ไม่รู้ของใคร ซากหมูปริศนาโยนทิ้งคลองนับ 100 ชิ้น กลิ่นชวนอาเจียน
ชาวบ้านดอนยางผวา พบซากหมูโยนทิ้งคลองชลประทานนับ 100 ชิ้น ลอยอืดส่งกลิ่นเหม็นไปทั่ว
(31 มี.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. ร.ต.อ.วิเชียร อุปนันท์ ร้อยเวร สอบสวน สภ.เมืองเพชรบุรี รับแจ้งจาก นายดำรงค์ ปะระขา อายุ 52 ปี ชาวบ้านอยู่บ้านเลขที่ 109 ม.1 ต.ดอนยาง อ.เมือง จ.เพชรบุรี ว่าภายในคลองชลประทาน พบซากหมูตายจำนวนมากลอยน้ำ ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่ว รวมระยะทางยาวครึ่งกิโลเมตร จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมประสาน เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์เพชรบุรี และส่วนเกี่ยวข้องเข้าร่วมตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุอยู่ภายในคลองระบายน้ำ ดี 18 ม.1 ต.ดอนยาง อ.เมือง จ.เพชรบุรี พบซากหมูตายแล้วถูกชำแหละเป็นชิ้นส่วน ขาหน้า ซ้าย ขวา ขาหลังซ้าย ขวา และหัวหมู กระจัดกระจายอยู่ทั่วลำคลองประมาณ 100 ชิ้น หรือ 20 ตัว โดยทิ้งระยะห่างกันตลอดทั้งสายน้ำ อีกทั้งยังพบชิ้นส่วนซากหมูตายริมถนนเกือบ 10 ชิ้นเป็นระยะๆ โดยเจ้าหน้าที่เร่งนำซากหมูขึ้นมา เบื้องต้นพบเป็นชิ้น ส่วนหัวหมู ลำตัว ซึ่งถูกตัดชำแหละ เป็นท่อนๆ ส่งกลิ่นเหม็นรบกวนไปทั่วบริเวณ
นายดำรง ปะระขา อายุ 52 ปีชาวบ้านที่อยู่ในละแวกที่เกิดเหตุและเห็นเหตุการณ์ เล่าว่า เมื่อกลางดึกของวันพุทธที่ 28 มีนาคม 2561ที่ผ่านมา ตนนั่งอยู่ในบ้านได้ยินเสียงสุนัขที่บ้านเห่าเสียงดัง จึงออกมาดูที่บริเวณริมคลองชลประทาน พบรถยนต์กระบะ ขับมาจอดในที่เกิดเหตุ จากนั้นก็ดับเครื่องยนต์และดับไฟ จอดอยู่พักใหญ่ ตนก็ไม่ได้สนใจอะไรจึงกลับเข้าไปนอนตามปกติ จนมาช่วงบ่ายวันนี้พบซากหมูดังกล่าวลอยในคลองนับ 100 ชิ้น และส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วบริเวณที่เกิดเหตุ ซึ่งกรณีดังกล่าวเคยเกิดมาแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ 2561 ที่ผ่านมา
นายเกรียงไกร มีวาสนา ปศุสัตว์อำเภอบ้านลาด กล่าว่า หมูที่ถูกนำมาโยนทิ้งนั้น มีสภาพถูกชำแหละออกเป็นชิ้นๆ ตอนนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบว่าเกิดจากสาเหตุใด อีกทั้งไม่สามารถเก็บชิ้นเนื้อไปตรวจพิสูจน์หาสาเหตุได้ เนื่องจากชิ้นเนื้อเน่าเปื่อยมาแล้วหายวันแล้ว ทางปศุสัตว์เพชรบุรีจึงได้ทำการเก็บซากหมูทั้งหมด นำไปฝังกลบในพื้นที่ด่านกักสัตว์ ต.สามพระยา อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี พร้อมฉีดยาฆ่าเชื้อในที่เกิดเกิดเหตุเพื่อป้องกันต่อไป
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า ไม่น่าจะเป็นหมูติดเชื้อเพราะถูกชำแหละเป็นชิ้นส่วนมาแล้วอย่างดี คาดว่าน่าจะเป็นผู้ที่ขนของผิดกฎหมายแล้วนำชิ้นหมูปกปิดสิ่งของผิดกฎหมายบนรถมา เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากเส้นทางดังกล่าวจะต้องวิ่งผ่านด่านความมั่นคงของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านลาด จึงจะสามารถมุ่งหน้าลงภาคใต้ได้ โดยเจ้าหน้าที่จะเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดในเส้นทางดังกล่าว เพื่อหาทะเบียนรถยนต์คนของผู้กำทำความผิด ที่ขับเข้ามาจอดบริเวณที่เกิดเหตุ เมื่อกลางดึกของ คืนวันที่ 28 มีนาคม 2561 ที่ผ่านมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป