เสือดำเป็นตัวเมีย แฉ "เปรมชัย" ล่าถลกหนังทำซุปเนื้อกิน
วันนี้ (28 ก.พ.) มีการประชุมคณะกรรมการติดตามคดี นายเปรมชัย กรรณสูต ลักลอบล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธ์ุสัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ฝั่งตะวันตก โดย พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธาน พร้อมด้วย พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) , นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช และตำรวจภูธรภาค 7 เข้าร่วมประชุม
โดย พล.อ.สุรศักดิ์ ระบุว่า ทราบดีว่ากระแสสังคมกำลังร้อนใจกับคดีของนายเปรมชัย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็ร้อนใจเช่นกัน เพราะเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรของประเทศ ซึงการประชุมวันนี้ หารือใน 3 ประเด็นคือ กระทรวงจะให้ข้อมูลหลักฐานเพิ่มเติมแก่พนักงานสอบสวนในเรื่องใดได้บ้าง , เรื่องการพิสูจน์หลักฐาน ที่ยืนยันว่า มีหลักฐานแน่นหนาครอบคลุมทั้ง 9 ข้อหาที่แจ้งความไปแล้ว และเรื่องนิติวิทยาศาสตร์ ที่พบว่าเสือดำถูกนายเปรมชัยกับพวก ล่าอย่างแน่นอน เพราะปืนที่ถือเข้าไปในเขตรักษาพันธ์ุสัตว์ป่าฯ กับปลอกกระสุนที่พบในตัวเสือดำ และปลอกกระสุนที่ตกในป่าบริเวณใกล้เคียง มาจากปืนกระบอกเดียวกัน
การสอบสวนยังพบว่า กลุ่มของนายเปรมชัย มีการแบ่งหน้าที่กันอย่างชัดเจน มีการทำเป็นขบวนการ ซึ่งกระทรวงทรัพย์ฯจะเร่งรัดดำเนินคดีกับนายเปรมชัยและพวกโดยเร็ว โดยในวันที่ 5 มีนาคมนี้ นายเปรมชัยจะต้องมาพบพนักงานสอบสวน หากไม่มา จะขอศาลพิจารณาถอนประกัน เพื่อไม่ให้ปล่อยตัวชั่วคราวอีก จากนั้นจะเป็นหน้าที่ตำรวจติดตามนายเปรมชัยกับพวกมาดำเนินคดี
พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี กรรมการ ป.ป.ท. ในฐานะที่ปรึกษาคณะกรรมการติดตามคดีการล่าสัตว์ป่า เปิดเผยว่า หลักฐานที่พบเพิ่มเติม มีความเชือมโยงกับหลักฐานที่พบในวันแรก ทั้งอุปกรณ์ดักสัตว์ อาวุธปืน ยืนยันว่า กลุ่มของนายเปรมชัย มีจุดประสงค์เข้าไปล่าสัตว์
นอกจากนี้ จากการตรวจสอบซากเสือดำ พบว่าเป็นตัวเมีย และนายเปรมชัยกินซุปเนื้อเสือดำ ไม่ได้กินอวัยวะเพศของเสือตามที่มีกระแสข่าว ส่วนกรณีที่กระแสสังคมนำคดีนายเปรมชัย ไปเปรียบเทียบกับคดีชาวบ้านที่นำซากหมีควายมาแกล้มเหล้า มีการดำเนินคดีรวดเร็ว ผิดกับคดีของนายเปรมชัยที่ล่าช้า พล.ต.อ.จรัมพร ระบุว่า ทุกคนมีสิทธิเท่ากันตามกฏหมายรัฐธรรมนูญ ที่ตามกระบวนการกฏหมาย ให้สิทธิผู้ต้องหาประกันตัว เพียงแต่ชาวบานไม่มีเงินประกันตัว
ส่วนคดีของนายเปรมชัย ก็ไม่ล่าช้า ตำรวจทำตามขั้นตอน มั่นใจว่า ข้อหาทั้ง 9 ข้อหาที่แจ้งไป จะดำเนินคดีได้แบบดิ้นไม่หลุด แต่ต้องดูว่านายเปรมชัยกับพวก จะแก้ข้อกล่าวหาอย่างไร และเชื่อว่าวันที่ 5 มีนาคม นายเปรมชัยจะมาพบตำรวจ เพราะหนีไปก็ไม่มีประโยชน์
ขณะที่ พล.ต.ต.ทรงธรรม อัลภาชน์ รอง ผบช.ภ.7 เปิดเผยว่า ออกหมายเรียกให้นายเปรมชัย และพวก ในวันที่ 5 มี.ค.นี้ ถ้านายเปรมชัยไม่มา ตำรวจจะขอหมายศาลเพื่อถอนประกัน ที่ผ่านมานายเปรมชัย ยังไม่เคยติดต่อมา และไม่ทราบว่าขณะนี้นายเปรมชัยอยู่ที่ไหน แต่เชื่อว่าน่าจะอยู่ในประเทศ