เอาคืน! รัสเซียขับไล่นักการทูตสหรัฐฯ 60 คน กลับประเทศ
รัฐบาลรัสเซียสั่งขับไล่เจ้าหน้าที่การทูตสหรัฐฯ 60 คน กลับประเทศ และสั่งปิดสถานกงสุลสหรัฐฯ ประจำนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เพื่อเป็นการตอบโต้ที่เจ้าหน้าที่การทูตรัสเซียกว่า 150 คน ถูกหลายประเทศขับไล่ โดยรัสเซียเชื่อว่ามีสหรัฐฯ เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง
นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศของรัสเซีย ประกาศว่า รัสเซียตัดสินใจขับไล่เจ้าหน้าที่การทูตของสหรัฐฯ 60 คน กลับประเทศ ภายในวันที่ 5 เมษายน และสั่งปิดสถานกงสุลสหรัฐฯ ประจำนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เพื่อเป็นการตอบโต้ที่สหรัฐฯ ได้ขับไล่เจ้าหน้าที่การทูตรัสเซียจำนวน 60 คน กลับประเทศเหมือนกัน
และรัสเซียยังเชื่อว่าสหรัฐฯ เป็นผู้อยู่เบื้องหลังในการกดดันให้ประเทศอื่น ๆ ราว 26 ประเทศ ใน 3 ทวีป ร่วมกันขับไล่ทูตรัสเซียด้วย ซึ่งนายลาฟรอฟยังบอกอีกด้วยว่าประเทศอื่น ๆ ที่ขับไล่เจ้าหน้าที่การทูตของรัสเซียอาจจะเจอการตอบโต้ในลักษณะเดียวกัน
ด้านกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐฯ ชี้ว่า การขับไล่เจ้าหน้าที่การทูตสหรัฐฯ ของรัสเซียไม่มีเหตุผลรองรับที่เหมาะสม ขณะที่การขับไล่เจ้าหน้าที่การทูตรัสเซียของสหรัฐฯ เป็นการตอบโต้ที่รัสเซียใช้อาวุธสารพิษร้ายแรงเพื่อการลอบสังหารอดีตสายลับของรัสเซียที่ลี้ภัยอยู่ในอังกฤษ ซึ่งเป็นพันธมิตรกับสหรัฐฯ โดยการขับไล่เจ้าหน้าที่การทูตสหรัฐฯ 60 คนของรัสเซียแสดงให้เห็นว่ารัสเซียไม่มีความคิดที่จะเจรจาเพื่อหาทางออกต่อกรณีนี้เลย
ในส่วนของอาการนาย เซอร์เก สกริปัล อดีตนายทหารรัสเซีย วัย 66 ปี ซึ่งลี้ภัยมายังอังกฤษ ที่ถูกวางยาพิษพร้อมกับ ยูเลีย สกริปัล ลูกสาววัย 33 ปี ขณะนี้ตัวลูกสาวมีอาการดีขึ้นจนพ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ตัวนายสกริปัล แม้ว่าอาการจะคงที่ แต่ว่าก็ยังคงอยู่ในภาวะน่าเป็นห่วงและต้องเฝ้าติดตามอาการอย่างใกล้ชิด ซึ่งทางการรัสเซียก็ยังคงปฏิเสธอย่างหนักแน่นว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องต่อการลอบสังหารในครั้งนี้
อ่านประกอบ
'สหรัฐฯ-ยุโรป' ขับไล่เจ้าหน้าที่ 'ทูตรัสเซีย' ตอบโต้เหตุลอบวางยาอดีตสายลับ 2 หน้า
‘ทรัมป์’ ถกผู้นำตะวันตก กรณีขับไล่ทูตรัสเซียออกจากประเทศ
รัสเซียไล่ "คณะทูตอังกฤษ" ออกจากประเทศเรียบร้อยแล้ว
พบสารพิษสังหาร “สายลับรัสเซีย” ในร้านอาหาร เตือนรีบซักเสื้อผ้า