เก้า จิรายุ ผ่อนผันทหารอีกปี บอกเหตุผลยังติดเรียนปริญญาโท
ใกล้เข้าสู่ช่วงเกณฑ์ทหารของชายไทยแล้ว ซึ่งหนึ่งในอาชีพที่คนต่างให้ความสนใจนั่นก็คืออาชีพของคนในวงการบันเทิงว่าแต่ละปีนักแสดงที่มีรายชื่อนั้นจะตัดสินใจกับเรื่องนี้อย่างไร
ซึ่งหนึ่งในบุคคลที่มีรายชื่อเข้าเกณฑ์ทหารของปีนี้ก็คือนักแสดงหนุ่ม “เก้า จิรายุ” โดยล่าสุดเจ้าตัวก็ได้ออกมาเปิดเผยให้ฟังว่า ปีนี้ตนคงต้องขอผ่อนผันไปอีกปี เพราะติดเรียนปริญญาโทอยู่ อีกอย่างก็รับละครไว้แล้วด้วย พร้อมบอกหากหมดอายุการผ่อนผันตนก็ยังปรึกษากับทางบ้านว่าจะสมัครรับใช้ชาติไปเลยดีไหม แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับความพร้อมของช่วงเวลาดังกล่าว
ปีนี้อายุเท่าไหร่แล้ว?
“23 ครับ”
ที่เราผ่อนผันทหารปีนี้เพราะติดเรียนใช่ไหม ?
“ก็จริงๆ แล้วผมมีชื่อตั้งแต่ประมาณ 1-2 ปีที่แล้ว แล้วครับ แต่ผ่อนผันไป ซึ่งปีนี้ก็น่าจะผ่อนผันอีก ถามว่าเหลือผ่อนผันได้อีกกี่ปี ผมไม่ทราบเหมือนกันครับ แต่ตอนนี้ผมผ่อนผันได้เพราะว่าผมเรียนปริญญาโทอยู่ แต่ถ้าจบปริญญาโทแล้วก็คงจะผ่อนผันไม่ได้แล้วหรือเปล่า ผมก็ไม่ค่อยแน่ใจเรื่องข้อมูลครับ แต่ว่ายังไงปีนี้ก็ต้องผ่อนผันไปก่อน เพราะเราก็ติดงานด้วย ลงเรียนปริญญาโทไปแล้วด้วย อย่างละครเรื่องนี้ก็เปิดกล้องแล้วด้วย ถ้าไปเกณฑ์ทหารก็อาจจะถ่ายลำบากหน่อยถ้าหัวเราเกรียนๆ คิวก็อาจจะลำบากด้วย เราแพลนงานไว้แล้ว เดี๋ยวจะมีปัญหา มันไม่ใช่งานของเราคนเดียวด้วย ก็ปีหน้าค่อยว่ากันครับ”
ถ้าหมดสิทธิ์ผ่อนผันเราจะสมัครเลยหรือลุ้นจับใบดำใบแดง ?
“ก็คิดไว้หลายแบบเหมือนกันครับ แต่ยังไม่ตัดสินใจ แต่เคยคุยกับที่บ้านไว้เรื่องว่าจะสมัครไปเลยแค่ 6 เดือนเอง จะได้ได้ประสบการณ์ด้วยซึ่งก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจ เดี๋ยวตัดสินใจอีกทีหนึ่งครับ”
ดาราช่องเราปีที่แล้วก็มีคนสมัครทหารหลายคนเลย มีส่วนทำให้เราตัดสินใจสมัครเลยไหม ?
“ไม่เกี่ยวกับคนอื่นเลยครับ เกี่ยวกับว่าอย่างที่บ้าน ครอบครัวผมคุณตาเป็นทหารอยู่แล้ว เราก็เห็นมาตั้งแต่เด็ก ตอนเด็กๆ เราก็มีอยากเป็นนักบิน เป็นทหารอากาศ เหมือนเราซึมซับมาอยู่แล้ว เรารู้สึกอยู่แล้วว่าทหารเป็นอะไรที่เท่ แล้วก็ได้รับใช้ชาติ เรามีทัศนคติที่ดีเกี่ยวกับทหารอยู่แล้ครับ”
ถ้าเราไม่ติดเรื่องงานหรือเรียนเราก็อยากเป็นทหารอยู่แล้วใช่ ?
“จริงๆ ก็น่าสนใจเหมือนกันนะครับ เดี๋ยวตัดสินใจอีกทีว่าถ้างานไม่หายมาก นี่ผมพูดไปตอนนี้จะกลายเป็นผูกไหมครับ (หัวเราะ) แต่จริงๆ ก็น่าสนใจครับ แต่ว่าปีนี้คงไม่ได้เพราะรับงานไปแล้วครับ”
ปีนี้สำหรับงานละคร และเรื่องเรียนของเรา มันเยอะขนาดไหน ?
“ผมเรียนเสาร์-อาทิตย์ครับ แล้วก็จะมีละครถ่ายจันทร์-พุธครับเรื่องเงา แล้วก็เดี๋ยวจะเปิดอีกเรื่องหนึ่งก็อาจจะพฤหัส-อาทิตย์มั้งครับ ก็ทำงานกับเรียนรวมกันอาทิตย์ละ 9 วันครับ (หัวเราะ)”
เราแบ่งเวลาอย่างไร ?
“การเรียนปริญญาโทเวลาเรียนจะน้อยกว่าครับ ไม่ต้องเรียนหลายวันเท่าปริญญาตรี แต่ด้วยความหนักเรื่องงาน ผมก็ต้องพยายามที่จะตามไปส่งงานเยอะ แล้วก็มีเพื่อนๆ ช่วยทำงานให้บ้าง”
กลัวจะทำให้การเรียนปริญญาโทของเรายืดเยื้อไหม ?
“ตอนนี้พยายามจะให้จบเร็วที่สุด ถ้ายืดไปเรื่อยๆ ก็กลัวจะขี้เกียจแล้วไม่จบสักที อย่างตอนนี้เรียนมาก็เริ่มมีเพื่อนๆ พี่ๆ ที่เขาคอยช่วยเรา ถ้าเกิดเราไม่จบพร้อมพี่ๆ เขาก็เดี๋ยวพอข้ามรุ่นไปเราก็ต้องไปทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่อีก ก็เดี๋ยวจะลำบาก ก็อยากจบพร้อมเพื่อนเหมือนตอนปริญญาตรีครับ”
เรียนเกี่ยวกับอะไรที่เรียนอยู่ตอนนี้ ?
“นิเทศศาสตร์ เอกสื่อสารการตลาด ที่มหาวิทยาลัยศรีปทุมครับ เป็นหลักสูตรปีนิดๆ เองครับ ก็อีกนิดเดียว ผ่านไปเกินครึ่งแล้ว หวังว่าปีหน้าน่าจะจบครับ ถามว่าเรียนแล้วสามารถเอามาใช้กับงานเราได้ไหมคือมันก็เป็นโอกาสที่ดีกับตัวเราในแง่ของถ้าวันหนึ่งเราทำธุรกิจ เพราะเขาสอนเรื่องการตลาดด้วย แล้วปริญญาตรีผมเรียนภาพยนตร์มา ถ้าเอามาบวกกับตรงนี้ก็อาจจะช่วยได้ในเรื่องของการสร้างแบรนด์ สร้างรายการ หรือว่าทำอะไรเป็นของตัวเองที่มันแยกออกไป ก็ไม่แน่ครับ ต้องดูอีกที”
หัวใจตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง ?
“สดใสปกติครับ”
ยังคุยๆ กับ มายด์ วิรพร อยู่ไหม ?
“ก็คุยเรื่อยๆ ครับ คุยเป็นเพื่อนกันครับ”
มีโอกาสพัฒนาความสัมพันธ์ไหม ?
“ก็เป็นของอนาคตครับ ตอนนี้ก็โฟกัสที่การเรียนปริญญาโทก่อนครับ ตอบแบบดารา (หัวเราะ)”
อัลบั้มภาพ 13 ภาพ