ความฝันแต่เด็ก เพลง ชนม์ทิดา เรียนขับเครื่องบินเป็นงานอดิเรก

ความฝันแต่เด็ก เพลง ชนม์ทิดา เรียนขับเครื่องบินเป็นงานอดิเรก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ความสามารถรอบด้านจริงๆ สำหรับสาว “เพลง ชนม์ทิดา” ลูกสาวคนสวยของนักร้องรุ่นใหญ่ “ตู่ นันทิดา” กับ “เอ๋ ชนม์สวัสดิ์” เพราะหลังจากคว้าใบปริญญามาให้คุณพ่อคุณแม่ปลื้มใจแล้ว เธอก็ยังเดินตามรอยหันมาชิมงานในวงการบันเทิงมากขึ้น

และล่าสุด “เพลง ชนม์ทิดา” ก็ได้ออกมาเล่าที่มาที่ไปถึงการไปเรียนขับเครื่องบินครั้งแรกให้กับสื่อมวลชนในงานบวงสรวงละครเรื่อง บางกอกนฤมิต ฟังว่า การขับเครื่องบินนั้นถือเป็นความฝันของเธอตั้งแต่เด็ก โดยตั้งใจไว้ว่าครั้งหนึ่งของชีวิตต้องทำให้ได้ และตอนนี้ก็กำลังเรียนไปตามขั้นตอนอยู่ แต่ไม่ถึงกลับทำเป็นอาชีพจริงจังเพราะยังไม่มั่นใจในตัวเอง คงเรียนไว้เป็นความชอบและงานอดิเรกอีกงานมากกว่า

ทำงานเกือบ 7 วันแบบนี้ คุณพ่อคุณแม่เป็นห่วงไหม ?
"ท่านก็ถามค่ะว่าดูแลตัวเองไหวไหม หนักไปหรือเปล่า คือท่านก็ส่งกำลังใจมาให้อยู่เรื่อยๆ แต่จริงๆ ก็ยังมีโอกาสได้เจอกันอยู่บ้างนะคะ เพียงแค่ถ้ามีเวลาแล้วเราก็อาจจะต้องรีบเจอนิดหนึ่ง เพราะเวลาของเพลงจะไม่ค่อยตรงกับท่านสักเท่าไหร่ (หัวเราะ) ถามว่ามีกำหนดไว้ไหมว่าเดือนหนึ่งต้องเจอกันกี่ครั้ง เอ่อ...ก็อย่างที่บอกเนอะทุกคนต่างก็ทำงานกันหมด ทั้งเพลง คุณพ่อ คุณแม่ ดังนั้นถ้ามีเวลาเราก็ต้องรีบเจอรีบนัดกันทานข้าว"

คุณแม่น้อยใจบ้างไหมเพราะเมื่อก่อนเราจะอยู่ใกล้ท่านตลอด ?
"มีเรียกร้องมีน้อยใจบ้างค่ะ ประมาณว่าทำไมไม่มีเวลาเลย (ยิ้ม) ซึ่งเพลงก็มองว่าทุกวันนี้เรายังโชคดีตรงที่มัน มีโปรแกรมแชท มีเฟสไทม์ ให้เราสามารถพูดคุยกันได้ตลอดเวลา และมันก็ช่วยลดความงอแงได้นิดหนึ่งด้วย (ยิ้ม)"

ยากไหมกว่าเราจะขอท่านออกมาอยู่คอนโดได้ ?
"จริงๆ คุณพ่อก็อยู่ด้วยนะคะ คือท่านก็จะวนเวียนอยู่แถวๆ นั้นตลอด เพราะชั้นที่เพลงอยู่มันจะเป็นหลายๆ ห้องติดกัน ซึ่งบางวันคุณพ่อคุณแม่ก็จะมานอนบ้าง และเอาจริงๆ นะการที่เพลงมาอยู่คอนโดก็ไม่ได้ไกลสายตาใครเลย ใกล้มากค่ะ ใกล้มากจริงๆ"

ตั้งแต่เราเรียนจบถือว่าคุณพ่อคุณแม่ปล่อยเรามากขึ้นไหม ?
"ท่านจะปล่อยในแง่ของความรับผิดชอบมากกว่าค่ะ เพราะท่านก็จะรู้อยู่แล้วว่าเราดูแลรับผิดชอบตัวเองได้ แต่ถึงยังไงความเป็นห่วงท่านก็ยังมีเหมือนเดิม ส่วนเรื่องความรักเอาจริงๆ ท่านก็ไม่เคยห้ามนะคะ เพราะอย่างที่บอกเพลงกับคุณพ่อคุณแม่เราคุยกันทุกเรื่องอยู่แล้ว ดังนั้นท่านก็ไม่ได้ห้ามแน่นอน และตอนนี้เพลงก็ยิ่งไม่มีเหมือนกัน เนื่องจากการที่เราทำงาน 7 วันแบบนี้ เราก็อยากจะมีเวลาให้กับตัวเองบ้างเหมือนกัน"

เป็นเพราะหนุ่มๆ เขาเกรงกลัวคุณพ่อคุณแม่เราหรือเปล่า ?
"เพลงก็ขอฝากไปเป็นคำถามด้วยเหมือนกันนะคะว่ากลัวกันหรือเปล่า (ยิ้ม) ไม่เห็นจะน่ากลัวเลย คุณพ่อน่ารักจะตาย แต่อาจจะเป็นเพราะท่านจะไม่ถามเพลงตรงๆ มั้งคะเพลงเลยไม่รู้ว่าท่านคิดยังไง ส่วนใหญ่ท่านจะถามไปทางคุณแม่มากกว่าว่า ใคร โอเคไหม คือจะถามแบบเสียงนิ่งๆ ประมาณว่าไม่พูดกับเราโดยตรง แต่จะใช้วิธีถามจากคุณแม่แทน เพราะท่านจะค่อนข้างเป็นห่วง"

คนก่อนๆ ที่ผ่านมาที่เคยมีข่าวว่าคุยกันอันนี้เป็นเราที่ขอเบรคเองหรือว่ายังไง ?
"จริงๆ เพลงก็ไม่เคยคุยกับใครถึงขั้นนั้นเลยนะ เพราะส่วนใหญ่ที่คุยกันจะเป็นแค่เพื่อนมากกว่า ไม่ได้มีการกำหนดสถานะอะไร"

อย่างช่วงที่เราคุยกับใครสักคนหนึ่ง เราเคยถามเขาไหมว่าเขากลัวพ่อแม่เราหรือเปล่า ?
"เพลงไม่เคยถามนะ ยังไม่เคยถามเลยเหมือนกัน (หัวเราะ) แต่เอาจริงๆ คุณพ่อคุณแม่เพลงโอเพ่นนะ โดยเฉพาะคุณแม่ท่านจะเป็นคนที่รู้ก่อนคนอื่นๆ ด้วยซ้ำ ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็แล้วแต่คุณแม่จะเป็นด่านแรกเลย"

ตอนนี้ยังโสด ได้มองหาใครมาคอยดูแลบ้างไหม ?
“ตอนนี้ดูแลตัวเองไปก่อนค่ะ เพราะเพลงรู้สึกว่าทำงาน 7 วันแล้ว ก็อยากจะมีเวลาให้ตัวเองได้พักผ่อน”

มีคนเห็นเราไปดูคอนเสิร์ตกับ เก้า จิรายุ มา ?
“วันนั้นต้องบอกเลยว่าไปดูคอนเสิร์ตจริงค่ะ แต่ไปกับคุณแม่และก็เก้า คือวันนั้นเราไปโปรโมทละครความรักครั้งสุดท้ายกันทั้งวันที่ตึก คุณแม่มาถามว่ามีบัตรเหลือไปด้วยกันไหม เราก็บอกว่าไปๆ (ยิ้ม) กับเก้านี่เป็นเพื่อนกันล้านเปอร์เซ็นต์ค่ะ”

>>>เพลง ชนม์ทิดา เข้าเรียนหลักสูตรการบิน อนาคตว่าที่นักบินสุดสวย

ถามถึงเรื่องที่เราไปเรียนบินมาบ้าง ?
“เป็นความชอบและความฝันส่วนตัวค่ะ ตั้งแต่เด็กๆ แล้วเพลงเป็นคนชอบเครื่องบินมาก จนถึงกับคิดไว้ว่าสักครั้งหนึ่งในชีวิตฉันต้องบินเครื่องบินเป็น พอเราเรียนมหาวิทยาลัยจบและมีเวลาก็เลยได้คิดว่า ถ้าเราไม่ได้ทำตอนนี้ เดี๋ยวค่อยทำๆ แต่คำว่าเดี๋ยวของเรามันคือเมื่อไหร่ เพลงเลยได้ตัดสินใจไปเรียนบินที่ ฝูง 604 การบินพลเรือนเลยค่ะ เพลงต้องเริ่มจากการเข้าอบรมทฤษฎีก่อน และค่อยมีการสอบ หลังจากนั้นเราถึงค่อยเก็บชั่วโมงบิน นั่นก็คือการไปฝึกบินนั่นเองค่ะ ซึ่งตอนนี้เพลงยังอยู่แค่เรียนทฤษฎีอยู่เลย ยังไม่ได้ขับจริง รอเดือนหน้าค่ะ ตอนนี้ตื่นเต้นมาก จะได้ขับเป็นเครื่องเล็ก แบบหนึ่งใบพัด คือเป็นเบสิกที่ทุกคนต้องเริ่มจากเครื่องเล็กแบบนี้ก่อนแล้วถึงจะค่อยๆ ขยับไปเรื่อยๆ”

ความฝันของเราคืออยากขับเครื่องบินแบบไหน ?
“เอาจริงๆ ตอนนี้เพลงว่าก็เป็นความฝันที่กำลังจะเป็นจริงหรือเปล่า ขอแค่ขับให้ได้ก่อนค่ะ ยังไม่มีคิดว่าต้องขับเครื่องยังไง”

เราต้องเตรียมความพร้อมขนาดไหน ?
“อย่างแรกเลยคือการต้องไปสอบเกี่ยวกับความพร้อมทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นสุขภาพร่างกาย หรือจิตวิทยา จากนั้นค่อยมาเรียนทฤษฎีเกี่ยวกับการบิน เครื่องยนต์ ระบบการสื่อสารทุกอย่าง”

ตั้งใจจะทำเป็นอาชีพจริงจังเลยไหม ?
“เป็นงานอดิเรกค่ะ ถ้าถามว่าอาชีพนักบินส่วนใหญ่จะเห็นแต่ผู้ชายหรือเปล่า เพลงว่าทุกวันนี้ผู้หญิงก็สามารถทำอะไรได้เหมือนกับผู้ชายนะ”

ไม่กลัวว่าอาชีพนี้จะเสี่ยงเกินไปใช่ไหม ?
“เพลงว่าทุกอย่างมีความเสี่ยงนะ ขับรถก็มีความเสี่ยง เล่นเรือก็มีความเสี่ยง เดินไปตกท่อก็มีความเสี่ยง ดังนั้นเพลงเลยเชื่อว่าทุกอย่างมันต้องมาพร้อมกับสติ”

คุณพ่อคุณแม่ว่ายังไงบ้างกับไปเรียนเป็นนักบิน ?
“โอเคค่ะ คุณแม่คงเบื่อกับการที่เพลงบ่นแล้วว่าอยากขับเครื่องบิน แต่แม่คงคิดว่าจะรอดไหม (ยิ้ม) เพลงอยากให้ท่านมาดูในวันที่เพลงบินเดี่ยวได้แล้ว เพราะอย่างที่บอกเพลงต้องผ่านการบินเดี่ยวในการทดสอบ อยากให้มาดูในวันนั้นมากกว่า เครื่องบินก็มี 2-4 ที่นั่ง ซึ่งวันหนึ่งเพลงก็อยากจะขับให้พ่อแม่นั่งได้เนอะ”

จะถึงขั้นซื้อเครื่องบินส่วนตัวไว้เลยไหม ?
“ก็...ขอให้ขับให้ได้ก่อนเนอะพี่เนอะ (หัวเราะ)”

อนาคตมีแววจะได้เห็นเราเป็นกัปตันหญิงไหม ?
“คงบินตัวเองค่ะ คงไม่กล้าเอาคนอื่นขึ้นมาอยู่ด้วย (หัวเราะ)”

อัลบั้มภาพ 14 ภาพ

อัลบั้มภาพ 14 ภาพ ของ ความฝันแต่เด็ก เพลง ชนม์ทิดา เรียนขับเครื่องบินเป็นงานอดิเรก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook