พ่อเลี้ยงอ้างโมโหเด็กฉี่รดที่นอน ยอมรับทุบไป 2-3 ที ไม่รู้ถึงขั้นขาหัก

พ่อเลี้ยงอ้างโมโหเด็กฉี่รดที่นอน ยอมรับทุบไป 2-3 ที ไม่รู้ถึงขั้นขาหัก

พ่อเลี้ยงอ้างโมโหเด็กฉี่รดที่นอน ยอมรับทุบไป 2-3 ที ไม่รู้ถึงขั้นขาหัก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่เพจดัง "แหม่มโพธิ์ดำ" โพสต์ภาพ น้องบอส เด็กชายอายุ 2 ขวบ กระดูกต้นขาข้างซ้ายหัก นอนใส่เฝือก และมีรอยช้ำที่กกหูข้างซ้าย และใบหน้าหลายจุด รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลชัยนาทนเรนทร อ.เมืองชัยนาท สาเหตุมาจากถูกพ่อเลี้ยงทำร้ายนั้น

(27 มี.ค.) ล่าสุดเวลา 15.00 น. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยัง สภ.สรรคบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าของพื้นที่ดังกล่าว เพื่อสอบถามความเป็นมาของกรณีดังกล่าว ว่ามีสาเหตุหรือข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร

ด้าน พ.ต.ท.สิทธิชัย สิทธิโชติเดชากุล รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.สรรคบุรี เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 18.00 น. ทาง สภ.สรรคบุรี ได้รับแจ้งเหตุเด็กถูกทำร้าย จึงเดินทางไปตรวจสอบที่ รพ.สรรคบุรี พบว่าเป็น น้องบอส อายุ 2 ปี สภาพมีร่องรอย ถูกทำร้ายที่ต้นขาซ้ายจนแตกหัก จึงส่งตัวมารักษาต่อที่ รพ.ชัยนาทนเรนทร จากนั้นพนักงานสอบสวนจึงเดินทางไปยังบ้านที่ นางสาววรัญญา แม่น้องบอส อาศัยอยู่กับแฟนใหม่ ชื่อ นายสมเจตน์ อายุ 28 ปี กำลังนั่งอยู่ภายในบ้าน ที่ ต.ดงคอน อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท

จากการสอบสวนนายสมเจตน์ พ่อเลี้ยงน้องบอส ให้การว่า ตนลงมือทำร้ายน้องบอสจริงเมื่อ 2-3 วันที่แล้ว โดยการใช้มือเปล่าทุบไป 2-3 ครั้ง พอมาช่วงเย็นของวานนี้เห็นว่าน้องบอสเดินไม่ได้ ทางแม่ของน้องก็พาไปโรงพยาบาลทันที ส่วนสาเหตุที่ทำร้ายน้องบอสนั้น เพราะว่าน้องบอสฉี่รดที่นอน จึงเกิดบันดาลโทสะ

ส่วนเรื่องคดีความนั้น ได้สั่งการให้พนักงานสอบปากคำ แม่ของน้องบอสในฐานะผู้เสียหาย เพื่อนำตัวพ่อเลี้ยงมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ความผิดที่เกี่ยวข้องนั้น ต้องมาดูตามข้อกฎหมายอีกครั้งหนึ่งว่าเข้าข่ายข้อใดบ้าง จะได้มาดำเนินคดีในส่วนนั้นแต่ละข้อ โดยต้องดูบาดแผลที่ได้รับว่าเข้าข่ายทารุณกรรมหรือไม่ รวมไปถึงวิธีการทำร้ายเด็กใช้วิธีอะไรบ้าง ทำมานานเท่าไรแล้ว ทั้งนี้การสอบสวนต้องมีหลายหน่วยงาน ทั้งโรงพยาบาล และสหวิชาชีพเข้าร่วมด้วย

ขณะที่โรงพยาบาลที่รักษาตัวน้องบอสนั้น ไม่ให้มีการเข้าไปสัมภาษณ์แม่น้อง เพราะทางแม่ต้องการพักฟื้นทั้งร่างกายและจิตใจ เนื่องจากทางตัวแม่เองก็ถูกทำร้ายร่างกายเหมือนกัน ส่วนการช่วยเหลือเบื้องต้นรพ.ชัยนาทนเรนทร จะดำเนินการบันทึกร่องรอยบาดแผล ทั้งของแม่ และเด็ก เพื่อใช้ประกอบการดำเนินคดี และประสานนักจิตวิทยาของ รพ. ในการบำบัดเยียวยาฟื้นฟูสภาพจิตใจของมารดา พร้อมประสานนักจิตวิทยา ร่วมกับ นักสังคมสงเคราะห์ชำนาญการ สนง.พมจ.ชัยนาท ให้คำแนะนำปรึกษาเกี่ยวกับบทบาทภารกิจของหน่วยงาน พร้อมจะดำเนินการออกคำสั่งคุ้มครองสวัสดิภาพชั่วคราว ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ.2550 เพื่อป้องกันมิให้ผู้กระทำเข้าใกล้ และป้องกันไม่ให้กระทำซ้ำอีก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook