ครูสาวช็อกรอบสอง คุณอาแสบพร้อมพวก ปลอมลายเซ็นค้ำประกัน
จากกรณี นางปรียาภรณ์ อายุ 47 ปี ชาว ต.อาจสามารถ เขตเทศบาลเมืองนครพนม รับราชการครูชำนาญการพิเศษ(ซี 8) ได้ร้องขอความเป็นธรรมผ่านผู้สื่อข่าว เนื่องจากถูกสำนักงานบังคับคดีจังหวัดนครพนม ประกาศยึดทรัพย์ ซึ่งเป็นบ้านที่ตนเองเพิ่งสร้างเสร็จใหม่ๆเพียง 2 เดือนเท่านั้น
โดยเรื่องราวทั้งหมดเกิดจากอาแท้ๆ ชื่อ นายต้อย (นามสมมุติ) เป็นนักข่าวสังกัดหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นฉบับหนึ่ง นำเอกสารมาให้เซ็นค้ำประกัน อ้างว่าจะให้ช่วยลูกสาวฝาแฝดเข้าทำงาน แต่ปรากฏว่ากลับนำไปค้ำประกันให้คนอื่น คือ นางวัชรวรรณ เป็นตัวแทนประกันวินาศภัยประจำจังหวัด และไม่ยอมส่งเบี้ยประกันจำนวน 120,000 บาท ให้กับสำนักงานใหญ่ ทำให้ตนเองถูกบริษัทมิตรแท้ประกันภัยยื่นฟ้องศาล และสำนักงานบังคับคดีประกาศยึดบ้าน ราคาประเมินเกือบ 1,000,000 บาท เพื่อนำออกขายทอดตลาด ตามข่าวที่รายงานไปแล้วนั้น
นางปรียาภรณ์ ยอมรับว่า เพราะความไว้ใจญาติที่มีศักดิ์เป็นอาแท้ๆ มากเกินไป จึงตกเป็นเหยื่อถูกหลอกมานานถึง 12 ปีเต็ม จากนั้นก็ไปยื่นเรื่องร้องทุกข์ถึง นายสมชาย วิทย์ดำรงค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ผ่านศูนย์ดำรงธรรม เบื้องต้น นายสุกิจ กลีบแก้ว ผอ.ศูนย์ฯ ได้แนะนำให้ไปขอชะลอการนำทรัพย์ขายทอดตลาดกับสำนักงานบังคับคดี และไปคัดลอกคำพิพากษาของศาลจังหวัดนครพนม เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาว่า ลายมือชื่อที่เซ็นลงไปในเอกสารนั้นใช่ลายมือของผู้ร้องหรือไม่ ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว
หลังจากได้รับคำแนะนำ นางปรียาภรณ์ จึงเดินทางไปยังสำนักบังคับคดี เพื่อขอชะลอการนำบ้านขายทอดตลาด โดยจะมีการออกหนังสือเชิญบริษัทมิตรแท้ประกันภัยมาเจรจาไกล่เกลี่ยกัน ในวันที่ 3 เม.ย.ที่จะถึงนี้ ต่อมาก็ไปขอคัดลอกคำพิพากษาจากศาลจังหวัดนครพนม แต่เมื่อเจ้าหน้าที่นำสำเนาเอกสารต้นขั้วออกมาให้ดู นางปรียาภรณ์ถึงกับตกใจ
เนื่องจากลายเซ็นชื่อของตัวเองถูกปลอมแปลง นอกจากนี้ยังปลอมลายมือชื่อของอดีตสามี ในฐานะพยานด้วย เพราะปกติอดีตสามีไม่เคยเซ็นชื่อ จะทำนิติกรรมอะไรจะเขียนชื่อเป็นตัวหนังสือชัดเจน
หลังได้สำเนาเอกสารนางปรียาภรณ์ โทรศัพท์บอกอดีตสามีว่าถูกปลอมลายเซ็น อดีตสามีจึงรีบไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.เมืองนครพนม และ นางปรียาภรณ์ แจ้งว่าพบลายมือชื่อของตัวเอง ถูกปลอมเพื่อนำไปค้ำประกัน การเข้าทำงานของนางวัชรวรรณ ซึ่งก็ไม่ทราบว่าผู้ใดเป็นคนปลอมลายมือชื่อดังกล่าว จึงแจ้งชื่อผู้เกี่ยวข้องไป 3 คน หนึ่งในนั้นคือ นายต้อย ซึ่งเป็นอาแท้ๆ อีกสองคนเป็นนางวัชรวรรณกับสามีที่เลิกรากันไป
ร.ต.อ.(หญิง)จุฬารัตน์ อาจภิรมย์ พนักงานสอบสวน จึงให้นางปรียาภรณ์เขียนชื่อสดทั้งลายเซ็นและตัวบรรจง เพื่อจะขอให้บริษัทมิตรแท้ประกันภัย ส่งเอกสารตัวจริงมาประกอบเปรียบเทียบกัน โดยจะต้องนำไปให้พิสูจน์ลายมือชื่อที่ ศูนย์พิสูจน์หลักฐานตำรวจ 102 จังหวัดนครราชสีมา
ส่วนบุคคลทั้ง 3 ยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา หากหลักฐานพิสูจน์ได้ว่ามีการปลอมแปลงจริง ก็จะดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้อง เบื้องต้นจะเชิญตัวผู้ถูกกล่าวหามาให้ปากคำก่อน รายงานข่าวแจ้งว่ากลุ่มผู้ถูกกล่าว ยังทำตัวเป็นทองไม่รู้ร้อน พร้อมบอกคนใกล้ชิดว่า ไม่มีหลักฐานจะมาเรียกร้องเอาอะไร