เจ เจตริน แค่อธิบาย ไม่ได้ดราม่า ปมลูกชายกลับไทยถี่
อยู่ดีๆ คุณพ่อลูกดก "เจ เจตริน วรรธนะสิน" ก็ออกมาโพสต์ข้อความยาวเหยียดลงอินสตาแกรมเกี่ยวกับประเด็นที่ 3 ลูกชาย "เจ้าขุน", "เจ้านาย" และ "เจ้าสมุทร" ต้องบินไปบินมาระหว่างอังกฤษและไทย จนหลายคนอดสงสัยไม่ได้ว่า เป็นเพราะเจ้าตัวเจอดราม่าจากชาวเน็ตมาหรือเปล่า ถึงได้ลงทุนเขียนข้อความชี้แจงร่ายยาวขนาดนี้
โดยล่าสุดทางด้านของ เจ เจตริน ก็ได้ถือโอกาสออกมาพูดถึงประเด็นดังกล่าว ซึ่งเจ้าตัวระบุว่าเหตุผลที่โพสต์เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับกระแสดราม่า แต่แค่ต้องการอธิบายให้คนที่สงสัยได้ทราบเท่านั้น อีกทั้งการตัดสินใจให้ลูกกลับบ้านในช่วงวันหยุดก็ถือว่าเป็นการประหยัดค่าใช้จ่าย รวมถึงเด็กๆ ก็มีความตั้งใจที่อยากจะกลับอยู่แล้วด้วย
ดราม่าเรื่องที่ให้ลูกบินไปบินมาระหว่าง ไทย-อังกฤษ บ่อย ?
“อ๋อ...ไม่มีอะไรหรอก ผมแค่อธิบาย คือจริงๆ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลยนะ ที่ผมโพสต์ผมแค่อยากอธิบายให้ชัดๆ เวลาที่พ่อแม่ส่งลูกไปเรียนเมืองนอก โดยเฉพาะไปเรียนที่อังกฤษเพราะที่อังกฤษค่าเงินปอนด์มันแพงจริงๆ ถ้าเทียบกับเงินบาท ดังนั้นบางทีการที่ลูกปิดเทอมสั้นๆ 2 อาทิตย์ แล้วเราไม่ได้มีบ้าน ต้องไปเช่าบ้านเขาหรือต้องจ่ายค่าที่ให้ผู้ปกครองดูแลต่อคนต่อหัว และไหนจะค่าอาหาร ค่ารถ ค่าอยู่ ค่ากิน ค่าอะไรต่างๆ ในช่วง 2 อาทิตย์นั้นอีก ผมคิดว่ากลับมาไทยเถอะ มันคุ้มกว่าประหยัดกว่า แถมได้กลับมาอยู่ใกล้พ่อแม่ด้วย หรืออย่างน้อยอาจจะได้ทำงาน ซึ่งผมคิดว่ามันก็โอเคและลูกๆ เขาก็สมัครใจที่อยากกลับอยู่แล้ว"
หลายคนสงสัยว่าสาเหตุที่เราโพสต์ เป็นเพราะมีคนโจมตีหนักใช่ไหม ?
“นิดหน่อยครับ แต่ส่วนใหญ่ก็มาถามมากกว่า ผมเลยอธิบายเล่นๆ อธิบายให้เขาเข้าใจกัน ไม่ได้มีใครว่าอะไรหรอก (ยิ้ม)”
การที่ให้ลูกกลับมามันคุ้มกับค่าเครื่องบินใช่ไหม ?
“ถ้าคำนวณมันก็เพิ่มมาอีกสัก 1-2 หมื่นบาท ผมคิดว่าก็กลับมาเถอะ ลูกไม่ต้องไปทนหนาว แล้วที่คนถามว่าทำไมถึงปิดเทอมบ่อย คือระบบโรงเรียนของเขามันมีปิดฮาล์ฟเทอม ประเภท 12 วัน 14 วัน เราก็เลยให้กลับมา เพราะที่นู่นเวลาเขาปิดฮาล์ฟเทอมเขาจะให้เด็กหยุด แล้วให้ครูได้เตรียมการเรียนการสอนใหม่”
เป้าหมายหลักของเราคืออยากให้เขากลับมาหาครอบครัว ไม่ใช่อยากให้กลับมาทำงานใช่ไหม ?
“ไม่หรอก คือกลับมาทำงานมันทำอยู่แล้วเพราะเจ้านายตอนนี้ก็เข้ามาครึ่งตัวแล้ว แต่ตัวเราเองก็ไม่ได้คิดถึงขนาดว่าจะเอาลูกมาหางาน"
เวลารับงานจะรับเฉพาะปิดเทอมหรือว่าช่วงเปิดเทอมก็รับด้วย ?
“เปิดเทอมรับไม่ได้ครับเพราะว่าต้องเรียนหนังสือ และกฏของโรงเรียนก็เข้มงวดมากครับในเรื่องของการลา อย่างเดือนหน้าผมกับปิ่นจะบินไปเยี่ยมเขาก็ออกมาไม่ได้ คือต้องรอเสาร์อาทิตย์เท่านั้นถึงจะได้เจอกัน ดังนั้นถ้าลูกมีเรียนก็เอาเรื่องเรียนเป็นหลัก ส่วนงานเราต้องรอช่วงปิดเทอม"
แสดงว่าถ้าหากจะจองงานน้องต้องจองเฉพาะช่วงปิดเทอม ?
"ใช่ครับ ใช่ ซึ่งตอนนี้ของเจ้านายค่อนข้างเต็มแล้ว เพราะเขาเองก็อยากทำงานชอบทำงานเหมือนกัน แต่ก็จะแอบถามเหมือนกันว่ามีแบ่งเวลาให้เขาไปเจอกับเพื่อนบ้างหรือเปล่า"
เหมือนเด็กๆ ค่อนข้างแฮปปี้ที่ได้กลับบ้านมาแล้วทำงาน ไม่ได้ซีเรียสว่าจะต้องหยุด ?
"เจ้านายชอบครับ เขาจะถามตลอดว่าจะต้องทำอะไรบ้างในแต่ละวัน โดยเฉพาะงานเพลงเขาจะสนใจเป็นพิเศษเพราะตอนนี้เริ่มกลับเข้าห้องอัดอีกครั้งแล้ว คือผมพูดตรงนี้เลยนะครับ ผมกับปิ่นเราจะดูลูกๆ ในเรื่องของการทำงานละเอียดมาก เพราะเราเคยผ่านมาหมดแล้ว เคยเหนื่อยมาทุกอย่างแล้ว ดังนั้นตารางที่เราจัดให้ลูกเราจะมีวันพัก วันหยุด วันนอน คือเราจะจัดให้หมดครับ ไม่ได้ให้ลูกทำงานอย่างเดียวจนโหลด บ้านผมเน้นชิวครับ"
เวลาได้รับเงินค่าจ้างมาจะต้องรวมเป็นกองกลางในบ้านหรือว่าจัดการบริหารยังไง ?
"ถ้าเรื่องเงิน ไม่ว่าจะเงินผมหรือเงินใครก็แล้วแต่เราใส่กองกลางหมดครับ แต่เราก็จะจดบัญชีเอาไว้ด้วย รวมถึงของเด็กๆ ด้วยเหมือนกันเพราะวัยของเขายังไม่สามารถรับเงินเองได้ อีกอย่างเรื่องรายได้เราก็ต้องผ่านในรูปลักษณ์ของบริษัทเช่นกัน ดังนั้นทุกอย่างจึงมีการทำบัญชีหมดครับ เด็กๆ เขาก็จะมาแอบดูบัญชีเขาตลอดว่าของเขาเท่าไหร่แล้ว (ยิ้ม) แต่เอาจริงๆ สำหรับตัวผมเองเรื่องเงินที่ได้มาก็แทบจะแบ่งให้ลูกทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการซื้อบ้านหรือซื้ออะไรก็แล้วแต่ครอบครัวเราจะต้องปรึกษากันตลอดครับ"
อัลบั้มภาพ 12 ภาพ