เปรมชัย โดนแล้ว 13 ข้อหา ฟ้องค่าเสียหายทางแพ่ง 13 ล้าน
(26 มี.ค.) พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยันยังไม่ได้รับคำสั่งให้สอบสวน สำนวนคดีล่าสัตว์ป่าฯ ของ นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) และพวกรวม 4 คน เพิ่มเติมครั้งที่ 2 อย่างเป็นทางการจากอัยการ มาให้พนักงานสอบสวนว่าจะให้สอบเพิ่มเติมในประเด็นใด เนื่องจากวันนี้อัยการยังอยู่ระหว่างการประชุม
แต่คาดว่าอัยการจะมีคำสั่งให้สอบเพิ่มเติม เพราะมีข้อเท็จจริงจากกรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืช มาเพิ่มเติมทั้งเรื่องดีเอ็นเอและหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ที่ต้องส่งเพิ่มเติม รวมถึงเรื่องค่าเสียหาย ซึ่งกรมอุทยานฯ ได้สรุปค่าเสียหายมูลค่ารวมประมาณ 13 ล้านบาท ส่วนสำนวนสอบเพิ่มเติมในครั้งแรก ได้ส่งกลับให้อัยการแล้วตั้งแต่วันที่ 22 มี.ค. ที่ผ่านมา ยืนยันว่า ตำรวจไม่ทำคดีล่าช้า
ส่วนกรณี ที่มีกระแสข่าวเรื่องไม่พบดีเอ็นเอที่อาวุธปืน อาจจะเป็นช่องโหว่ของคดีนั้น พล.ต.อ.ศรีวราห์ ระบุว่า ปืนเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่หลักฐานสำคัญที่พบดีเอ็นเอ คือ มีดและเขียง ซึ่งทำให้ยืนยันได้ว่า สำนวนการสอบสวนไม่อ่อนตามที่มีกระแสข่าวแน่นอน และหากอัยการมีคำสั่งสอบเพิ่มเติมครั้งที่ 2 อย่างเป็นทางการมา ก็จะดำเนินการทันที
ส่วนประเด็นที่มีบุคคลตั้งข้อสังเกตว่า สำนวนมีช่องโหว่ให้ผู้ต้องหาต่อสู้คดีในชั้นศาลได้นั้น ขอให้รอผลการประชุมของพนักงานอัยการก่อน และส่วนตัวไม่คิดที่จะฟ้องกลับบุคคลเหล่านั้น และยืนยันว่าการทำงานของตัวเองตลอดที่รับราชการมาไม่มีทางเปิดช่องให้ผู้ต้องหากลับมาฟ้องร้องตนเองได้
ส่วนความผิดฐานตาม พ.ร.บ.ศุลกากร กรณีหลีกเลี่ยงภาษีนำเข้างาช้าง พนักงานสอบสวนได้เรียกนายเปรมชัย เข้ามารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว ทำให้ขณะนี้นายเปรมชัยโดนข้อกล่าวหารวมทั้งหมด 13 ข้อหา
นอกจากนี้ รอง ผบ.ตร. ยังยืนยันอีกว่า ได้กำชับพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ปทส. และกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ปปป. ว่าจะต้องสรุปสำนวนส่งอัยการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 มี.ค.นี้