์คืออัยการจังหวัดขอนแก่นและฝ่ายจำเลย คือ น.ส.ปรียานุช หรือ เปรี้ยว พร้อมพวก ซึ่งวันนี้เป็นวันแรกของการสอบคำให้การ ซึ่งองค์คณะผู้พิพากษาและอัยการได้ลงว่าความแบบเต็มคณะที่ห้องพิจารณาคดีที่ 8 ชั้น 3 ศาล จ.ขอนแก่น
ทั้งนี้ทันทีที่การสอบคำให้การฝ่ายโจทก์เสร็จสิ้น ผู้พิพากษาได้มีคำสั่งให้ผู้ต้องหาทั้งหมดในคดีประกอบด้วย น.ส.ปรียานุช หรือ เปรี้ยว, น.ส.กวิตา หรือ เอิน และ น.ส.อภิวันท์ หรือ แจ้ กลับไปควบคุมตัวตามอำนาจการฝากขังระหว่างการพิจารณาคดีที่เรือนจำกลางขอนแก่น
ขณะที่นายวศิน ถูกส่งตัวไปควบคุมตัวที่ทัณฑสถานบำบัดพิเศษขอนแก่น ส่วน น.ส.จิดารัตน์ หรือ เบนซ์ นั้นอยู่ในระหว่างการประกันตัวด้วยกองทุนยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม โดยผู้ต้องหาทั้งหมดได้ถูกส่งตัวจากห้องพิจารณาคดีมาไว้ที่ห้องควบคุมตัวผู้ต้องหาชั้นล่างของศาล จ.ขอนแก่น เพื่อรอรถเรือนจำกลางพิเศษขอนแก่นมารับกลับไปควบคุมตัวตามปกติ
นายบุญยงค์ แก้วฝ่ายนอก ทนายความของ น.ส.อภิวันท์ หรือ แจ้ กล่าววา บรรยากาศการให้ปากคำในช่วงบ่ายของวันนี้พนักงานอัยการทั้ง 2 ท่าน ยังคงเบิกตัว พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย ผกก.สภ.เขาสวนกวาง ต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยเป็นการซักถามฝ่ายโจทก์ตั้งแต่พบศพจนไปถึงการจับกุมตัวนายวศิน ที่ สปป.ลาว องค์คณะผู้พิพากษาจึงมีคำสั่งให้ระงับการสอบคำให้การในวันนี้
ตามที่ฝ่ายโจทก์ยื่นเรื่องขอสอบคำให้การวันนี้ 4 ปากแต่วันนี้สามารถสอบคำให้การได้เพียง 2 ปากและในวันพรุ่งนี้ (21 ก.พ.) มีการขอเบิกตัวพยานมาสอบคำให้การต่อเนื่องคือ พ.ต.อ.ภาคภูมิ และพยานที่คงค้างในวันนี้อีก 2 ปากและพยานที่จะขึ้นให้การในวันพรุ่งนี้อีก 4 ปาก
“วันนี้ผู้ต้องหาทั้ง 5 คน แยกคำให้การในชั้นศาลดังนี้ คือ จำเลยที่ 1 น.ส.เปรี้ยว คือปฎิเสธการฆ่า น.ส.แอ๋ม โดยรับสารภาพเพียงทำร้ายร่างกายเท่านั้น จำเลยที่ 2 คือ น.ส.เอิน นั้นรับสารภาพในข้อหาร่วมกันทำลายศพ จำเลยที่ 3 คือ น.ส.เบนซ์ นั้น ให้การรับสารภาพว่ารับของโจร ซึ่งพนักงานอัยการตั้งข้อกล่าวหานี้เพียงข้อกล่าวหาเดียว จำเลยที่ 4 คือลูกความของตนเองนั้นรับสารภาพว่าร่วมกันทำลายศพและเสพเมตแอมเฟตามีน
และผู้ต้องหาคนสุดท้ายคือ นายวศิน รับสารภาพว่าร่วมกันทำลายศพเท่านั้น ดังนั้นวันนี้ทนายฝ่ายจำเลยยังคงไม่มีการซักค้านใดๆ และหากการสอบพยานฝ่ายโจทก์มีการพาดพิงมาถึงลูกความในประเด้นใดก็พ้อมที่จะค้านทันที ทั้งนี้ในช่วงก่อนการสอบคำให้การในช่วงบ่ายนั้นผู้ต้องหาทั้งหมดได้มีการขอขมาครอบครัวของผู้ตาย อีกครั้ง จึงทำให้บรรยากาศในการสอบคำให้การวันนี้ไม่ตรึงเครียดเท่าที่ควร”
นายบุญยงค์ กล่าวต่ออีกว่า “แม้จำเลยที่ 3 คือ น.ส.เบนซ์ จะให้การรับสารภาพในข้อหารับของโจร ซึ่งเป็นข้อหาเดียวที่พนักงานอัยการแจ้งข้อกล่าวหาไปนั้น ผู้พิพากษาได้ลงบันทึกไว้และยังคงไม่มีการพิจารณาคดีในวันนี้ โดยรอให้การสอบคำให้การทั้งฝ่ายโจทก์และจำเลยแล้วเสร็จจึงจะมีคำพิพากษาพร้อมกัน เนื่องจากพนักงานอัยการได้สรุปสำนวนในรูปแบบการกระทำเป็นขบวนการ
ขณะที่ทางคดีแพ่งนั้นฝ่ายโจทก์โดยทนายความ ได้ยื่นขอเรียกร้องค่าเสียหายรวม 10,300,000 บาท แยกเป็นการเลี้ยงดูและอุปการะครอบครัวรวม 10,000,000 บาทและค่าปลงศพ-ค่าทำขวัญและค่าทำศพ อีก 300,000 บาท ซึ่งศาลจังหวัดขอนแก่นได้ประทับรับฟ้องด้วย ในประเด็นนี้ทีมทนายความได้หารือกันแล้วและยืนยันที่จะต่อสู้ในคดีแพ่งด้วย เนื่องจากลูกความให้การปฎิเสธและค่าเสียหายที่เรียกร้องมานั้นมากเกินไป และทีมทนายความยืนยันในการไม่ประกันตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คนเนื่องจากพนักงานสอบสวนมีการคัดค้านการประกันตัวมาตั้งแต่ต้นจนถึงวันนี้และศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว”