รถพ่วงเบรกหลบต้นไม้ล้ม ชนประสานงาเทรลเลอร์ ไฟลุกสยอง
ฝนตกต้นไม้ล้มขวางถนน รถเทรลเลอร์เบรกกะทันหัน เสียหลักเบี่ยงไปชนประสานงารถพ่วง เกิดเพลิงลุกไหม้ทั้ง 2 คัน เร่งดับเพลิงระทึก
(3 เม.ย.) เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา พ.ต.ท.สมบูรณ์ ขอบโคกกรวด สารวัตรสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ชนกับรถเทรลเลอร์บรรทุกปูนผง ทำให้เกิดเพลิงลุกไหม้ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบนถนนคลองเจ็ดธัญบุรี-วังน้อย กิโลเมตรที่ 20 ก่อนถึงสะพานข้ามคลองระพีพัฒน์เล็กน้อย
หลังได้รับแจ้งจึงประสานงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วยพ.ต.อ.ทูน เดชคุณมาก ผกก.สภ.คลองห้า รถดับเพลิง อบต.คลองเจ็ด อบต.คลองหก เทศบาลเมืองลำตาเสา รวม 3 คัน อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูรถโรงพยาบาลคลองหลวงรุดไปที่เกิดเหตุ
ในที่เกิดเหตุเป็นถนนสองเลนรถวิ่งสวนกัน มีฝนตกตกมาต่อเนื่อง และมีต้นไม้ริมทางล้มหักโค่นอยู่ บริเวณกลางถนนพบรถเทรลเลอร์ 22 ล้อ ยี่ห้อนิสสัน รุ่นยูดี สีขาว ซึ่งเป็นรถที่ด้านหลังมีแคปซูลบรรทุกปูนผง ด้านหน้ารถชนติดอยู่กับรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ที่บรรทุกหินคลุกมาเต็มคัน
รถทั้งสองคันเกิดเพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องระดมฉีดน้ำ เพื่อดับเพลิงรถบรรทุกทั้งสองคันกว่า 30 นาที จึงจะสามารถควบคุมเพลิงได้ส่งผลให้การจราจรไม่สามารถใช้การได้ทุกช่องทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องปิดกั้นการจราจรชั่วคราว นอกจากนี้แล้วข้างกันยังพบผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย เป็นผู้ขับขี่รถบรรทุกพ่วงถูกไฟคลอกทั้งร่างกาย ได้รับบาดเจ็บสาหัสทราบชื่อ นายธนพล อายุ 39 ปี
นายเกียรติยศ อายุ 45 ปี เปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุตนเองนำปูนผงไปลงที่ย่านเทพารักษ์ จ.สมุทรปราการ และกำลังจะกลับไปที่บริษัท จ.สระบุรี เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุมีฝนตกลงมา ถนนลื่น ด้านหน้ามีต้นไม้โค่นขวางถนน ตนจึงเบรกรถกะทันหัน ทำให้รถเสียหลักไปชนรถยนต์คู่กรณีที่สวนทางมาอย่างรุนแรงและเกิดเพลิงลุกไหม้ มีผู้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าวจึงประสานงานเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อประสานงานรถดับเพลิง
ทางด้าน พ.ต.ท.สมบูรณ์ ขอบโคกกรวด สารวัตรสอบสวนสภ.คลองห้า เปิดเผยว่า จะได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางและสอบปากคำผู้ขับขี่ทั้งสองคันเพื่อหาสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุและผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีทางกฎหมายพร้อมประสานรถยกขนาดใหญ่มาเคลื่อนย้ายรถที่ประสบเหตุออกนอกเส้นทางเพื่อเร่งเปิดการจราจรอย่างเร่งด่วน
ผู้สื่อข่าวรายงานถนนเส้นทางธัญบุรี-วังน้อย เป็นถนนที่มีรถบรรทุกสัญจรในเส้นทางเป็นจำนวนมาก บางช่วงจะเป็นถนนเลนสวนและไม่มีไฟฟ้าส่องสว่างผิวทาง รวมทั้งมีต้นไม้ใหญ่สองข้างทางปกคลุมผิวทางทำให้เป็นเส้นทางที่อันตรายจึงวอนให้ส่วนเกี่ยวข้องเร่งแก้ไขและติดตั้งไฟส่องสว่างเพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นอีก