เคลียร์ไม่ได้ "หนุ่ม กะลา" ยื่นเงินแสนประกันตัว เดินสาย 47 โรงพักที่ถูกแจ้งความ
หนุ่ม กะลา ยื่นเงินแสนขอประกันตัวจากหมายจับฐานละเมิดลิขสิทธิ์เพลง "ยาม" เจ้าตัวเปิดใจยอมรับผิด แต่ไม่เจตนา พร้อมรับผิดชอบ และต้องไปโรงพัก 47 แห่งทั่วประเทศที่ถูกแจ้งความ
จากกรณี นายบุญธรรม เพ็ชรนารถ ประธานกรรมการบริษัทจัดเก็บลิขสิทธิ์เพลง เพ็ชรเมโทร จำกัด พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ทองหล่อ ได้นำหมายศาลจังหวัดพัทยา ที่ จ. 99/2561 เพื่อจับกุมตัว นายณพสิน แสงสุวรรณ หรือ “หนุ่ม กะลา” นักร้องชื่อดัง ในความผิดฐานละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้อื่นเพื่อการค้าด้วยการเผยแพร่ภาพและเสียงต่อสาธารณชน ซึ่งงานดนตรีกรรมหรือโสตทัศนวัสดุโดยไม่ได้รับอนุญาต
โดยระบุเมื่อคืนวันที่ 23 พฤศจิกายน 2560 หนุ่ม กะลา ได้ไปเปิดแสดงคอนเสิร์ตที่ร้านแห่งหนึ่งในเมืองพัทยา พร้อมกับนำเพลง “ยาม” ไปร้องในร้านและในสถานที่จัดแสดงคอนเสิร์ตต่างๆ อีกหลายครั้งหลายสถานที่ โดยไม่ได้มีการขออนุญาตกับทางเจ้าของลิขสิทธิ์แต่อย่างใด
ซึ่งในเวลาต่อมา เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (12 มี.ค.) หนุ่ม กะลา ได้เดินทางพร้อมด้วยทนายความและกลุ่มเพื่อนเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี เพื่อรับฟังข้อกล่าวหา พร้อมกับเริ่มต้นการเจรจาพูดคุยกันในกรณีดังกล่าว
นายชนินทร์ วรากุลนุเคราะห์ กรรมการบริษัท เพาเวอร์ เทรเซอร์ จำกัด เปิดเผยว่า เรื่องที่เกิดขึ้นถือว่าหลายวาระ ทางบริษัทจึงได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย เนื่องจากถูกละเมิด ซึ่งแท้จริงแล้วพยายามพูดคุยและเจรจากับศิลปินมาแล้วหลายครั้ งแต่ก็ตกลงไม่ได้
นอกจากนี้ยังเคยเดินทางไปพบตัวที่ตึกแกรมมี่ แต่เจ้าตัวก็ไม่ยอมลงมาพบจึงปล่อยให้เป็นไปตามขบวนการทางกฎหมาย ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องเคารพและให้ความสำคัญ โดยหลักการแล้วการดำเนินการครั้งนี้ไม่ได้มีเจตนาในเรื่องของการเรียกร้องอะไรมากมาย แต่เพลงนี้เป็นลิขสิทธิ์ของบริษัทที่ถือเป็นทรัพย์สิน เมื่อมีคนมาขโมยออกไป ก็คงต้องขอคืนหรือเรียกร้องค่าเสียหายตามระเบียบ
ส่วนที่ว่าจะเคลียร์อย่างไรหรือเมื่อไหร่นั้นคงเป็นเรื่องที่จะพูดคุยกันคงบอกในขณะนี้ไม่ได้ ซึ่งส่วนตัวได้ให้เบอร์โทรศัพท์กับ หนุ่ม กะลา ไปแล้ว และก็พร้อมเจรจาทุกเมื่อ ซึ่งหากตกลงกันได้ก็พร้อมถอนคดี เพราะเป็นเรื่องที่สามารถตกลงและยอมความกันได้
ขณะที่ นายไพศิษฐ์ ชาครานนท์ ทนายความส่วนตัวของ หนุ่ม กะลา เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา หนุ่มนำเพลงนี้ไปร้องแสดงตามงานต่างๆ ทั่วประเทศ ตั้งแต่ช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2560 ด้วยความที่เข้าใจว่าเพลงนี้เป็นลิขสิทธิ์ของแกรมมี่ ต้นสังกัด โดยไม่ทราบว่าก่อนว่าเพลงนี้มีปัญหา และไม่มีเจตนาที่จะกระทำผิดกฎหมายแต่อย่างใด
กระทั่งมาทราบว่ามีการแจ้งความดำเนินคดีใน 47 สถานีตำรวจทั่วประเทศ ในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา ซึ่งก็ไม่ได้ละเลยหรือนิ่งเฉยโดยได้พยายามติดต่อพนักงานสอบสวน และค่ายเจ้าของลิขสิทธิ์มาตลอด แต่ก็หาข้อยุติไม่ได้ ขณะนั้น หนุ่ม กะลา จึงประสานให้ตนเข้ามาทำหน้าที่ในการดูแลเรื่องคดี กระทั่งมีการออกหมายจับในพื้นที่เมืองพัทยาเป็นที่แรก จึงได้เดินทางมารับฟังข้อกล่าวหาและประกันตัวในครั้งนี้
สำหรับคดีนี้เป็นความเข้าใจผิดและความผิดพลาดของศิลปินเอง ที่ไม่ทราบถึงกรณีดังกล่าวมาก่อน และเมื่อทราบว่ามีปัญหาก็ไม่เคยนำเพลงนี้มาเล่นหรือแสดงอีก อย่างไรก็ตามคดีนี้เป็นคดีที่ยอมความกันได้ และตัวศิลปินก็พร้อมเจรจายินดีชดใช้และเยียวยา
ส่วนทางด้าน หนุ่ม กะลา เปิดใจถึงกรณีนี้ว่า ขอยอมรับผิดแต่โดยดี แต่สิ่งที่ทำไปเพราะไม่ทราบจริงๆ ว่าเป็นเพลงที่มีปัญหา และไม่เคยได้รับแจ้งมาก่อน ในเมื่อเกิดปัญหาขึ้นก็ไม่ได้นิ่งนอนใจและพยายามประสานงานเพื่อแก้ไขมาตลอด แต่ติดปัญหาบางอย่างจึงทำให้เกิดความล่าช้า กระทั่งมีหมายจับออกมา
โดยส่วนตัวแล้วอยากให้ทุกอย่างจบลงด้วยดี แม้จะมีผลกระทบกับงานเป็นอย่างมากเพราะต้องทำงานตลอดทั้ง 7 วัน ทำให้การพักผ่อนน้อย เพราะต้องเดินทางไปพบพนักงานสอบสวนตามสถานีต่างๆ ทั่วประเทศ ขณะที่การเจรจากับเจ้าของลิขสิทธิ์เพลงจากนี้คงจะมีการนัด เพื่อหาทางออกและต้องขอความอนุเคราะห์และความเห็นใจจากค่ายเพลงด้วย เพราะที่ทำไปเป็นเรื่องที่ไม่ตั้งใจหรือเจตนา
ส่วนเรื่องราวที่เกิดขึ้นต้องขอขอบคุณแฟนเพลงทุกคนที่คอยให้กำลังใจ ส่วนที่สงสัยว่าทำไมนิ่งเฉย จนปล่อยให้มีการออกหมายจับนั้น ยืนยันว่าไม่ได้บ่ายเบี่ยงหรือหลบเลี่ยง แต่เป็นความผิดพลาดเรื่องของเวลาและการสื่อสารเท่านั้น