โบว์ แวนดา เปิดใจอีกครั้ง ถูก อาน้ำอ้อย ซัดกลับ ไม่ได้สร้างกระแสแต่ทำไมถึงมีข่าวบ่อย

เหมือนรอยร้าวครั้งนี้จะผสานกันยากขึ้นแล้ว เพราะหลังจากที่ “โบว์ แวนดา” ได้ออกมาประกาศตัดขาดกับอดีตผู้จัดการของสามี “ปอ ทฤษฎี” อย่าง “อาน้ำอ้อย” โดยไม่บอกสาเหตุใดๆ พูดได้เพียงทัศนะคติไม่ตรงกันเท่านั้น แต่ก็ดูเหมือนเรื่องจะไม่จบเท่านี้

เพราะงานนี้ “ม้า อรนภา” พิธีกรชื่อดังได้ออกมาพูดผ่านรายการหนึ่งโดยอ้างว่ามีการได้พูดคุยกันอย่างบังเอิญกับ “อาน้ำอ้อย” ถึงประเด็นดังกล่าว โดยทางอาน้ำอ้อยได้กล่าวไว้ “ไม่ได้สร้างกระแสแต่ทำไมมีข่าวอยู่บ่อยๆ ทำเพื่ออะไร”

ล่าสุด “โบว์ แวนดา” ได้ออกมาเปิดใจถึงประเด็นดังกล่าวอีกครั้ง ซึ่งเธอเผยว่ามีคนเล่าให้ฟังถึงข่าวนี้เหมือนกัน แต่ไม่ขอรับรู้อะไรอีก พร้อมยืนยันสิ่งที่ทำคิดไตร่ตรองมานาน แม้ทุกวันนี้จะไม่ได้คุยกันแต่ก็ยังเคารพคุณอาเหมือนเดิม

มีดราม่ามาว่า อาน้ำอ้อย คุยกับ ม้า อรนภา เรื่องเราไม่ชอบสร้างกระแส แต่ก็มีกระแสตลอด ?
“เอาจริงๆ โบว์ไม่ได้อ่าน แต่มีคนมาเล่าให้ฟัง โบว์ก็บอกไปว่าโบว์ไม่อยากรับรู้แล้ว มันผ่านจุดนั้นมานานแล้วอ่ะ อย่างที่บอกทุกคนมีเหตุผลค่ะ”

มีอารมณ์สะเทือนใจหรือนอยด์จากคำพูดของอาน้ำอ้อยครั้งนี้บ้างไหม ?
“โบว์ผ่านจุดนั้นมาแล้ว จริงๆ เสียใจอยู่แล้วค่ะ แต่การที่ไม่ได้คุยกันมันไม่ได้หมายความว่าโบว์ไม่เคารพคุณอานะคะ ทุกวันนี้ก็ยังเคารพคุณอาถึงแม้จะไม่ได้เจอก็ตาม”

เราเชื่อว่าคำพูดนี้จะออกมาจากปากอาน้ำอ้อยเองไหม ?
“ไม่ทราบเลยค่ะ และโบว์ก็ไม่อยากรับรู้แล้ว อย่างที่บอกความคิดหรือคำพูดคนมันเป็นสิทธิ์ของเขาที่จะพูด โบว์ห้ามไม่ได้ อีกอย่างที่ผ่านมาโบว์ก็เห็นว่าโบว์มีกระแส โบว์ก็ไม่รู้ว่าโบว์จะสร้างกระแสมาให้คนด่าว่าโบว์ทำไม มีกระแสก็ไม่เห็นว่างานจะเยอะขึ้นเลย เพราะพอมีกระแสแล้วงานมา โบว์ก็ไม่ได้รับอยู่แล้ว”

“โบว์คงไม่อยากให้กระแสที่ไม่ดีแล้วคนมานั่งด่าว่าเรา เพราะไม่ใช่เราคนเดียวที่เสียใจ คุณพ่อคุณแม่ ครอบครัว เสียใจหมด มันไม่ได้สนุกกับการที่เรามายืนในที่แจ้งแล้วเราต้องโดนคนด่าคนว่าคำหยาบๆ คายๆ โบว์ไม่ได้มีความสุขกับการที่อ่านข้อความแล้วมีคนมาด่าถึงพ่อแม่ ทุกครั้งที่โบว์ออกมาก็จะพยายามเข้มแข็ง พยายามจะตอบคำถามทุกๆ คน ตั้งแต่ที่พี่ๆ นักข่าวรู้จักโบว์ ทุกคนถามคำถามโบว์มา ซึ่งมันก็มีคำถามที่โบว์ไม่อยากตอบ แต่โบว์ก็ตอบให้ หรือคำถามที่โบว์ตอบไปแล้วต้องมาร้องไห้ โบว์ก็ตอบให้ โบว์ก็อยากจะให้ปัญหานี้มันจบลงค่ะ”

กับเหตุการณ์ครั้งนี้มันบั่นทอนกำลังใจเรามากแค่ไหน ?
“เอาตรงๆ ก็มีน้ำตา มันไม่ชอบหรอกให้ใครมานั่งด่าเรา คือด่าได้ค่ะแต่อย่าแรง โบว์ก็เจ็บเป็น เสียใจเป็น ที่ออกมาก็ไม่ได้อยากจะพูดให้คนเห็นใจเรา แต่อยากให้ทุกปัญหามันจบได้แล้ว และตัวโบว์ก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้มานานมากแล้ว ที่ผ่านมายังย้ำคำเดิมว่า มันถึงที่สุด เลยต้องทำ และไม่ได้เป็นแค่อารมณ์ชั่ววูบ โบว์ไตร่ตรองมาแล้ว คิดมาแล้ว พยายามแก้ไขทุกอย่างแล้ว เมื่อมันไม่ได้ก็ต้องตัดสินใจทำอะไรอย่างหนึ่ง แต่โบว์ยังเคารพคุณอาอยู่เสมอ ถึงแม้วันนี้ไม่ได้คุยกันแต่ก็อยากให้ท่านได้อยู่ในตรงที่ท่านมีความสุขที่สุด”

บางคนไม่ได้มาถามเรา แต่ก็ตีความไปกันเองแล้ว ?
“เสียใจ แต่โบว์ทำอะไรไม่ได้ นอกจากให้เขาด่าโบว์แค่นั้น เพราะโบว์ไม่สามารถจะไปอธิบายให้ทุกคนฟังได้ โบว์ว่าคำพูดใครๆ ก็พูดได้ แต่โบว์ยังเชื่อเรื่องของการกระทำมากกว่าค่ะ แม้ว่ามันจะนานแค่ไหนแต่ต้องให้เวลาเพราะทุกสิ่งทุกอย่างมันจะตัดสินจากการกระทำมากกว่าคำพูด”

ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ วันนั้นเราจะโพสต์ไหม ?
“เอ่อ... ไม่อยากทำและไม่เคยอยากทำ แต่ต้องทำค่ะ”

วันนี้เราได้พูดออกสื่อแล้ว มีอะไรจะชี้แจงไหม ?
“ไม่มีค่ะ เพราะทุกครั้งที่ชี้แจงมันจะไม่มีจบสิ้นเลย และโบว์ก็คิดว่ามันไม่แฟร์สำหรับคุณอาด้วย เพราะโบว์อยู่หน้าสื่อ แต่คุณอาไม่ได้อยู่หน้าสื่อ สิ่งที่สามารถทำได้มากที่สุดเลยคืออดทน เงียบ และนิ่ง พยายามไม่เสพคนที่ด่าว่าเรา กำลังใจที่สำคัญที่สุดคือพ่อแม่ คุณปู่คุณย่า ทุกวันนี้คนในครอบครัวและคนรอบข้างเข้าใจโบว์ก็น่าจะพอแล้วค่ะ”

แสดงว่าทุกวันนี้เรายังมีน้ำตาให้กับคนเข้ามาด่าเราในโลกของโซเชียลโดยที่ไม่รู้ความจริงใช่ไหม ?
“ไม่ได้เสียน้ำตาให้คนที่ด่าโบว์นะคะ อย่าที่บอกคือด่าได้แต่อย่าแรงมาก แต่ที่บอกโบว์เป็นคน โบว์ก็เสียใจเป็น มีน้ำตาเป็นนะ ซึ่งน้ำตาที่เสียไปมันเป็นเรื่องที่โบว์ไม่อยากทำ แต่โบว์ต้องทำ และเป็นเรื่องที่พอทำแล้วโบว์ก็ต้องนั่งโดนด่าจนถึงทุกวันนี้”

การตัดสินใจที่ไม่อยู่กับอาน้ำอ้อย ก็สร้างความเจ็บปวดให้เราเหมือนกันใช่ไหม ?
“มากค่ะ และก็ไม่อยากจะให้มีวันนี้ แต่อย่างที่เคยบอกว่าคนเราเลือกที่จะยืนตรงที่เราสบายใจ ยิ้มได้ และปลอดภัยที่สุด”

ตั้งแต่เกิดเรื่องมีโอกาสได้คุยกับคุณปู่คุณย่าบ้างไหม ?
“ก่อนเกิดเรื่องไม่ได้คุยกับคุณปู่คุณย่าค่ะ แต่โบว์ได้อ่านคำสัมภาษณ์คุณปู่ ก็เลยโทรบอกเขา ซึ่งโบว์ก็บอกคำแรกเลยว่าโบว์ขอโทษ ขอโทษที่ทำให้มันเกิดเรื่องอีกแล้ว คุณปู่คุณย่าก็บอกว่า เขาเข้าใจ”

ตัวเราเองมีโอกาสได้ปรับความเข้าใจกับอาน้ำอ้อยไหม ?
“โบว์คิดว่าตอนนี้คุณอาเองก็อยู่ในจุดที่มีความสุขแล้วค่ะ ตัวโบว์เองก็มีความสุข แต่อย่างที่บอกจะได้คุยหรือไม่ได้คุยกัน โบว์ก็ยังเคารพคุณอาอยู่ เพราะอย่างน้อยคุณอาก็ดูแลพี่ปอมา พี่ปอก็ดูแลคุณอา คุณอาดูแลครอบครัวพี่ปอ ครอบครัวพี่ปอก็ดูแลคุณอาเหมือนกัน เพราะฉะนั้นจากนี้อยากจะเก็บทุกความทรงจำดีๆ ที่เราเคยผ่านมา เก็บเอาไว้ในใจมากกว่า ส่วนทัศนะคติที่มันไม่ตรงกัน หรืออะไรที่อยู่แล้วทำให้เราไม่สบายใจ เราก็เลือกที่จะถอยออก”

กับรูปที่เราเพิ่งโพสต์ในอินสตาแกรมว่า เดี๋ยวมันก็ผ่านไป แฟนๆ ต่างมาให้กำลังใจและโยงมาถึงเรื่องนี้ ?
“จริงๆ แล้วตอนนี้เวลาโบว์โพสต์อะไรคนก็โยงเข้าเรื่องหมดเลย มันมีอารมณ์คิดถึงพี่ปอบ้างเนอะ คือทุกวันนี้ถ้าพูดไปเดี๋ยวก็หาว่าเอาสามีมาขาย เอามาพูดอีก แต่สามีเราทั้งคนที่เสียไป ทุกวัน ทุกวินาทีก็ยังคิดถึงเขาอยู่”

เวลามีเรื่องแล้วกลับไปเจอรูปเขา ได้พูดอะไรกับเขาบ้างไหม ?
“เดี๋ยวมันก็ผ่านไปแค่นั้น แค่ให้เราเข้มแข็ง โบว์ว่าโบว์เข้มแข็งมาได้ระดับหนึ่งแล้วกับการโดนด่าโดนว่าอย่าไม่มีสาเหตุ บางทีไดเรคมาด่าหยาบคายมาก ไม่ได้เสียใจนะ แต่ไม่รู้ว่าบางทีคนเรามาตัดสินเพราะหน้าตาโบว์นิ่งๆ ดูดุๆ น้ำเสียงดุดัน หยิ่งผยอง นู้นนี่นั่น แต่บางทีเราก็เลือกเกิดไม่ได้ หน้าตามันก็เป็นแบบนี้”

พอเจอปัญหาถาโถม เคยคิดไหมว่าจะพักงานในวงการไปเลย ?
“ไม่ค่ะ ถ้าตราบใดมีงานดีๆ มีงานให้เราทำ เราก็ยังคงทำต่อไป มีคนหนึ่งเคยบอกโบว์ไว้ว่าคนเราจะมีค่าก็ต่อเมื่อมีงานทำ เรื่องส่วนตัวมันก็คือเรื่องส่วนตัว เราต้องแยกแยะให้ออก ส่วนเรื่องที่มันผ่านมาทั้งหมด ถ้าโบว์ทำให้ใครเสียใจ โบว์ต้องขอโทษจริงๆ แต่อยากให้รู้ว่าโบว์ไม่อยากทำ และเชื่อว่าตอนนี้เราก็สบายใจทั้งสองฝ่ายแล้ว”

ถ้ามีโอกาสได้ปรับความเข้าใจกับอาน้ำอ้อย ความสัมพันธ์จะกลับมาเหมือนเดิมไหม ?
“โบว์ว่าตอนนี้ทั้งตัวโบว์และตัวคุณอาเองคงมีความสุขแล้วค่ะ จากนี้ก็คงไม่มีอะไรแล้วค่ะ เพราะโบว์ก็จะตั้งหน้าตั้งตาเลี้ยงลูก ทำมาหากิน คงไม่มีอะไรแล้ว ใจก็บอกกับตัวเองว่าโบว์เป็นคน คนหนึ่ง ที่ครั้งนี้เคยมีคนรู้จักทั้งประเทศ อนาคตก็จะเป็นคนที่เป็นแค่คนคนเคยรู้จัก ซึ่งบางคนอาจจะจำไม่ได้เลยด้วยซ้ำ งานในวงการคือสิ่งดีๆ โอกาสดีๆ ที่โบว์ได้รับ แต่โบว์ไม่ได้ยึดว่าโบว์ต้องอยู่ตรงนี้ ไม่ได้คิดว่าต้องทำทุกอย่างให้คนจดจำ โบว์เป็นแค่ แวนดา เพราะจนถึงวันนี้โบว์ก็ยังใช้ชีวิตเหมือนเดิมทุกอย่าง ที่คนรู้จักโบว์และมะลิได้ก็เพราะพี่ปอคนเดียว”