ปิดฉากดราม่าจับโจรเอง เพราะโทรหาตำรวจไม่รับ ที่แท้เป็นเบอร์เก่า
รอง ผบช.ภ. 1 พร้อมตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานเข้าเก็บหลักฐานเอาผิดโจรงัดบ้าน ขณะที่สาวเจ้าของบ้านเข้าพบตำรวจให้ปากคำเพิ่มเติม พร้อมชี้แจงเป็นคนโทรแจ้งตำรวจ แต่ไม่รู้ว่าเป็นเบอร์ที่แจ้งเลิกใช้งานแล้ว พร้อมขอบคุณ ผบช.ภ.1 ที่ให้ความสำคัญในเรื่องนี้
จากกรณีมีผู้โพสต์ภาพและข้อความร้องเรียน หลังต้องลงมือจับโจรแอบย่องเข้าบ้านเอง รอนานกว่าเจ้าหน้าที่จะมา เพราะโทรศัพท์ไปแจ้งแล้วแต่ไม่มีการรับสาย ล่าสุดเจ้าของบ้านออกมายอมรับว่า ได้โทรศัพท์ไปจริง แต่เพิ่งมาทราบภายหลังว่า เป็นเบอร์ที่เลิกใช้งานไปแล้ว
ขณะที่ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 1 สั่งขยายผลตามจับผู้ร่วมก่อเหตุที่หลบหนี รวมทั้งแก้ปัญหาในเบื้องต้น โดยให้ทำสติกเกอร์ระบุหมายเลขโทรศัพท์ของตำรวจติดไว้ในชุมชน หากเกิดเหตุสามารถสื่อสารได้ทันที
พล.ต.ต.ชัยพร พานิชอัตรา รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 1 และ พ.ต.อ. วิชิต บุญชินวุฒิกุล รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พ.ค.อ.เดโช โสสุวรรณากุล ผกก.สภ.สำโรงเหนือ พร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบบ้านที่เกิดเหตุใน ต.เทพรักษ์ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ
หลังมีการโพสต์ข้อความว่ามีคนร้ายบุกเข้าบ้านหวังโจรกรรมทรัพย์สิน แต่เจ้าของจับตัวได้ โดยอ้างว่าโทรศัพท์ไปแจ้งตำรวจภูธรสำโรงเหนือ แต่ไม่มีผู้รับสาย เพื่อเก็บหลักฐานประกอบคำรับสารภาพของนายวันชัย หนึ่งในผู้ต้องหาที่จับกุมตัวได้ในวันที่ก่อเหตุ และพวกอีก 3 คนที่อยู่ระหว่างหลบหนี
ขณะที่ นางสาวเอ (นามสมมติ) สาวเจ้าของบ้านหลังที่เกิดเหตุได้ให้ปากคำเพิ่มเติมเหตุการณ์ในคืนที่เกิดเหตุกับพนักงานสอบสวน พร้อมยอมรับว่าเป็นคนโทรศัพท์มาแจ้งที่โรงพัก สภ.สำโรงเหนือ แต่ติดต่อไม่ได้ แต่เพิ่งมาทราบภายหลังว่าเบอร์ที่โทรไปนั้น ทางโรงพักได้เลิกใช้งานไปแล้ว จึงไปขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ ปส. และขอคำปรึกษาทนายความผู้ที่นำข้อความมาโพสต์ แต่หลังทราบเรื่องจึงออกมาชี้แจงและขอบคุณตำรวจที่เร่งรัดคดีคนร้ายเข้าบ้าน
นอกจากนี้ พล.ต.ต.ชัยพร พานิชอัตรา รอง ผบช. ภ.1 ยังได้กำชับให้ พ.ต.อ. เดโช โสสุวรรณากุล ผกก.สภ.สำโรงเหนือ เร่งจัดชุดเจ้าหน้าที่ออกประชาสัมพันธ์และทำสติกเกอร์เบอร์โทรแจ้งเหตุของโรงพักที่ใช้การได้ปกติ เพื่อสร้างพันธมิตรกับประชาชนพร้อมทั้งเบอร์โทรของเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ชาวบ้านทราบ ซึ่งในเรื่องนี้ไม่ใช่ทำแค่โรงพักสำโรงเหนือเท่านั้นแต่ต้องทำทุกโรงพักในพื้นที่พร้อมกันเพื่อให้ประชาชนติดต่อได้ 24 ชั่วโมง หากเกิดเหตุฉุกเฉินเร่งด่วน