โชเฟอร์ตุ๊กตุ๊กเมายา ซิ่งรถชนตร.สาหัส ลากร่างไกล 10 เมตร

โชเฟอร์ตุ๊กตุ๊กเมายา ซิ่งรถชนตร.สาหัส ลากร่างไกล 10 เมตร

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

โชเฟอร์รถตุ๊กตุ๊กเมายาซิ่งรถ ลากตร.พญาไท ไปไกลกว่า 10 เมตร ศีรษะกระแทกพื้นอาการสาหัส ต้องผ่าตัดสมอง-ชาวบ้านช่วยจับกุมได้แล้ว

พ.ต.อ.นิติวัฒน์ แสนสิ่ง ผู้กำกับการ สน.พญาไท เปิดเผยสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า เมื่อช่วงของค่ำวันที่ 23 กุมภาพันธ์ วานนี้ ขณะที่ ด.ต.มงคล ผู้บังคับหมู่งานสายตรวจ สน.พญาไท ออกตรวจตราความเรียบร้อยภายในซอยพญานาค ถนนพญาไท แขวงและเขตราชเทวี ได้พบคนขับขี่รถตุ๊กตุ๊ก ทะเบียน สก- 3286 กรุงเทพมหานคร ที่มีนายอรรถพล อายุ 21 ปี ขับผ่านมาและมีท่าทางพิรุธ จึงเรียกให้จอดรถเพื่อขอตรวจค้น

เมื่อ ด.ต.มงคล เดินเข้าไปที่ท้ายรถคันดังกล่าว ปรากฏว่าคนขับได้เร่งเครื่องหนี ด.ต.มงคล จึงคว้าราวเหล็กไว้ ส่วนรถขับลาด ด.ต.มงคลไปไกลประมาณ 10 เมตร ก่อนที่ร่างของ ด.ต.มงคล จะหลุดจากตัวรถตุ๊กตุ๊ก ศีรษะกระแทกพื้น หมดสติในจุดเกิดเหตุ

พยาบาลที่อยู่ในละแวกนั้นได้ช่วยกันปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนช่วยกันนำส่ง รพ.ตำรวจ ส่วนผู้ต้องหาที่ขับขี่รถตุ๊กตุ๊กนั้น หลังจากหลบหนีไป สายตรวจซึ่งเป็นคู่ตรวจกับ ด.ต.มงคล ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ไล่ตามไป และชาวบ้านได้ช่วยกันจับกุมผู้ต้องหาไว้ได้ไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุมากนัก

จากการสอบปากคำ นายอรรถพล ให้การยอมรับสารภาพว่าก่อนหน้านั้น ได้เสพยาบ้าและเสพไอซ์ และเมื่อถูกเจ้าหน้าที่เรียกตรวจ ก็กลัวความผิด จึงเร่งเครื่องหนีดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายอรรถพลไปตรวจปัสวะพบว่าเป็นสีม่วง และเมื่อตรวจทางห้องปฏิบัติการพบว่า เป็นสารเมทแอมเฟตามีน

จึงคุมตัวไปชี้จุดทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาก่อนจะคุมตัวไปฝากขังที่ศาลอาญา รัชดา พร้อมแจ้งข้อหา ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน ทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บสาหัส และ เสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 และถูกส่งตัวเข้าเรือนจำฯ แล้ว

ขณะที่ อาการของ ด.ต.มงคล นั้น ยังอยู่ในห้องไอซียู แพทย์ทำการผ่าตัดสมองเพราะมีเลือดออกในสมอง และยังไม่รู้สึกตัว ในเรื่องนี้ ผู้บังคับบัญชาได้สอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 ได้เข้าเยี่ยมสอบถามอาการของ ด.ต.มงคล ที่ รพ.ตำรวจ แล้ว พร้อมกันนี้ได้เสนอเรื่องสิทธิสวัสดิการที่จะได้รับทั้งจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกองบัญชาการตำรวจนครบาลด้วย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook