จากก้นบึ้งหัวใจ ปู ไปรยา ขอสักครั้ง ให้คนชื่นชอบการแสดง

หวนกลับมารับงานละครอีกครั้งในรอบ 3 ปี ให้กับละครเรื่อง “บางกอกนฤมิต” แถมยังเป็นการร่วมงานครั้งแรกกับ ช่อง One ซะด้วย งานนี้หลายคนเลยยิ่งจับตามองว่า การคัมแบคแบบเต็มตัวของ “ปู ไปรยา ลุนด์เบิร์ก” ในครั้งนี้เจ้าตัวจะจัดหนักจัดเต็มสมการรอคอยหรือเปล่า

โดยสาวปูได้เผยว่าเหตุผลหลักที่ตัดสินใจรับงานนี้เป็นเพราะชื่นชอบบทประพันธ์เป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว รวมถึงบทที่ได้รับก็ยังเป็นบทที่ท้าทายความสามารถมาก จึงอยากจะขอพิสูจน์ฝีมือตัวเองอีกครั้งในฐานะนักแสดง และค่อนข้างคาดหวังเป็นอย่างมากว่าจะทำให้คนดูชื่นชอบให้ได้ ส่วนกระแสข่าวที่หลายคนมองว่าเจ้าตัวเสียบบทนี้แทนนางเอกรุ่นพี่อย่าง “พลอย เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์” นั้น สาวปูก็ได้ชี้แจงว่า เรื่องของบทบาทการแสดงสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาอยู่แล้ว และที่สำคัญงานนี้ไม่มีคำว่าเสียบแทนใครแน่นอน

มีกระแสข่าวว่าตอนแรกบทนี้เป็นของ พลอย เฌอมาลย์ แล้วเรามาเสียบแทน ?
“ทราบตอนที่มีข่าวออกมาค่ะ แต่จริงๆ มันไม่มีคำว่าเสียบแทนหรอก เพราะว่าการทำงานอาชีพนี้ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะเลือกว่าเขาจะเล่นหรือไม่เล่น มันมีการเปลี่ยนแปลงได้ คือง่ายๆ เลยสมมุติถ้าปูไม่ได้รับงานนี้และมีคนอื่นมารับแทน มันก็ไม่ได้เรียกว่าเสียบ มันก็เป็นสิทธิ์ของเขา อีกอย่างตัวปูเองก็รักพี่พลอยมาก ซึ่งปูเข้าใจว่านะว่าบางครั้งคนจะมองว่าการที่เรามารับละครเรื่องนี้มันเป็นประเด็นดราม่าได้ แต่ยืนยันค่ะมันไม่มีคำว่าเสียบหรอก เพราะในทุกบทบาทเขาก็มีตัวเลือกหลายคน หรือว่าคนนี้คิวไม่ตรงเขาก็ต้องหาคนอื่นมาเล่น”

ทำไมเราถึงตัดใจรับละครเรื่องนี้ รู้สึกยังไงบ้างกับบทที่ได้รับ ?
"ดีใจจริงๆ ค่ะที่ได้รับละครเรื่องนี้ เพราะตัวปูเองก็ถือว่าอยู่ในวัยที่จะมารับบทแบบนี้นานแล้ว ได้เล่นเป็นตัวร้ายที่มาที่ไป อีกอย่างปูชอบนิยายเรื่องนี้เป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว และที่สำคัญพอได้อ่านบทก็ยิ่งรู้สึกชอบมาก มันเลยทำให้คิดว่าต้องลองดูอีกสักครั้งหนึ่ง ดังนั้นก็คงต้องพยายามเต็มที่เพราะปูก็อยากให้งานออกมาดีที่สุด ปูตั้งใจจะไปเรียนการแสดงเพิ่มเติมที่นิวยอร์กด้วย แต่ที่ประเทศไทยก็ยังเรียนนะคะ คือเรียนควบคู่กันไป มีทั้งครูที่ประเทศไทยและก็ครูที่นิวยอร์ก (ยิ้ม)

