กุญแจซอล ควงสามี-ลูก เปิดใจเคลียร์ปมครอบครัว สังคมตราหน้า "อกตัญญู"

กุญแจซอล ควงสามี-ลูก เปิดใจเคลียร์ปมครอบครัว สังคมตราหน้า "อกตัญญู"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ในที่สุดอดีตนางเอกสาว "กุญแจซอล ป่านทอทอง" ก็ได้ถือโอกาสควงแขนสามี "กัปตันณัฏฐ์ ฌณัฏฐ์ เลิศพัฒนาไทย" ออกมาเปิดใจถึงชีวิตครอบครัวเป็นครั้งแรก หลังจากที่ให้กำเนิดลูกชาย "น้องเทคออฟ" ซึ่งหนึ่งในประเด็นหลักที่หลายคนจับตามองก็คือความสัมพันธ์ของสาวกุญแจซอลกับพ่อแม่ของเธอ "มุกดา" และ "นึกคิด บุญทอง" เนื่องจากที่ผ่านมามีหลายประเด็นที่เป็นกระแสสังคมโดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องที่เธอถูกพ่อแม่ตัดขาดสายเลือดและถูกมองว่าเป็นลูกอกตัญญู

>>>พ่อแม่ประกาศตัดขาด กุญแจซอล ช้ำใจลูกถูกผู้ชายล้างสมอง

ทำไมถึงตัดสินใจมาออกงานครั้งแรก ?
กุญแจซอล : “เพราะคิดถึงวงการค่ะ อยากมาออกงานบ้าง ได้มาเดินแบบเป็นอะไรที่ชอบอยู่แล้ว ถามว่าตัดสินใจนานไหมที่รับงานนี้ก็นานเหมือนกันค่ะ ดูคิวของสามีด้วยว่าเราสะดวกตรงกันไหม ส่วนงานก็มีติดต่อมาเรื่อยๆ ค่ะ ช่วงนี้รับบ้างไม่รับบ้างเพราะต้องเลี้ยงลูก เราเลี้ยงเอง วันนี้ก็มาพร้อมหน้าครอบครัว “

ถามถึงเรื่องที่ผ่านมาอยากจะบอกอะไรกับสังคม มันเกิดอะไรขึ้น ?
กุญแจซอล : ขอไม่บอกอะไรค่ะ เพราะว่ามันเป็นเรื่องในครอบครัว ก็ไม่อยากพูดอะไร”

แต่ว่าคนมองเราในแง่ลบไปแล้ว ?
กุญแจซอล : “ไม่เป็นไรค่ะ”

เครียดกับข่าวที่ถาโถมเข้ามาเยอะไหม ?
กุญแจซอล : “ถามว่าเครียดไหม...ก็มีอยู่แล้วค่ะ”
ณัฏฐ์ : “ก็ต้องเจออยู่แล้วเราก็ต้องปลอบกัน เป็นกำลังใจให้กัน เราก็มีลูกชายเป็นกำลังใจ”

ตอนที่โดนสังคมตัดสินเราเครียดขนาดไหน ?
กุญแจซอล : “แค่ลำพังตอนนี้พอเรามาเป็นแม่ เรามาโฟกัสที่ลูกก็หนักแล้วค่ะ แค่เวลาในการดูแลลูกยังไม่ค่อยมีเวลาพักผ่อนแล้ว”

อยากอธิบายอะไร กับสังคมเพราะคนมองว่าเราเลือกแฟนมากกว่าพ่อแม่ ?
กุญแจซอล : “ขอไม่พูดอะไรดีกว่าค่ะ”
ณัฏฐ์ : “มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนครับไม่พูดอะไรดีกว่าครับ”

ตอนที่เราท้องอยู่แล้วมีข่าวถึงขั้นไหน ?
กุญแจซอล : เครียดมากค่ะ”
ณัฏฐ์ : “เครียดอยู่แล้วครับแต่ว่าเราก็เป็นกำลังใจให้กัน”

พอมีลูกคนมองว่าหลานจะเป็นตัวเชื่อม ?
กุญแจซอล : “ตอนนี้หลานยังไม่รู้เรื่องเลยค่ะ”

โอกาสที่จะได้กลับไปคุยกับพ่อแม่มีแค่ไหน ?
กุญแจซอล : “เป็นเรื่องของอนาคตและเป็นเรื่องของเวลาค่ะ เราก็บอกไม่ได้ แต่ว่าทุกคนก็มีเหตุผลเป็นของตัวเองนะ”

ได้มีติดต่อกลับไปหาพ่อแม่บ้างไหม ?
ณัฏฐ์ : “ไม่พูดแล้วกันนะครับผม”

คิดอยากจะพาหลานไปหาตายายไหม ?
กุญแจซอล : “เดี๋ยวคงมีเวลาให้เหมาะสมค่ะ ถามว่าเวลาจะเยียวยาทุกอย่างไหมก็ใช่ค่ะ”

ไม่ถึงกับตัดขาดกันไปเลยใช่ไหม ?
ณัฏฐ์ : “มันก็อยู่ที่หลายปัจจัยมันก็ไม่ได้ขึ้นอยู่ที่เราแค่ 2 หรือ 3 คน มันเป็นเรื่องของหลายคนและเป็นเรื่องในอนาคต”

คนมองว่าฝ่ายชายไปพรากกุญแจซอลมาจากพ่อแม่ ?
ณัฏฐ์ : “ผมไม่สามารถไปบังคับความคิดของใครได้ ก็แล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละท่านก็แล้วกัน ผมไม่สามารถไปชี้นำความคิดของใครได้”

ถามกุญแจซอลสิ่งที่เราเลือกเป็นสิ่งที่ใช่สำหรับเราแล้วใช่ไหม ?
กุญแจซอล : “ก็คิดว่าทำให้ดีที่สุดค่ะ เพราะคนเราอยู่ด้วยกันก็ไม่รู้ว่าจะอยู่ได้อีกนานแค่ไหน เราก็ทำให้ดีที่สุด ยิ่งเรามาเป็นแม่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือลูก ใช้เวลาที่มีอยู่ให้มีค่าที่สุด”

ถามถึงวันที่เลือกใช้เกณฑ์อะไรในการตัดสินใจ ?
กุญแจซอล : “อย่างที่บอกเราก็มีเหตุผลเป็นของตัวเอง ไม่อยากพูดเพราะว่ามันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน”
ณัฏฐ์ : “ขออนุญาตไม่พาดพิงใครแล้วกัน”

ในวันที่เป็นแม่แล้วเข้าใจในความรู้สึกของแม่ที่เป็นห่วงลูกมากขึ้นไหม ?
กุญแจซอล : “ก็เข้าใจค่ะ”

เราคิดถึงคุณพ่อคุณแม่ของเราไหม ?
กุญแจซอล : “ก็คิดถึงนะคะ แต่ขอเวลาที่เหมาะสมถึงจะกลับไป พ่อแม่ใครก็คิดถึงทั้งนั้นค่ะ”

แต่ว่าทางฝั่งครอบครัวเราก็ประกาศตัดขาดเราไปแล้วมีผลกระทบกับจิตใจแค่ไหน ?
กุญแจซอล : “ก็มีผลนะคะ แต่ว่าที่บ้านหนูไม่ได้เลี้ยงเราแบบอ่อนหวานตั้งแต่แรก ก็โอเคนะ (หัวเราะ)”

ตกใจกับคำว่าตัดขาดไหม ?
กุญแจซอล : “ตกใจค่ะ”

ก่อนหน้านี้คนชื่นชอบเรา แต่พอเกิดเหตุการณ์นี้หลายคนก็แอนตี้ เรารู้สึกยังไง ?
กุญแจซอล : “เราห้ามความคิดใครไม่ได้ ถามว่ามีผลต่อความรู้สึกแค่ไหนก็บอกไม่ถูกค่ะ”
ณัฏฐ์ : “มนุษย์เรานอกจากความรู้สึกก็ยังมีคำว่าเหตุผลและปัจจัยอื่น ชีวิตมันต้องเดินต่อไป มันไม่มีอะไรสมบูรณ์เพอร์เฟค 100 เปอร์เซนต์”

พอเห็นคอมเมนต์ที่ด่าทอเรา น้อยใจไหม ?
กุญแจซอล : “ก็มีบ้างค่ะ มาแบบจัดเต็มมาก มีเยอะมาก”

แต่บางคนขี้นขั้นมองว่าเราเป็นลูกอกตัญญู ?
กุญแจซอล : “ก็ไม่เป็นไรค่ะ ปล่อยให้เขามองไปแบบนั้น แล้วแต่เขาเลยค่ะ”

สามีให้กำลังใจอย่างไรบ้าง ?
ณัฏฐ์ : “บางอย่างเราหาวิธีแก้ไขปัญหาไม่ได้ อย่างน้อยก็ปลอบ คำปลอบโยนอาจจะช่วยแก้ปัญหาไม่ได้ แต่อย่างน้อยเราก็ให้กำลังใจและมีกันและกัน ที่สำคัญเลยเรายังมีลูกตัวน้อยๆ”

จากเหตุการณ์ที่พ่อแม่เราไปเยี่ยมที่โรงพยาบาลตอนคลอดลูก หลังจากนั้นได้มีโอกาสติดต่อกันอีกไหม ?
กุญแจซอล : “(มองหน้าสามี) ไม่บอกดีกว่า (ยิ้ม)”

ช่วงที่มีข่าว ครอบครัวของฝ่ายชายค่อนข้างจะโดนสังคมโจมตีหนัก เราได้คุยหรือเคลียร์กันไหม ?
ณัฏฐ์ : “ในครอบครัวก็คุยกันอยู่แล้ว แต่เรื่องพวกนี้ขอไม่มาพูดในที่นี้แล้วกันครับ”

กุญแจซอลเข้ากันได้เป็นอย่างดีกับทางครอบครัวสามีใช่ไหม ?
กุญแจซอล : “หนูอ่ะเข้าได้ แต่ไม่ได้แน่ใจว่าป๊ากับม๊าจะเข้ากับหนูได้หรือเปล่า คือหนูไม่อยากพูดเข้าข้างตัวเอง แต่หนูว่าท่านก็เอ็นดูหนูนะ”
ณัฏฐ์ : “พ่อกับแม่ผมก็เห็นกุญแจซอลเป็นเหมือนลูกสาวอีกคนหนึ่งครับ”

พอมีลูกแล้วทำให้ครอบครัวของเราเติมเต็มกันยังไงบ้าง ?
กุญแจซอล : “อย่างล่าสุดที่หนูไปรับปริญญาแค่ครึ่งวันแต่หนูก็คิดถึงลูกแล้ว”

แต่วันนั้นพ่อแม่เราก็ไปรับปริญญาน้องสาวในวันเดียวกันและสถานที่เดียวกันด้วย ?
กุญแจซอล : “หนูไม่ทราบเลยค่ะ ถามว่าน้อยใจไหม ไม่ค่ะ วันนั้นหนูเองก็รีบๆ อีกอย่างวันนั้นหนูก็ไม่ได้บอกแฟนคลับเลย คือมีคนรู้น้อยมาก เพราะหนูต้องรีบกลับไปให้นมลูก”

ดูเหมือนเราใจแข็ง ตัดขาดพ่อแม่โดยไม่สนใจ ?
กุญแจซอล : “ขอไม่พูดแล้วกันค่ะ”
ณัฏฐ์ : “ไม่ได้ตัดขาดครับ คำนี้มันดูรุนแรงไป”

การที่เป็นคุณแม่ยังสาวในความคิดของเราเป็นยังไงบ้าง ?
กุญแจซอล : “หนูยังไม่อยากแก่ค่ะ ตอนนี้ก็พยายามไปฟิตเนส พยายามดูแลตัวเอง”

