พ่อเลี้ยงโหดหักขาลูกต้องนอนคุก เพื่อนบ้านตกใจไม่เคยเห็นนิสัยแบบนี้

พ่อเลี้ยงโหดหักขาลูกต้องนอนคุก เพื่อนบ้านตกใจไม่เคยเห็นนิสัยแบบนี้

พ่อเลี้ยงโหดหักขาลูกต้องนอนคุก เพื่อนบ้านตกใจไม่เคยเห็นนิสัยแบบนี้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ตำรวจส่งตัวพ่อเลี้ยงใจโหดเข้าคุก หลังสั่งค้านประกันตัว-ไม่มีติดต่อเยี่ยม เพื่อนบ้านเผยไม่เคยเห็นว่าจะพฤติกรรมรุนแรงแบบนี้ แค่ช่วงหลังๆ เก็บตัวเงียบในบ้านมากว่า 2 เดือน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีมีการเสนอข่าวของ "น้องบอส" เด็กชาย อายุ 2 ขวบ กระดูกต้นขาข้างซ้ายหัก นอนใส่เฝือก และมีรอยช้ำที่กกหูข้างซ้าย และตามร่างกายอีกหลายจุด ทำการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลชัยนาทนเรนทร อ.เมืองชัยนาท หลังถูก นายสมเจตน์ อายุ 28 ปี ผู้เป็นพ่อเลี้ยงทำร้ายนั้น

ล่าสุดในวันนี้ (28 มี.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สรรคบุรี ได้ควบคุมตัวพ่อเลี้ยงใจโหด ส่งตัวมาฝากขังที่ศาลจังหวัดชัยนาท พร้อมคัดค้านการประกันตัว ส่วนดุลยพินิจของศาลนั้นมีการให้ประกันตัว ตั้งแต่เช้าจนถึงเวลาปิดทำการของศาลจังหวัด ไม่มีวี่แววของญาติที่จะมาประกันตัวแต่อย่างใด

ทางเจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่งต่อไปยังเรือนจำจังหวัดชัยนาทเพื่อลงโทษฐาน มาตรา 297 ผู้ใดกระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกาย จนเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำร้ายรับอันตรายสาหัส ต้องระวางโทษจำคุก ตั้งแต่ 6 เดือน จนถึง 10 ปี อันตรายสาหัสนั้นคือ ทุพพลภาพ หรือเจ็บป่วยด้วยอาการทุกขเวทนาเกินกว่า 20 วัน หรือจนประกอบกรณียกิจตามปกติไม่ได้เกินกว่า 20 วัน และมาตรา 4 พ.ร.บ. ความรุนแรงในครอบครัว

นายพิริยะ บุษยพรรณพงศ์ รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร เปิดเผยว่า อาการของน้องบอสนั้น ทางแพทย์เฉพาะทางด้านกระดูกของโรงพยาบาลชัยนาทนเรนทรได้ทำการรักษาโดยการเข้าเฝือก ทั้งสองข้างเพื่อกันไม่ให้น้องบอสเคลื่อนไหว หากเคลื่อนไหวได้ กระดูกอาจจะสมานเข้าหากันได้ช้าลงกว่าเก่า ที่คาดว่า 3-4 เดือน จะสามารถเดินได้ตามปกติ

แต่น้องบอสนั้น มีอาการหงุดหงิด ร้องไห้อยู่บ่อยครั้ง เพราะอาจจะรำคาญที่ก่อนหน้านี้เคยเดินไปไหนมาไหนได้ เล่นนู่นนี้นั่นหยิบจับอะไร ตามพัฒนาการของเด็กอายุ 2 ขวบ ส่วนอาการแทรกซ้อนนั้นไม่มี ทำให้น้องบอสมีอาการดีขึ้นตามลำดับ

จากนั้นผู้สื่อข่าวยังได้ลงพื้นที่ไปยังชุมชนบ้านหนองหิน ม.9 ต.ดงคอน อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท เพื่อสอบถามชีวิตความเป็นอยู่ของนายสมเจตน์ พ่อเลี้ยงใจโหดคนนี้ว่ามีพฤติกรรมอย่างไร เคยก่อเหตุแบบนี้มาก่อนหรือเปล่า

นายวิเชียร ยิ้มจันทร์ อายุ 56 ปี ผู้ใหญ่บ้าน ม.9 และชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในละแวกใกล้เคียงกับบ้านของนายสมเจตน์ เปิดเผยว่า นายสมเจตน์ เกิดและเติบโตที่นี่ เห็นมาตั้งแต่ตอนยังแบเบาะ เป็นเด็กเรียนค่อนข้างดี แต่มีนิสัยเงียบๆ ไม่ค่อยชอบสุงสิงกับใครสักเท่าไหร่ พอมีใครให้ไปทำงานที่ไหนก็ไป ไม่มีพฤติกรรมรุนแรงแบบนี้หรือทะเลาะกับใครอย่างรุนแรงมาก่อน

เพียงแต่ว่าช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา นายสมเจตน์ เก็บตัวเงียบ อยู่แต่ที่บ้านไม่ออกไปไหน ไม่มีใครรู้ว่าจะก่อเหตุที่รุนแรงกับเด็กเช่นนี้ เพราะไม่มีท่าทีมาก่อน ชาวบ้านทุกคนมารู้อีกทีก็ตอนที่มีข่าวออกมาแล้ว และไม่คิดว่าเรื่องราวแบบนี้จะเกิดกับคนในหมู่บ้าน ส่วนสาเหตุนั้นก็ไม่มีใครทราบว่า ทำไปเพราะอะไร แต่ก็น่าจะคิดให้ดีก่อน ไม่น่ามาติดคุกแบบนี้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook