ดีเอสไอแจงแยกคดี258ล.กับทีพีไอผิดพ.ร.บ.หลักทรัพย์
ดีเอสไอยังสรุปคำฟ้องคดีเงินบริจาค 258 ล้าน ทีพีไอ ไม่ได้ เหตุพยานไม่ร่วมมือ แนะเด็กประชาธิปัตย์มองคดีให้แตก
พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีเงินบริจาค 258 ล้านบาท บริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด มหาชน กล่าวเมื่อวันที่ 29 มี.ค. ถึงกรณีทีพีไอโพลีนกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ ว่า ในส่วนของคดีดังกล่าวอยู่ระหว่างการสอบปากคำพยานบุคคลสำคัญของบริษัททีพีไอ ยังไม่สามารถสรุปสำนวนคดีส่งพนักงานอัยการสั่งฟ้องได้ ซึ่งที่ผ่านมาพนักงานสอบสวนได้ติดต่อไปยังพยานดังกล่าวแล้ว แต่ไม่ยอมให้ปากคำ ดังนั้นจะหารือกับอัยการในข้อกฏหมายอีกครั้งว่าพยานจะมีความผิดหรือไม่ ที่ไม่มีให้ปากคำ
นอกจากนี้ พ.ต.อ.สุชาติ กล่าวถึงกรณีนายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ออกมาตั้งข้อสังเกตการส่งสำนวนการสอบสวนเงินบริจาคเข้าพรรคประชาธิปัตย์ 258 ล้านบาท ไปยังคณะกรรมการเลือกตั้ง(กกต.) โดยมิชอบ เพราะคดีดังกล่าวเป็นคดีอาญาต้องส่งสำนวนให้อัยการว่า ในส่วนของคดีบริจาคเงินของบริษัททีพีไอ เข้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นคนละส่วนกับสำนวนการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ ของบริษัททีพีไอ ที่มีการยักยอก ถ่ายโอนทรัพย์สิน เพราะสำนวนส่วนที่ส่งให้กกต.เพราะมีความผิดเกี่ยวข้องกับกฎหมายพรรคการเมือง และในอำนาจหน้าที่ของดีเอสไอไม่สามารถทำคดีได้ เนื่องจาก พ.ร.บ.พรรคการเมือง ไม่ใช่กฎหมายตามบัญชีแนบท้ายของ พ.ร.บ.สอบสวนคดีพิเศษ จึงต้องส่งเรื่องดังกล่าวให้กกต.พิจารณา แต่ส่วนของบริษัททีพีไอดีเอสไอแยกสำนวนการสอบสวนเพราะเป็นคามผิดตามกฎหมายของดีเอสไอ ซึ่งขั้นตอนแตกต่างกัน เหมือนคดีฮั้วประมูลถ้าพบเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องดีเอสไอก็ส่งสำนวนไปคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ป.ป.ช.)