“ปูคาดหวังกับผลงานเรื่องนี้มาก คาดหวังมากจริงๆ หวังว่าคนจะชอบ คือขอสักเรื่องหนึ่งเถอะ ขอให้มีคนบอกว่าชอบสิ่งที่เราแสดง ขอแค่นี้เลย (ยิ้ม) ถามว่าเรื่องการแสดงมันเป็นปมสำหรับปูไหม เอ่อ… ปูต้องบอกก่อนว่าเมื่อก่อนปูสมัยที่ปูยังเด็กปูไม่ได้ใฝ่ฝันจะเป็นนักแสดง แต่พอปูโตขึ้นปูถึงได้รู้ว่านี่แหละคือความฝันของปู มันคือสิ่งที่ปูชอบ เป็นสิ่งที่ปูต้องการ ปูอยากให้คนเห็นความสามารถด้านนี้ของปู ปูจะพยายามทำให้เห็นว่า ปู ไปรยาทำอะไรแล้วไม่ถอย"

เสียดายไหมที่ให้คำตอบกับตัวเองช้าไปว่าเราชอบการแสดงจริงๆ ?
"ไม่เคยเสียดาย เพราะมันพูดยาก ตอนเด็กๆ ปูเรียนไปด้วย ทำงานไปด้วย ดูแลครอบครัวไปด้วย ส่งตัวเองเรียนด้วย คือความรับผิดชอบมันสูงมาก ดังนั้นมันเลยบอกว่าไม่ได้หรอกว่าช้า เพราะคนที่ไม่ได้อยู่ในจุดเดียวกับปู ไม่มีทางเข้าใจหรอกว่าการเป็นนักแสดงหรือการเป็นดารามันมาพร้อมกับสิ่งที่เสียสละไปเยอะมาก”

ถ้าสุดท้ายแล้วฟีดแบคไม่ได้เป็นไปตามที่เราคาดหวัง เราจะไปทำงานอยู่เมืองนอกเลยไหม ?
"ไม่นะ คือจะมาโทษประเทศไทยเพราะว่าเราแสดงไม่เก่งมันไม่ใช่ ที่นี่คือบ้านเกิดปู ปูอยากกลับมาแสดงละครแน่นอน ที่สำคัญตอนที่ปูคุยกับแมทธิว (แฟนหนุ่ม) แมทธิวเขาก็ได้พูดกับปูมาประโยคหนึ่งว่า “สุดท้ายอาชีพเธอคืออะไร ถ้าเธอเป็นนักแสดง เธอก็ควรทำให้อาชีพนี้เป็นอาชีพที่เธอภาคภูมิใจและกลับมาแสดง” ซึ่งปูเองก็อยากทำให้เขาภูมิใจและก็อยากทำให้ตัวปูเองภูมิใจด้วยเหมือนกัน (ยิ้ม) ส่วนงานในต่างประเทศถามว่ามีเข้ามาบ้างไหม จริงๆ ก็มีภาพยนตร์นะคะแต่ยังรับไม่ได้ เพราะตัดสินใจมาแสดงละครเรื่องนี้ก่อน คือปูคิดแล้วว่าอย่างน้อยๆ ถ้าพื้นฐานของเราแข็งแรง เราก็ค่อยไปสู้ต่อที่นู่นได้ อีกอย่างถ้าเราห่างจากจอทีวีนานเกินไป แค่กระแสงานเมืองนอกปูมันเอาไม่อยู่ ดังนั้นยังไงก็ต้องกลับมารับงานที่ค่ะ”

ก่อนหน้านี้มีนักแสดงช่อง 7 ที่หมดสัญญาถูกแท็กภาพสตรอว์เบอร์รีในอินสตาแกรม และหนึ่งในนั้นก็มีชื่อของเราด้วย ?
"ชีวิตมันสั้นนะคะ เอาง่ายๆ ปูผ่านข่าว ผ่านเรื่องราวมาเยอะมากในชีวิต ดังนั้นมันคือสัจธรรมค่ะ เราอย่าลืมว่าวันหนึ่งเราอาจจะเป็นคนที่ทุกคนรัก แต่ว่าในอนาคตเราก็อาจจะเป็นคนที่ทุกคนไม่ชอบก็ได้ นั่นหมายความว่าทุกๆ คนมีสิทธิ์ที่จะออกความคิดเห็นมันก็คือสิทธิ์ของเขา แต่ว่าเราก็มีสิทธิ์ที่จะมีความเมตตากับมีสิทธิ์ที่จะเข้าใจเขา อันนั้นคือสิ่งที่เราต้องอย่าลืมว่าเราคือของประชาชน อาชีพนี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อสังคม จงอย่าว่าเขาถ้าหากเขามีความคิดเห็นเกี่ยวกับชีวิตของเรา เราจงรับและปรับปรุงตัวเราเองดีกว่า"