พอเป็นแม่คนแล้วชีวิตเปลี่ยนไปไหม ?
กุญแจซอล : “เปลี่ยนค่ะ มันถึงจุดที่ต้องกินข้าวไปด้วยให้นมลูกไปด้วย ต้องมานั่งเล่นกับลูก อาบน้ำให้ลูก”

วางแผนจะมีลูดคนที่ 2 ตามมาไหม ?
กุญแจซอล : “อันนี้ต้องถามสามีค่ะ”
ณัฏฐ์ : “เดี๋ยวรอชมติดตามต่อไปครับ (ยิ้ม)”

หลังจากนี้จะจัดงานแต่งงานให้ถูกต้องตามประเพณีไหม ?
ณัฏฐ์ : “เรื่องการจัดงานคือผมกับกุญแจซอลเราแต่งงานกันไปแล้ว เมื่อวันที่ 7 พ.ค. 2560 ส่วนถ้าถามว่าเลี้ยงลูกยาไหม คนโบราณเขาบอกไว้ว่าอย่าทักว่าเลี้ยงยากหรือง่าย เอาเป็นว่าก็ชื่นใจครับ”

ในวันงานแต่งได้มีคำมั่นสัญญาอะไรให้กันไหม ?
กุญแจซอล : “ไม่ค่ะ ไม่ได้สัญญา”
ณัฏฐ์ : “เราสู้ด้วยกันมา ตอบได้แค่นี้”

ถ้าลูกโตขึ้นจะอธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ลูกฟังว่ายังไง ?
ณัฏฐ์ : “ก็เคยคุยกันเรื่องนี้ วันหนึ่งน้องก็ต้องมีความคิดอ่าน มีความเป็นผู้ใหญ่ของเขา เราก็คงให้ข้อมูลได้ในระดับหนึ่ง ส่วนที่เหลือก็แล้วแต่เขา ว่าน้องเขาจะรู้สึกยังไง”

กุญแจซอลจะกลับมาทำงานในวงการอีกไหม ?
กุญแจซอล : “ถ้ามีโอกาสก็อยากจะกลับมานะคะ ยังชอบอยู่ แต่ช่วงนี้ก็ยังดูลูกอยู่ ถ้าเป็นงานระยะสั้นก็ยังได้อยู่”

ตอนนี้ไม่มีสัญญากับทางช่อง7 แล้วใช่ไหม ?
กุญแจซอล : “ใช่ค่ะ เป็นฟรีแลนซ์ ส่วนที่มีข่าวว่าพี่ณัฏฐ์พาไปฉีกสัญญาถึงข่องเลยนั้น ไม่ได้ฉีกค่ะ เราคุยกันด้วยดีค่ะ”

กลัวว่าสิ่งที่เกิดจึ้นจะมีผลต่องานในวงการในอนาคตไหม ?
กุญแจซอล : “ก็แล้วแต่ผู้จ้างงานเลยค่ะ ถ้าสบายใจก็จ้าง แต่หากไม่สบายใจก็ไม่เป็นไร”
ณัฏฐ์ : “นี่คือสิ่งที่กุญแจซอลชอบ แทบจะเรียกได้ว่าเป็นวิชาชีพของเขา เขาอยากทำ เพราะมันเป็นส่วนเติมเต็มในชีวิตเขาที่อยู่ในชีวิตเขามา 10 ปีแล้ว ซึ่งผมก็ไม่เคยห้ามเขา”

ตอนนี้ครอบครัวเรามีความสุขดีใช่ไหม ?
กุญแจซอล : “ใช่ค่ะ (ยิ้ม)”

อัลบั้มภาพ 12 ภาพ

อัลบั้มภาพ 12 ภาพ ของ กุญแจซอล ควงสามี-ลูก เปิดใจเคลียร์ปมครอบครัว สังคมตราหน้า "อกตัญญู"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook