หนุ่มคลั่งจี้ลูกชาย โดนแจ้ง 3 ข้อหาหนัก เพียงแค่อยากประชดเมีย

หนุ่มคลั่งจี้ลูกชาย โดนแจ้ง 3 ข้อหาหนัก เพียงแค่อยากประชดเมีย

หนุ่มคลั่งจี้ลูกชาย โดนแจ้ง 3 ข้อหาหนัก เพียงแค่อยากประชดเมีย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ตำรวจแจ้ง 3 ข้อหาหนัก หนุ่มคลั่งจี้ลูกชายเป็นตัวประกัน 10 ชั่วโมง เพียงอยากประชดเมียให้กลับมาอยู่ด้วยกัน สารภาพที่โพสต์เลือดลงเฟซบุ๊กแค่เลือดปลอม เรียกร้องความสนใจเท่านั้น

ความคืบหน้ากรณีที่ นายวีระพงษ์ อายุ 29 ปี ได้ก่อเหตุจับลูกชาย วัย 5 ขวบ เป็นตัวประกัน แล้วใช้มีดจี้คอขังตัวอยู่ในบ้านเช่าใน ต.ทุ่งกระเต็น อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดย นายวีระพงษ์ ยังได้ถ่ายรูปคราบเลือดบริเวณพื้นห้อง มือเปื้อนเลือด และภาพขณะใช้มีดปลายแหลมเปื้อนเลือดจี้คอตัวเองโพสต์ลงในเฟซบุ๊ก เพื่อประชดประชันภรรยาสาวที่ตีตัวออกห่าง และระแวงว่าจะนอกใจไปมีชายอื่น

เหตุการณ์ดังกล่าวได้สร้างความแตกตื่นตกใจให้กับแม่ของนายวีระพงษ์และเพื่อนบ้านใกล้เคียง ได้พยายามมาช่วยกันเกลี้ยกล่อมให้นายวีระพงษ์สงบสติอารมณ์และปล่อยลูกชายตัวน้อย แต่ก็ไม่เป็นผล จึงตัดสินใจแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยกู้ภัยมาช่วยเหลือ ใช้เวลานานกว่า 10 ชั่วโมง จึงเข้าชาร์จตัวเอาไว้ได้ และช่วยเด็กออกมาได้อย่างปลอดภัย

ล่าสุด ร.ต.อ.พิตติพล พุฒินาทวรพงษ์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.หนองกี่ เจ้าของคดี ได้ทำการสอบปากคำ นายวีระพงษ์ ให้การกับเจ้าหน้าที่ว่าไม่ได้มีเจตนาทำร้ายลูก เพียงแค่สร้างสถานการณ์เรียกร้องความสนใจ อยากให้ภรรยากลับมาอยู่ด้วยเท่านั้น

ส่วนคราบเลือดที่ถ่ายรูปโพสต์ในเฟซบุ๊กก็เป็นเพียงเลือดหมู ไม่คิดว่าสถานการณ์จะบานปลายขนาดนี้ หลังสอบปากคำพนักงานสอบสวนก็ได้แจ้งข้อกล่าวหานายวีระพงษ์ 3 ข้อหา ฐานหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น มียาเสพติดไว้ครอบครองเพื่อเสพ และกระทำความรุนแรงในครอบครัว ก่อนจะนำตัวส่งฝากขังที่ศาลจังหวัดนางรอง

ทางด้าน แม่ของนายวีระพงษ์ ได้เล่านาทีที่ลูกชายเกิดอาการคุ้มคลั่งจับลูกชายของตัวเองเป็นตัวประกันว่า ไม่คาดคิดว่าลูกชายจะก่อเหตุแบบนี้ขึ้น เพราะที่ผ่านมาเคยเห็นลูกมีปากเสียงทะเลาะกับภรรยาบ่อยครั้ง แต่ก็ไม่เคยทำร้ายร่างกายภรรยาหรือลูกเลย เพราะรักภรรยามาก

แต่เมื่อประมาณ 1 สัปดาห์ก่อนหน้านี้ ไม่รู้ว่าลูกชายมีปัญหาอะไรกับลูกสะใภ้ จึงได้หนีไปโดยไม่บอกกล่าว ซึ่งนายวีระพงษ์ ก็พยายามตามหาและโทรศัพท์ติดต่อแต่ก็ไม่เจอ ทำให้เกิดความเครียดและก่อเหตุดังกล่าวขึ้น แต่ยังโชคดีที่ลูกชายกับหลานปลอดภัยไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร ในฐานะคนเป็นแม่ก็สงสารลูกที่ต้องมาถูกจับเพียงเพราะทำอะไรโดยไม่คิดให้รอบคอบก่อน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook