ลูกเรือถูกหลอกหาปลา 30 ปี ไม่ได้เงินสักบาท หนีขึ้นฝั่งปั่นจักรยานกลับบ้าน 15 วัน

ลูกเรือถูกหลอกหาปลา 30 ปี ไม่ได้เงินสักบาท หนีขึ้นฝั่งปั่นจักรยานกลับบ้าน 15 วัน

ลูกเรือถูกหลอกหาปลา 30 ปี ไม่ได้เงินสักบาท หนีขึ้นฝั่งปั่นจักรยานกลับบ้าน 15 วัน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ชายวัย 54 ปี ถูกหลอกลงเรือหาปลากลางทะเลโหดนาน 30 ปี ต้องใช้ชีวิตสุดทรมาน หมดสิทธิ์รับรู้ข่าวสาร ไม่สามารถติดต่อญาติได้เลย แถมไม่ได้เงินแม้แต่บาทเดียว 

โดยชายคนดังกล่าวเล่าว่า แรกเริ่มไปหางานทำเป็นช่างเชื่อมโลหะที่จังหวัดระยองเมื่อปี พ.ศ.2532 จากนั้นเปลี่ยนงานหลายแห่งกระทั่งไปที่จังหวัดสมุทรสาคร แต่ไม่ได้รับค่าจ้างและมีคนมาติดต่อชักชวนให้ไปลงเรือหาปลาในทะเล จึงได้ไปลงเรือที่จังหวัดพังงา โดยบอกว่าจะดำเนินการด้านเอกสารและหลักฐานย้อนหลังให้ ซึ่งต่อมาเรื่องทั้งหมดก็เงียบหาย หากสอบถามก็ถูกด่าและข่มขู่

จากนั้นก็ลงเรือเล็ก ออกจากฝั่งไปขึ้นเรือใหญ่ที่จอดรออยู่กลางทะเลไกลมาก และมีผู้ชายอยู่ในเรือประมาณ 60 คน ตลอดระยะเวลาเกือบ 30 ปี ที่ลงเรือหาปลากลางทะเลอยู่กลางทะเลนับว่าสุดแสนทรมาน ทั้งอาหาร น้ำดื่ม เสื้อผ้าและการพักผ่อนที่มีข้อจำกัด แต่ต้องทำงานอย่างหนักและต่อเนื่อง และไม่มีค่าตอบแทนให้แม้แต่บาทเดียว

โทรศัพท์ถูกยึดและทำลาย ไม่มีข้อต่อรองใดๆ แม้ขอขึ้นฝั่งเกรงจะหลบหนี มีชาวมอญและเขมรบางรายเจ็บป่วย เนื่องจากอุบัติเหตุขณะเก็บกู้อวน และไม่สามารถทำงานนานเกิน 3 วัน แต่กลับถูกถีบลงทะเลลึกหายไป หลายอย่างล้วนเป็นเหตุที่สะพรึงกลัวและระแวงแม้คนงานในเรือเดียวกัน

หากมีเจ้าหน้าที่ทางการของพม่า หรือ อินโดนีเซียแล่นเรือมาดำเนินการตรวจสอบเรือ คนงานจะถูกเปิดหวอให้รีบลงไปอยู่ใต้ท้องเรือรวมกับสัตว์ทะเลที่จับได้ วันเวลาไม่สามารถรับรู้ได้ ต่อมามีเรือขนาดเล็กมารับปลาจากเรือใหญ่ที่ตนอยู่ จึงได้ฉกฉวยโอกาสที่ไต้ก๋งเรือใหญ่เผลอและขออาศัยเรือรับปลากลับเข้าฝั่ง ซึ่งตนเองคิดว่าขึ้นบกเมื่อไหร่ตนจะรอดตาย แม้จะไม่มีเงินติดตัวจากการลงเรือเลย

หลังจากนั้น เดินรับจ้างเป็นช่างเชื่อมโลหะอยู่นานเกือบเดือน และย้ายที่ทำงานอีกหลายแห่งกระทั่งมีเงินเก็บอยู่เกือบ 1,000 บาท จึงพร้อมที่จะตีตั๋วขึ้นรถกลับบ้าน แต่ตนเองไม่มีบัตรประจำตัวและบัตรใดๆ แสดงที่ห้องจำหน่ายตั๋ว จึงตัดสินใจนำเงินที่เหลืออยู่ซื้อจักรยานคันเก่าจากชาวบ้าน เพื่อปั่นกลับบ้านที่ อ.ทองแสนขัน จ. อุตรดิตถ์

โดยหลังจากกราบขอพรพระร่วงโรจนฤทธิ์ที่นครปฐมเจดีย์ ก็ปั่นจักรยาน ระหว่างทางเจออุปสรรคทั้งร้อน หิวโหย ยางรถรั่ว พายุฝน กว่าจะถึงบ้านใช้เวลาปั่นจักรยานนานถึง 15 วัน หลังจากญาติและบรรดาเพื่อนๆ ทราบว่าตนเองยังมีชีวิตอยู่ และขี่จักรยานกลับถึงบ้านราวอย่างปาฎิหาริย์ ต่างเดินทางไปสอบถามถึงชีวิตและความเป็นอยู่ที่ขาดการติดต่อคล้ายเกิดใหม่และแสดงความยินดีกันมากมาย และได้พบหน้าลูกสาวที่ไม่ได้เจอกันตั้งแต่ 2 ขวบ จนปัจจุบันอายุ 31 ปีแล้ว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook