วอนช่วยพ่อแม่ลูก 5 ชีวิต ขาดไฟไร้น้ำนานกว่า 5 ปี ส้วมก็ไม่มีใช้
วอนช่วย 5 ชีวิต ได้มีน้ำ ไฟ และห้องน้ำใช้ หลังทนอยู่กับความมืดมากว่า 5 ปี หัวหน้าครอบครัวหูหนวก อาศัยอยู่กระท่อมผุพัง มีรายได้หลักจากเบี้ยผู้พิการเดือนละ 800 บาท
วันนี้ (27 มี.ค. 61) ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์ พบกลุ่มจิตอาสาน้ำใจงาม ที่ใช้ชื่อกลุ่มว่า “จิตอาสาอำเภอจอมพระ” นำโดยจ่าเอกกฤษณะ มีด้วยดี, นายอนุสรณ์ มั่นหมาย และทีมงานกู้ชีพกู้ภัย ในพื้นที่ อ.จอมพระ จ.สุรินทร์ ประมาณ 10 กว่าคน ได้นำสิ่งของเป็นเสื้อผ้าเด็กและเสื้อผ้าผู้ใหญ่ ไปมอบให้กับครอบครัว นายหัด สายบุตร อายุ 54 ปี บ้านเลขที่ 131 ม.8 บ้านโนนสำราญ ต.ลุ่มระวี อ.จอมพระ จ.สุรินทร์ จำนวน 1 ตะกร้า ถึงแม้สิ่งของที่นำมามอบจะมีค่าไม่มากมายนัก แต่ก็เป็นสิ่งของที่กลุ่มจิตอาสานำมามอบให้ด้วยใจ หลังทราบข่าวจากสื่อโซเชี่ยล เพจเฟซบุ๊ก ว่าครอบครัวดังกล่าวมีความเป็นอยู่ที่ลำบาก
สำหรับครอบครัวของนายหัด พักอาศัยอยู่ด้วยกัน 5 คนพ่อ แม่ ลูก ประกอบด้วยนางบุญเลือน กกรัมย์ อายุ 42 ปี ภรรยา มีลูกด้วยกัน 3 คน คนโตอายุ 15 ปี ไม่ได้เรียนต่อเพราะฐานะยากจน ลูกคนกลางเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และลูกสาวคนเล็กเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2
สภาพบ้านเรือนผุพังหลังคามุงด้วยสังกะสีที่ใกล้หมดอายุการใช้งาน ฝาบ้านมีแต่ไม่เต็มทุกด้านต้องใช้ป้ายไวนิลมาปิดกั้นแทนพอบังแดดกันฝน ลักษณะบ้านคล้ายเพิงพักชั่วคราวไม่มั่นคงมิดชิด เวลามีลมฝนไม่สามารถป้องกันได้ ที่สำคัญสุดไม่มีห้องน้ำ ไม่มีน้ำประปา และไม่มีไฟฟ้าใช้มานานหลายปี เวลากลางคืนต้องจุดตะเกียงกินข้าวและทำการบ้าน มีความเป็นอยู่ที่อัตคัตขัดสน กินอยู่แบบตามมีตามเกิดแล้วแต่จะหาได้
ขณะที่นายหัด ก็พิการหูหนวกสื่อสารไม่รู้เรื่อง อ่านหนังสือไม่ออก ไม่มีงานประจำทำ อาศัยรับจ้างทั่วไปแล้วแต่ว่าใครจะจ้าง หากไม่มีงานก็ออกหาเก็บผัก ดักหนูนา และหาของป่าขาย รายได้ไม่แน่นอน มีรายได้หลักคือเบี้ยคนพิการเดือนละ 800 บาท พอแค่ซื้อข้าวสาร โชคร้ายเมื่อปีที่ผ่านมาก็เกิดตกจากต้นไม้ขณะปีนไปเก็บผัก จนสลบนิ่งอยู่หลายชั่วโมงโดยไม่มีใครเห็น จนศีรษะบวมเกือบเสียชีวิต ส่วนนางบุญเลื่อน ภรรยามีอาชีพรับจ้างทั่วไปเช่นกัน ปีหนึ่งจะเข้าไปทำงานรับจ้างหาเงินที่กรุงเทพฯ ประมาณ 5-6 เดือน แล้วก็จะกลับมาอยู่กับครอบครัว 5-6 เดือน ก็จะกลับไปใหม่ มีรายได้พอได้ใช้ในครอบครัวและค่าเทอมให้ลูกได้เรียนหนังสือบ้าง
