ก่อนเป็นตลกดัง นุ้ย เชิญยิ้ม เผยชีวิตวัยเด็กที่ต้องต่อสู้กับพี่ชาย โหน่ง ชะชะช่า
ตลกชื่อดัง นุ้ย เชิญยิ้ม ที่ตอนนี้มีครอบครัวที่อบอุ่นมากและมี ตั๊ก ศิริพร ภรรยาสาวที่น่ารักคอยดูแลอย่างดี ล่าสุดในรายการคุยแซ่บ Show ทางช่อง one31 ซึ่งงานนี้ นุ้ย เชิญยิ้ม ได้เปิดใจชีวิตในวัยเด็กให้ฟัง พร้อมกับบอกว่าตนเองกับ โหน่ง ชะชะช่า เป็นพี่น้องกันจริงๆ อีกทั้งยังเล่าเรื่องที่เมียถูกจับได้ เพราะโอนเงินให้ตลกสาวชื่อดัง จนหวิดทำบ้านแตกให้ฟังอีกด้วย
"ตอนนี้พี่สบายดี พี่ไม่ได้เป็นอะไร ข่าวที่พี่ไปนอนโรงพยาบาลนั้นก็ข่าวเก่า 2 ปีแล้ว เป็นหมอนกระดูกทับเส้นประสาท แล้วมันขยับตัวไม่ได้ จังหวะที่เขาไปถ่ายรูปที่โรงพยาบาลไง ก็เอารูปไปลงโซเชียล"
พี่นุ้ย เชิญยิ้ม กับโหน่ง ชะชะช่า เป็นพี่น้องกัน?
"ใช่ บางคนก็ไม่รู้ เพราะว่าเข้าวงการมาตั้งแต่เด็กๆ อยู่วงดนตรีลูกทุ่ง พอโตมาอยู่คาเฟ่ต์เราก็แยกกัน โหน่งไปอยู่กับพี่หม่ำ นุ้ยไปอยู่กับพี่เป็ด เราก็ทำมาด้วยกัน แต่ก็แยกย้ายกัน สมัยเด็กบ้านอยู่แถวโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ฐานะไม่ค่อยมีเงินมากมาย อยู่กับตายาย เราเป็นเด็กที่ชอบหาเงินใช้เอง แต่ไม่ได้ลงทุนอะไร บ้านอยู่ใกล้ศาลเจ้าพ่อ เวลาคนเจ็บคนป่วยเขาไปบน เราเป็นเด็กเซ่นไง พอธูปหมดดอก เราก็ลาเครื่องเซ่นเลย เอาหมูเห็ดเป็ดไก่มากินเลย"
"เรื่องพวงมาลัยก็เหมือนกัน อย่าเรียกว่าขโมย ให้เรียกว่าเป็นศิษย์เจ้าพ่อ พวงมาลัยจะปล่อยให้เหี่ยวแห้งเหรอ หลังจากไหว้เสร็จธูปหมดดอก ผมก็ไปเอาพวงมาลัยมาเลย มันยังสดอยู่ เราก็เอาพวงมาลัยพวกนี้ไปขายที่อนุสาวรีย์ชัย แล้วที่นั่นจะมีแม่ค้านั่งร้อยมาลัยอยู่ พวงละ 5 บาทแต่เราไม่ได้ลงทุนอะไร เราก็ไปขายเลย 3 พวง 5 บาท ใครๆ ก็ซื้อเรา ขายได้ไม่เกิน 20 ก็โดนจัดการ วิ่งหนีกัน 2 คนพี่น้อง"
เอาเงินไปทำอะไร?
"เอาไปโรงเรียน เพราะว่าตากับยายก็ไม่ค่อยมีเงิน ยายก็ไปรับจ้างนวดแผนโบราณตามบ้าน จริงๆ แล้วหาเงินได้เพื่อเอาไปกินที่โรงเรียน แต่เราหาเงินมาได้ เพื่อเอาไปเล่นทอยเส้นกันที่โรงเรียน ยายเป็นคนรักหลานมาก เขาจะพกข้าวกล่องให้คนละกล่อง ทีนี้ชีวิตวัยรุ่น เราอยากเป็นวัยรุ่นที่เดินสบายๆ ใส่กางเกงแบบว่าขาสั้น กระเป๋านักเรียนต้องแบนๆ แล้ววัยรุ่นจะพกข้าวกล่องทำไม ก็เกี่ยงกันถือกับโหน่ง ก็เอาข้าวกล่องไปซ่อน แล้วไปโรงเรียน เล่นทอยเส้นจนเงินหมด ก็หิว กลับมาก็ไปหาข้าวกล่องที่ซ่อนไว้ สรุปหมาเอาไปกินหมดแล้ว เราทำแบบนี้ตลอด"
ประทับใจอะไรในตัวพี่ชายโหน่ง?
"โหน่งเขาจะเป็นคนที่สอนน้องอยู่ตลอดเวลา เพราะเขาจะเป็นคนที่ไม่เล่นการพนัน เหล้าไม่กิน บุหรี่ไม่สูบ แต่เราจะตรงข้ามกัน โหน่งเขาจะคอยเตือนตลอด แต่ที่จะทะเลาะกันตลอดก็สมัยตอนที่อยู่วงดนตรีลูกทุ่ง ศรชัย เมฆวิเชียร ผมดมกาว โหน่งเตะนิ้วหักเลย ที่เขาโมโหที่สุดคือตอนนั้นอยากของมาก ผมขับรถบัสไปซื้อในเมืองเลย โหน่งโกรธมากเพราะกลัวว่าจะทำรถเขาพัง แต่เจ้าของคณะไม่โกรธเลย เขารักเราเหมือนลูก จุดพีคที่ทำให้เราเลิกก็คือ ผู้คนไม่กล้าเข้าใคร ตัวเหม็นไปหมดเลย กระเป๋าตังค์ก็ไม่มีใครกล้าวาง กลัวเราจะไปขโมยของเขา แต่เราไม่เคยขโมยของใคร ดีที่เราสำนึกผิด คิดเลิกได้"
ย้อนกลับไปสมัยที่ลำบากสุดๆ?
"ตอนเด็กก็คือลำบากสุดๆ แล้ว แต่พอโจมาเรามาเล่นตลกคาเฟ่ เราก็เล่นตลกคณะเล็กๆ งานก็ไม่มี พอมีลูกกับภรรยาคนแรก ก็ไม่มีเงินทำคลอด ก็ตกงานด้วย ผมก็อุ้มลูกกับภรรยาคนเก่าไปหางานกับเพื่อนก็ไม่มีใครรับเลย แต่มีคนหนึ่งที่รับพี่คือ พี่หน่อย เชิญยิ้ม รับเรา เอาเข้าไปอยู่ด้วยเลย ตั้งแต่นั้นมาผมก็กรีดเลือดสาบานเป็นพี่น้องกันเลย พี่หน่อยเป็นคนให้เงินค่าทำคลอดด้วย ให้เอาเงินไปก่อนเลย"
ตอนนั้นโหน่งลำบากมั้ย?
"โหน่งไม่เคยลำบากเลย เพราะเขาเป็นคนเข้ากับผู้ใหญ่ง่าย เขาก็มีงานเข้ามาตลอด ชีวิตเขาดีขึ้นเรื่อยๆ พี่ไม่เคยน้อยใจพี่โหน่งเลยนะ เพราะเขาเป็นคนมาตามพี่ทุกครั้ง พอพี่โหน่งขึ้นกับชูศรี เชิญยิ้ม เขาก็มาตามน้องไปเล่น เขารักน้องและดูแลน้องทุกคน แต่น้องมันดื้อ"
ทำไมตลกต้องเจ้าชู้?
"จริงๆ พี่ไม่ใช่คนเจ้าชู้ แต่พอไปอยู่วงการคาเฟ่ แสงเสียง มีนางฟ้าร้องเพลงทุกคืน ก็แค่เดินสวนกันไปมา ไม่ได้คุยกัน แต่อาจจะมีนั่งคุยกันบ้างได้มาลัยเท่าไหร่ คือเราก็ได้แค่ภายนอกนั่งคุยกัน แต่ไม่ได้มีภายในอะไร"
จากนั้น ตั๊ก ศิริพร ก็ส่งวิดีโอมาบอกว่า "ทุกวันนี้ยังอาบน้ำด้วยกัน ดีใจที่ได้เกิดเป็นเมียเขา เขาเป็นสามีเรา อย่าลืมสัญญาหาเงินเยอะๆ จะได้ไปเที่ยวด้วยกัน ไม่นอกใจ ไม่เจ้าชู้ ไม่ยุ่งยาเสพติด การพนัน ที่เราไปไหว้พระกันไว้ พี่นุ้ยเป็นผู้ชายใจดี ชอบเรื่องธรรมะ รักพี่นุ้ย นุ้ยบอกว่า ชอบขัดหลังกันทั้งคู่ ชอบอาบน้ำด้วยกันเป็นสื่อรัก เห็นหน้ากันทุกวัน ดีใจที่ได้พี่นุ้ยเป็นคู่ชีวิต รักเขามากๆ เลย"
อาบน้ำด้วยกันทุกวันจริงเหรอ?
