หนุ่มขอทานสะอื้น พิการยังโดนปล้น สวมชื่อโกงเงินสงเคราะห์คนจน
เปิดใจหนุ่มพิการถูกสวมชื่อรับเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อย ถึงกับตกใจหลังเห็นชื่อตัวเองไปอยู่ในบัญชีรับเงิน ทั้งที่ที่ผ่านมาไม่เคยได้รับเลยสักบาท
จากกรณี น.ส.ปนิดา หรือ น้องแบม อายุ 22 ปี นักศึกษาคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ สาขาพัฒนาชุมชน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ออกมาร้องเรียนว่า ระหว่างฝึกงานที่ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดขอนแก่น ได้ถูกเจ้าหน้าที่ให้ปลอมลายมือชื่อชาวบ้าน เพื่อเบิกจ่ายเงินและลงลายมือชื่อในใบเสร็จรับเงิน
แบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือกลุ่มรายได้ไม่เพียงพอต่อการครองชีพ รายละ 2,000 บาท เงินสงเคราะห์ผู้ติดเชื้อเอดส์ รายละ 2,000 บาท และ ทุนประกอบอาชีพต่อผู้มีรายได้น้อย รายละ 3,000 บาท ซึ่ง พบว่ามีไม่ต่ำกว่า 2,000 คน รวมเป็นเงินประมาณ 6.9 ล้านบาท
จนนำมาสู่การตรวจสอบข้อเท็จจริงและพบว่า มีการกระทำที่เข้าข่ายการทุจริตถึง 24 จังหวัด แม้แต่ผู้พิการก็ยังถูกนำชื่อไปเบิกรับเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อย จำนวน 2,000 บาท โดยเจ้าตัวไม่ทราบเรื่องมาก่อน
นายสินสมุทร อายุ 40 ปี ชาวอำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น หนุ่มขาพิการเล่าให้ฟังว่าเมื่ออายุ 15 ปี ประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ ทำให้ต้องถูกตัดขาซ้ายทิ้งไปเกือบถึงโคนขา จึงต้องสวมขาเทียมไว้แทน ทุกวันนี้อยู่ตัวคนเดียว ไม่มีญาติพี่น้อง มีรายได้หลักจากเงินผู้พิการเดือนละ 800 บาท แต่ก็ไม่พอใช้ ตลอดหลายปีนี้จึงต้องดำรงชีพด้วยการขอทานในเขตเทศบาลนครขอนแก่น
นายสินสมุทร กล่าวต่อว่า ตนเองเคยเข้าไปขอความช่วยเหลือที่ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดขอนแก่นเมื่อปีที่ผ่านมา และได้พักอาศัยอยู่ที่ศูนย์ฯ ประมาณ 4 เดือน รู้จักคุ้นเคยกับ ผอ.ศูนย์ฯ และเจ้าหน้าที่ทุกคนเป็นอย่างดี จำได้ว่า เคยให้เอกสารส่วนตัวแก่เจ้าหน้าที่เมื่อแรกเข้า
ช่วงที่พำนักอยู่ที่ศูนย์ฯ ประมาณเดือนมิถุนายน เจ้าหน้าที่ก็นำสำเนาทะเบียนบ้านที่ตนคัดลอกจากที่ว่าการอำเภอเมืองขอนแก่นไป โดยไม่บอกว่านำไปทำอะไร ทั้งนี้ตนไม่เคยลงชื่อเพื่อเบิกเงินจากโครงการใดๆ และได้ออกจากศูนย์ฯ มาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว โดยไม่เคยได้รับเงินช่วยเหลือใดๆ จากทางศูนย์ฯ
แต่เมื่อทีมข่าวนำเอกสารที่ปรากฏชื่อ นายสินสมุทร มาให้ดู พบว่าอยู่ในลำดับที่ 59 จากจำนวนทั้งหมด 250 คน ในรายชื่อแนบท้ายเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อยและผู้ไร้ที่พึ่ง ลงวันที่ 16 มกราคม 2560 ระบุสภาพปัญหารายได้ไม่เพียงพอแก่การครองชีพ จำนวนเงินช่วยเหลือรายละ 2,000 บาท นายสินสมุทรถึงกับอึ้งไปชั่วครู่ ก่อนตอบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า ไม่เคยทราบมาก่อนว่ามีชื่อตัวเอง รู้สึกเสียใจ และไม่เข้าใจว่า ทำไมเจ้าหน้าที่ถึงได้นำชื่อไปเบิกเงิน ทั้งที่เจ้าของชื่อก็ไม่เคยได้รับเงินแม้แต่บาทเดียว สภาพของตัวเองก็ได้แค่ขอทานเขาไปวันๆ ยังมาถูกปล้นเงินไปอีก