จ่าเอกกฤษณะ มีด้วยดี กลุ่มจิตอาสาอำเภอจอมพระ เผยว่า ตนทราบข่าวจากทางโลกโซเชี่ยล เฟซบุ๊ก กลุ่มไลน์ของกลุ่มกู้ชีพและของกลุ่มรวมอาสาสมัครในพื้นที่จอมพระ ว่ามีครอบครับของน้องๆ 3 คน มีความเดือดร้อนเรื่องของการใช้ชีวิตในการอยู่อาศัย ผู้เป็นแม่ก็ไปทำงานอยู่ที่ กทม. นานๆจะส่งเงินมาให้ใช้ เป็นคนหารายได้ทางเดียว ส่วนผู้เป็นพ่อก็ป่วยพิการทางด้านหูไม่ได้ยิน ได้รับเบี้ยยังชีพผู้พิการจากทางภาครัฐเดือนละ 800 บาท ก็เลยได้รวมตัวกลุ่มจิตอาสามาเยี่ยมเยือนดูสภาพความเป็นอยู่ และวิเคราะห์ดูว่าจะพอช่วยเหลือตรงไหนได้บ้าง กลับไปเราก็จะมาวางแผนกันหาทางช่วยทางด้านอื่นอีกทางหนึ่ง ตามที่เราพอประสานได้
นางบุญเลือน กกรัมย์ บอกว่า ตอนนี้ลำบากตรงที่ไม่มีไฟฟ้าและน้ำใช้ ห้องน้ำก็ไม่มี เวลาขับถ่ายก็ถือเสียมเข้าไปในป่าเอา มีรายได้จากเบี้ยผู้พิการของสามีและรายได้จากการรับจากทั่วไปก็พอได้ใช้ แต่ก็ไม่มีพอที่จะมาต่อน้ำต่อไฟฟ้ามาเข้าบ้าน ทุกวันนี้ซื้อน้ำจากพ่อค้าที่มาเร่ขายน้ำตามบ้านมาใช้ในชีวิตประจำวัน ซื้อครั้งหนึ่งก็ประมาณ 3 ถัง ถังละ 120 บาท เป็นเงิน 360 บาท ใช้ได้ประมาณ 1 เดือน ส่วนบ้านเวลาฝนตกก็พอมีสาดเข้าบ้าง ถ้าลมไม่แรงก็พอนอนได้ ส่วนลูกตอนนี้ได้เรียน 2 คนๆ โตหลังจบ ป.6 ก็ไม่ได้เรียนต่อ ส่วนตนถ้าว่างเว้นจากหน้าทำนาก็จะไปทำงานที่กรุงเทพฯ ไปปีหนึ่งก็ประมาณ 5-6 เดือน พอได้ส่งเงินให้คนทางบ้านได้ใช้ ญาติพี่น้องก็มีมาช่วยเหลือบ้าง แต่เขาก็ลำบากเหมือนกันกับเรา เวลาจำเป็นหรือเจ็บป่วยเราไม่มีเขาก็ช่วย
ตอนนี้ลำบากเรื่องน้ำ ไฟ ไม่มี ตนไม่รู้ว่าจะไปขอตรงไหนเพราะที่ตรงนี้เป็นรอยต่อเขตระหว่างอำเภอจอมพระกับอำเภอท่าตูม เป็นเวลา 5 ปีแล้วที่ตนมาอยู่ตรงนี้โดยไม่มีน้ำ ไฟฟ้าใช้ ก็อยากวอนหน่วยงานเกี่ยวข้องหรือผู้ที่สามารถจะช่วยเหลือในเรื่องของการต่อน้ำต่อไฟ ให้มาช่วยเหลือครอบครัวของตนด้วย ตอนนี้มีบ้านที่อยู่ข้างในเขาจะให้ต่อไฟมาใช้อยู่แต่ว่าตนเองไม่มีเงินที่ไปซื้อสายไฟไปพ่วงต่อมาจากบ้านเขา ตนก็ไม่รู้จะทำอย่างไรเหมือนกัน
สำหรับผู้ใจบุญที่ต้องการช่วยเหลือครอบครัวนี้ ได้มีน้ำ มีไฟฟ้า และห้องน้ำใช้ สามารถช่วยเหลือได้ทางบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ หมายเลขบัญชี 020116015277 ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาหนองตาด ชื่อบัญชี นายหัด สายบุตร หรือโทรสอบถามที่ 098-1366227 นางบุญเลือน กกรัมย์ ภรรยานายหัด
อัลบั้มภาพ 6 ภาพ