ฉันปลงแล้ว แม่เฒ่าถูกโจรทุบหัวชิงทอง ไม่หวังได้คืน คงเป็นหนี้ชาติก่อน

(7 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีเกิดเหตุคนร้ายสวมโม่งปิดบังใบหน้า ก่อเหตุทำร้ายร่างกายทุบศีรษะ คุณยายนางมา แม่เฒ่าที่พิการวัย 84 ปี ชาว อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม บริเวณซอยหน้าบ้าน เมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 2 มีนาคมที่ผ่านมา ขณะที่คุณยายกำลังไปทำบุญที่วัด

คนร้ายได้ก่อเหตุชิงเอาทองรูปพรรณ รวมน้ำหนัก 7 บาท พร้อมกับพระเลี่ยมทองหลวงพ่อคูณ ที่ใส่เก็บไว้ในกระปุกยาแก้ปวดลดไข้พาราเซตามอลและเงินสดที่พกติดตัวใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อ อีก 61,000 บาท หลังก่อเหตุคนร้ายหลบหนีไปอย่างลอยนวล คุณยายได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.ศรีสงคราม แล้ว

ล่าสุด คุณยายมา แม่เฒ่าผู้เสียหายได้ออกมาเปิดใจว่า สาเหตุที่เก็บทรัพย์สินจำนวนมากติดตัวไว้ ก็เป็นไปตามประสาคนแก่ ที่ไม่ชอบเก็บไว้ของมีค่าไว้ที่บ้าน กลัวพวกหัวขโมยขึ้นบ้าน และที่น่าแปลกใจเพราะว่าคนร้ายรู้ได้อย่างไรว่าตนมีเงินมีทองอยู่กับตัว ขนาดลูกๆ ยังไม่รู้เรื่องเหล่านี้เลย

ส่วนเงินที่มีเกือบหนึ่งแสนบาทนั้น ตนเก็บสะสมจากเงินผู้สูงอายุเดือนละ 800 บาท และเบี้ยคนพิการอีก 800 บาท รวมเดือนละ 1,600 บาท ลูกหลานให้สมทบอีกจึงเก็บสะสมมาไว้ทำบุญ เชื่อว่าคนร้ายต้องเป็นคนในพื้นที่ที่เคยเห็นตนเก็บเงินใส่กระเป๋า และรู้การเคลื่อนไหวว่าตนจะต้องออกจากบ้านเวลาใด

หลังเกิดเหตุ ตนก็ทำใจแล้ว ไม่คิดจะได้คืน ถือว่าทำบุญทำทาน ตนคงติดหนี้เขาไว้ตั้งแต่ชาติที่แล้ว ไม่กังวลใจ ไม่เครียด ไม่ตายก็หาใหม่ได้ ทำบุญมากกว่านี้ยังเคยทำ แต่อยากให้ตำรวจจับตัวมาลงโทษให้ได้ จะได้ไม่ไปทำกับใครอีก ส่วนเงินทองไม่ได้คืนไม่เป็นไร ขอให้คนทำชั่วรับกรรมไป ทุกวันนี้ยังใช้ชีวิตประจำวันเหมือนเดิม ยังออกกำลังกายประจำ แม้ว่าตัวเองจะป่วยพิการ