"ใช่ อาบน้ำด้วยกันทุกวัน เราเป็นคนชอบขัดหลัง แต่เราขัดเองไม่ได้ เขาก็เป็นคนชอบขัดหลังเหมือนกัน ก็ผลัดกันขัดหลัง มันเป็นการสื่อรักสามีภรรยาอีกสิ่งหนึ่ง"
หวิดบ้านแตกเพราะตลกสาวรุ่นน้อง จริงมั้ย?
"ตอนช่วงที่ยังเป็นแค่ส่งข้อความหากันได้ ก็มีนักร้องส่งข้อความมาว่า พี่นุ้ย เราเลิกกันนะ จริงๆ ตั๊กเขาไม่รู้เรื่องหรอก แต่ลูกพ่อดม ไปอ่านออกเสียงให้เขาได้ยิน แต่จริงๆ เราไม่มีอะไร คือมีครั้งนี้ครั้งเดียวแค่นั้นเอง พี่ตั๊กเขาพาพี่ไปสาบาน คือเขาคิดมากเรื่องนี้มาก เรื่องความเจ้าชู้"
"ส่วนเรื่องตลกสาวเซ็กซี่นี่รุนแรงมาก เรื่องเกิดขึ้นหลังไปสาบาน เพิ่งไม่นานมานี้ มีสลิปการโอนเงิน 4-5 หมื่นอยู่ในรถ จังหวะที่พี่ตั๊กขึ้นมานั่ง คนมันจะดวงซวยอะไรก็ซวยไปหมด พี่ตั๊กเขามานั่งแล้วแดดมันส่องตาก็ดึงที่บังแดดลงมา แล้วใบกำกับภาษีมันหล่นลงมา 3 หมื่นบาท เราไปถ่ายรายการมาวันนั้นแต่ให้เงินเขาหมื่นเดียว จากนั้นก็เขารื้อใหญ่เลย ก็ไปเจอใบเสร็จที่เราโอนเงินไปให้ผู้หญิงคนนั้น 4 หมื่นบาท เขาถามใหญ่เลยว่าใคร เราก็จำไม่ได้ ไม่ได้ตอบอะไร ตั๊กเขาก็เช็คใหญ่เลย แล้วชื่อเด้งมาก็เป็น ชมพู่ ก่อนบ่าย ซึ่งก็คือชื่อเก่าของชมพู่"
งานนี้ ชมพู่ ก่อนบ่าย ที่เป็นพิธีกรก็รีบชี้แจงว่า ทริปนั้นเรานัดไปเที่ยวสิงคโปร์กัน 3 ครอบครัว แล้วหนูเป็นตัวตั้งตัวตี ทุกคนต้องโอนมาที่บัญชีหนู เพราะหนูต้องไปจองทัวร์ แล้วพอเจอกัน พี่ตั๊กก็ผลักหนูบอกว่าเกือบทะเลาะกันบ้านแตก เตียงหัก เพราะชื่อแกนี่แหละ
นุ้ย บอกว่า จริงๆ แล้ว เขานั่นแหละเป็นคนให้พี่ไปโอนเงิน เขาเขียนใส่กระดาษชื่อนี้ บัญชีนี้ให้เราไปโอน พอโอนเสร็จพี่ก็เอาบิลใส่ไว้ในนั้น คือเขาจำไม่ได้ไง พี่ไม่ได้เป็นคนกลัวภรรยานะ แต่ทะเลาะกันบ่อย ส่วนเรื่องอะไรนั้นไม่ได้ตั้งชื่อเรื่อง อยู่ๆ จะทะเลาะก็ทะเลาะ"
ติดตามรายการคุยแซ่บ Show ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ 14.00-15.00 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama
อัลบั้มภาพ 9 ภาพ