หลุยส์ สก๊อต ออกโรงเคลียร์ดราม่าอยู่ก่อนแต่งกับแฟนสาว นุ่น รมิดา
กลายเป็นประเด็นดราม่าขึ้นมาทันที หลังจากที่นักแสดงสาว “นุ่น รมิดา” ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ผ่านรายการหนึ่งโดยยอมรับว่าอยู่กินก่อนแต่งกับหวานใจหนุ่ม “หลุยส์ สก็อต” แล้ว ซึ่งก็ทำเอากลุ่มคนบางกลุ่มรับไม่ได้ เพราะอาจจะดูไม่เหมาะสมกับสังคมไทยหรือเปล่า
ล่าสุดพอมีโอกาสได้เจอ “หลุยส์ สก๊อต” จึงได้ถามถึงประเด็นดังกล่าว โดยเจ้าตัวได้ชี้แจงถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ฟังว่า ความหมายที่แท้จริงนั้นหมายถึงไปๆ มาๆ หาสู่กัน ไม่ได้อยู่กินกันอย่างสามีภรรยา ซึ่งคู่ของตนมองว่ายุคนี้คือยุคใหม่แล้วจึงไม่แปลก แต่ต่างก็มีขอบเขตซึ่งกันและกัน พร้อมยอมรับอยากแต่งงานและมีลูก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องรอคุยกับฝ่ายหญิงให้ชัดเจนอีกที
เห็น นุ่น รมิดา ไปออกรายการหนึ่งมา แล้วยอมรับว่าคู่เราอยู่กันก่อนแต่ง จึงทำให้มีกระแสดราม่าตามมาว่าด้วยความเป็นไทยจะดูไม่เหมาะ ?
“อ๋อ คือที่เขาบอกหมายความว่า มาๆ ไปๆ ไม่ได้หมายความว่าอยู่กินกันแล้วในแบบสามีภรรยา ซึ่งเราต้องตีโจทย์ให้มันถูกต้องก่อน แล้วอีกอย่างในยุคนี้คือยุคใหม่แล้ว ไม่ได้อยู่ในยุคบุพเพสันนิวาส คือเรามีความเข้าใจกันและมีกฎของเราอยู่แล้ว”
พอคนวิจารณ์แบบนี้ เราซีเรียสไหม ?
“ไม่เลยครับ ผมว่าแต่ละคนมีความคิดและขอบเขตของตัวเขาเองด้วย บางคนอาจจะมองว่าไม่เหมาะสม ส่วนบางคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องโอเคเพราะก็มีกันเยอะที่เป็นแบบนี้ ผมว่าก็มีกลุ่มที่เข้าใจ แต่สำหรับเราคือเราแฮปปี้กับแบบนี้นะครับ”
วันที่นุ่นไปออกรายการ เขาได้กลับมาบอกเราไหมว่าพูดเรื่องนี้ออกไป ?
“ความจริงผมว่าพูดเรื่องนี้มันอาจจะมีกระแสข่าวด้วยที่มาเพิ่มเติม บวกใส่ไข่ ปรุงรสให้มันแซ่บขึ้นกว่าเดิม ซึ่งตัวผมก็โทษเขาไม่ได้ เพราะเวลาเราไปเที่ยวไหนเราก็ไปด้วยกัน มันกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว อีกอย่างเราก็อายุเยอะกันหมดแล้ว เราก็มีความรับผิดชอบของเราเอง และก็มีขอบเขตอย่างที่ผมว่า เราคบกันในความสัมพันธ์แบบยุคปัจจุบันครับ”
แสดงว่าเราก็ไม่ได้ตีกรอบให้กันและกัน ?
“ใช่ครับ”
แล้วแบบนี้เคยวางแผนว่าจะแต่งงานกันหรือเปล่า ?
“อันนั้นมันก็ต้องมีแน่นอนอยู่แล้ว”
มีคนบอกมาว่าจะแต่งภายในปีนี้ ?
“ใครบอกครับ (ยิ้ม) สำหรับปีนี้ผมว่ายังนะครับ แต่ผมก็พยายามจะคุยกับเขา กำลังเจรจา แล้วค่อยมาดูว่าเราจะตกลงกันได้ปีไหน ช่วงไหน ตอนนี้ก็มีแต่คนส่งรูปภาพมาให้ดูครับกับฉากแต่งงานในละคร คนก็จะชอบมาแซวๆ มากกว่า”
มีข่าวว่าได้ขอนุ่นแต่งงานแล้วที่ญี่ปุ่น ?
“อย่างที่ผมกล่าวไว้ว่ามันเป็นความรู้สึกที่ผมรู้สึกดีในจุดๆ หนึ่งกับเขา และผมก็อยากให้เขารู้ว่าผมรู้สึกยังไงกับเขา ก็มีของขวัญให้เป็นเรื่องปกติ ผมอยากจะแสดงความรักให้เขาเห็น”
เห็นว่าอยากมีครอบครัวและมีลูกแล้ว ?
“ใช่ครับ ความจริงเราก็อยากมี แต่เราลองมาคิดว่าเราจะทำหน้าที่นั้นได้ดีหรือยัง ถ้าทำได้ก็โอเค คือเรื่องนี้เราต้องมาคุยกันทั้งคู่เพราะมันไม่ใช่แค่ผม ฝ่ายผู้หญิงจะเป็นลำบากกว่าด้วยซ้ำ เพราะเขาต้องแบกภาระนั้น ถ้าเขาคิดว่าเขาพร้อมแล้วเดี๋ยวค่อยมาคุยกัน เขาต้องเป็นคนมาบอกเราว่าเขาพร้อมแล้วนะ”
เห็นว่างานแต่งต้องเลื่อนแพลนออกไปจากที่เคยวางไว้ใช่ไหม ?
“จริงๆ งานแต่งมันยังไม่มีแพลนให้เลื่อนออกไปได้ เรายังไม่ได้แพลนว่าจะแต่งเมื่อไหร่ เพราะเท่าที่คุยกันตอนนี้ยังไม่มีน้ำหนักว่าจะแต่งตอนไหนหรือเมื่อไหร่ แต่ตอนนี้เราแค่คุยกันเล่นๆ ว่าอยากได้แบบนั้นแบบนี้ หากวันไหนเอาจริงเมื่อไหร่เราถึงต้องกลับมาคุยกันอีกทีครับ”
นุ่นเคยให้สัมภาษณ์ว่าอยากมีน้องก่อนแต่ง จะได้ควงไปงานแต่งพร้อมกัน ?
“ไม่นะ แต่ว่าผมก็ไม่ได้บล็อคไอเดียนั้น คือตอนนี้เราไม่ได้แพลนเรื่องตรงนี้ ถ้าเกิดเขามาเกิดก่อนเราก็โอเคได้อยู่แล้ว ตอนนี้เหลือแต่ผมต้องคุยกับเขาเท่านั้นเองว่าอยากจะแต่งก่อน หรืออยากจะมีลูกก่อน”
รู้ไหมว่าตอนนี้เรื่องงานแต่งของคู่เรากลายเป็นวาระแห่งชาติไปแล้ว เพราะเจอกี่ทีก็ถูกถามตลอด ?
“เอ่อ... เริ่มรู้สึกนิดๆ แล้วครับ แต่ถามว่ากดดันหรือเปล่า ก็ไม่ได้กดดันนะครับ เพราะบางอย่างเราตอบไปบ้างแล้วแต่ก็ยังคงวนกลับมาที่เดิม แสดงว่าคำตอบของเรายังคงไม่ได้เป็นคำตอบที่เขาต้องการ”
ได้คุยเรื่องอนาคตกับทางครอบครัวนุ่นบ้างหรือยัง ?
“แน่นอนครับได้คุยอยู่แล้วว่าตัวเราเองก็รับผิดชอบนะ”
แสดงว่าทางผู้ใหญ่ก็ไม่ได้ซีเรียสหากนุ่นอยากมีลูกก่อนแต่ง ?
“เราไม่ได้ได้คุยไปถึงขนาดนั้นครับ แต่เขาก็พูดไว้ว่าฝากดูแลน้องด้วย”
ถามถึงเรื่องงานฉลอง 43 ปี ช่อง3 เรากลับก่อน ทั้งๆ ที่แฟนคลับเตรียมเซอร์ไพรส์ให้ ?
“เรื่องนั้นผมต้องขอโทษทุกคนด้วยครับ คือผมเจ็บตั้งแต่ 5 นาทีแรกแล้ว คือตอนที่เจ็บผมก็ยังคะยั้นคะยอเพื่อที่จะวิ่งต่อให้ได้ อย่างน้อยลงแล้วก็อยากทำหน้าที่ให้ดีที่สุด และก่อนที่เราจะแต่งตัวเพื่อขึ้นรถโชว์สำหรับละครบุพเพสันนิวาส ผมก็ออกไปแล้ว พยายามออกก่อน 20 นาทีที่เขามีจังหวะให้เราออก เราก็บอกขอลงก่อนเริ่มไม่ไหวแล้ว เริ่มเจ็บ เขาก็บอกให้ต่ออีกนิด ตอนท้ายเราโดนบุกก็เริ่มโดนจุดซ้ำมันก็เจ็บขึ้นๆ”
ทราบไหมว่ามีแฟนๆ เราอยู่ ?
“อันนั้นไม่ทราบ จนกลับไปแล้วผมเลยส่งข้อความไปขอโทษทุกคนว่าไม่ได้ตั้งใจจะให้เป็นแบบนี้”
เราอยากจะบอกอะไรกับแฟนคลับบางคนที่ไม่เข้าใจ ?
“ผมไม่รู้ว่าจะแจ้งเขายังไง จะรอจนสุดท้าย หรือจะบอกว่าบาดเจ็บให้พวกเขาออกมาก่อนทั้งๆ ที่เกมก็ยังไม่จบ เขาอาจจะกำลังสนุกอยู่กับตรงนั้นผมก็ไม่สามารถจะไปบอกให้เขาออกมาได้แล้วนะ ออกมาส่งผมได้แล้ว อันนั้นผมว่ามันเห็นแก่ตัวถ้าเราพูดแบบนั้น”
กลัวแฟนคลับจะเสียความรู้สึกกับเราไปเลยไหม ?
“ไม่รู้นะ ถ้าเขาเสียความรู้สึกไปตรงนั้นคือมันเป็นการเสียความรู้สึกที่เราเข้าใจผิดกัน ความตั้งใจของผมไม่ได้อยากจะให้มันออกมาเป็นแบบนั้น ผมอยากให้เขาสนุก อีกอย่างเขาก็ไม่ได้ไปเชียร์เราแค่คนเดียว เขายังมีคนอื่นๆ ที่ชื่นชอบและอยากจะไปเชียร์ด้วยเหมือนกัน แต่ไม่ใช่ว่าเกมหลังอีก 25 นาทีต้องออกมาส่งผมขึ้นรถ สำหรับผม ผมมองว่ามันเห็นแก่ตัว”
อัลบั้มภาพ 20 ภาพ