เบื้องหลังสุขภาพคนเล่าข่าว กุ๊ก-กฤติกา ศักดิ์มณี
ช่วงเช้าๆ นอกจากคอข่าวจะหยิบหนังสือพิมพ์มาอ่านกันจนชินมือแล้ว ส่วนหนึ่งคงเลือกดูรายการเล่าข่าวเพราะมีทั้งเนื้อหาสาระและสีสันที่ชวนติดตาม เรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 ที่มี กุ๊ก - กฤติกา ศักดิ์มณี พิธีกรสาวที่มาคู่กับสรยุทธ์ สุทัศนะจินดา ทุกเช้าจันทร์ - ศุกร์ ก็เป็นอีกหนึ่งรายการที่ฮ็อตฮิตติดลมบนจนเรตติ้งพุ่งไม่หยุดมาถึงวันนี้
ตื่นมานอกจากจะได้ยินเสียงคุ้นหูของสรยุทธ์แล้ว เรายังได้เห็นรอยยิ้มสดใสคอยรับคอยส่งเรื่องราว ดีๆ จากสาวกุ๊กแทบทุกวัน แต่เอ๊ะ! เคยสงสัยกันบ้างมั้ยว่า เบื้องหลังสุขภาพคนเล่าข่าวเป็นยังไง ว่าแล้ว Hospital & Healthcare เลยถือโอกาสบุกไปจับเข่าคุยกับสาวกุ๊กที่ช่อง 3 กันซะเลย
"งานหลักๆ ที่กุ๊กทำอยู่ในช่วงนี้ก็มีเรื่องเล่าเช้านี้ จันทร์ - ศุกร์ เวลา 06.15 - 08.45 น. แล้วก็จะมีรายการบิสสิเนสโฟกัส ที่ทรูฯ ช่อง 7 ตอน 11.00 - 12.00 น. ทุกวันจะมีตารางเป็นแบบนี้เป๊ะ 2 รายการ กุ๊กว่าไม่เบานะ เพราะต้องตื่นตั้งแต่เที่ยงคืนกว่าๆ เข้านอน 4 - 5 โมงเย็น นอกจากนี้ยังมี งานพิธีกรข้างนอกที่ไม่กระทบกับงานประจำค่ะ" สาวกุ๊กเล่าอย่างอารมณ์ดีเมื่อเราแย็บถามถึงเรื่องงาน
แล้วเที่ยงคืนตื่นมาทำอะไรครับ?
"ตื่นมาก็จะเช็กข่าวค่ะ มีรายการข่าวที่อัดไว้ก็จะดูภาพข่าวเป็นยังไง ประเด็นเป็นยังไง ดูแล้วก็อาบน้ำแต่งตัว แล้วก็อ่านข่าวอินเทอร์เน็ตก่อน อย่างมติชนออนไลน์ก็อ่านประจำ แล้วก็อ่านทำความเข้าใจมาก่อนค่ะ ดูประเด็นด้วยว่าอันไหนควรพูด อะไร ยังไง ก็ดู ก็คิดมาจากบ้านระดับหนึ่ง
ในเรื่องเล่าเช้านี้มีสคริปต์หรือเปล่า?
ไม่มี ไม่มีสคริปต์ ไม่มีรันดาวน์ (Rundown) แต่ว่าจะมีข่าวจากศูนย์ข่าวส่วนกลางจากช่อง 3 ที่เป็นข่าวอัพเดตที่จะเสริมในตอนเช้า แล้วก็จะมีข่าวหนังสือพิมพ์ที่เป็นข่าวประจำวัน แล้วก็ข่าวข้อมูลต่างๆ มาถึงที่นี่ประมาณตี 3 ก็จะมานั่งเช็กประเด็นข่าวหนังสือพิมพ์ก่อนว่ามันมีอะไรบ้าง อันไหนในทีวีมี...เด็ดกว่าก็ตัดเป็นประเด็นๆ ไป พอ ตี 3 ครึ่ง จะไปแต่งหน้าทำผม
ก่อนเข้ารายการต้องคุยกับคุณสรยุทธ์มั้ย?
"แทบจะไม่ได้คุยกันเลยค่ะ คุยกันแค่ข่าวเยอะไหมไม่ได้มีนัดแนะ ไม่ได้มีรันดาวน์ (Rundown) ว่าเอาเรื่องนั้น ไม่เอาเรื่องนี้ ก็คือทีมงานทำทุกเรื่องซัพพอร์ตพิธีกร พิธีกรก็อ่านทุกเรื่องเท่าที่พิธีกรคิดว่าควรจะอ่านหรือว่าควรที่จะเอามา เล่าในรายการค่ะ
ส่วนใหญ่จะเป็นข่าวหน้าหนึ่ง?
ไม่หรอกค่ะ บางทีก็เป็นข่าวกรอบเล็กๆ แต่เราเห็นว่ามันน่าสนใจ เราก็นำมาเล่า
เคยฟังเสียงวิจารณ์ถึงกุ๊กบ้างมั้ย?
"ก็มีคนมาเล่าอยู่แล้วค่ะ (หัวเราะ) ด้วยความที่เราอยู่ในข่าว เราไม่เคยรับรู้เลยมันก็เป็นไปไม่ได้ กุ๊กเป็นคนเปิดรับนะคะ ถ้าอันไหนที่เรารู้สึกว่าเราคงแก้ไขได้ก็โอเค ที่เขาติเขาชมเราก็นำเอามาปรับปรุง"
มีบางคนบอกว่าเปลี่ยนไปจากตอนที่อยู่เนชั่น?
เท่าที่กุ๊กเคยคุยกับพี่ที่เนชั่น เขาจะพูดในทำนองว่าเขารู้สึกดีว่ากุ๊กไม่เป็นตัวของตัวเองค่ะ เขารู้สึกดีที่กุ๊กก็คือกุ๊ก ที่เนชั่นอาจจะรู้สึกว่ากุ๊กจริงจังมากกว่านี้ อาจเป็นเพราะกุ๊กเป็นผู้ประกาศข่าว คืออ่านข่าวก็จะใช้บุคลิกอีกแบบหนึ่ง แต่ว่าเรื่องเล่าเช้านี้กุ๊กว่ากลุ่มเป้าหมายหลักๆ กว้างมาก เด็กนักศึกษาบางคนมาเจอกุ๊กก็บอกว่า พี่กุ๊กไม่เคยดูข่าวเลย แต่เดี๋ยวนี้ดู อย่างนี้ค่ะ ก็คือด้วยความที่มันกว้างมาก ก็เลยต้องเล่าข่าวที่หลากหลาย อารมณ์และบรรยากาศก็ต้องแตกต่างกันไป
แล้วการใช้ชีวิตตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?
มันต่างกันค่ะ ตอนอยู่เนชั่นกุ๊กจะเข้าช่วงสายๆ งานหลักจะอยู่ในช่วงบ่ายถึงค่ำ ก็จะอ่านข่าวจนถึงเบรกใหญ่ของเค้าตอนสามทุ่ม สี่ทุ่มใช่ไหมคะ เราก็จะกลับบ้านมืดๆ ก็เป็นชีวิตแบบปกติของชีวิตวัยรุ่นที่นอนดึกแล้วก็อาจจะตื่นสายหน่อย พอมาทำแบบนี้ก็เปลี่ยน แต่ก่อนอยู่บ้านตอนเช้า แต่ตอนนี้จะอยู่บ้านช่วงบ่าย
แล้ววันหยุดล่ะ?
วันอาทิตย์จะเป็นวันที่เริ่มนอนเร็วจนถึงวันพฤหัสฯ ถึงวันศุกร์เราก็ไม่ต้องรีบเข้านอนแล้ว เพราะวันเสาร์เราไม่ต้องตื่นเช้าก็ได้
แล้วทำงานหนักยังงี้ ดูแลสุขภาพยังไง?
ก็ต้องดูแลตัวเองเพิ่มขึ้นค่อนข้างมากค่ะ เพราะมาทำที่นี่ตอนแรกจะนอน 2 ช่วง แบ่งช่วงเวลานอน นอน 3 ชั่วโมงแล้วก็ตื่นขึ้นมาอ่านข่าวดูโน่นดูนี่แล้วก็นอนอีก 3 ชั่วโมง มันก็เหมือนกับกุ๊กมี 2 วันใน 1 วัน ตอนนั้น ซึ่งมันทำให้ภูมิต้านทานในร่างกายวูบลงเลย โรคที่ไม่เคยเป็นอย่างปวดท้อง ปวดมากๆ ไม่เคยเป็นมาก่อนก็จะเป็น อย่างกรดไหลย้อนก็เป็น ร่างกายก็อ่อนแอ ไม่เคยแพ้อะไรก็แพ้ ถึงขนาดแอดมิดเข้าโรงพยาบาลเพราะรู้สึกว่าภูมิต้านทานน้อยลง อันนี้คนที่นอนน้อยก็จะเป็นนะคะ พอช่วงหลังก็จะพยายามเปลี่ยนมาเป็นนอนให้มันยาวขึ้น ปรับระบบใหม่ ในห้องกุ๊กก็เลยทำม่านให้มืดตึดตื๋อเลยค่ะ
ต้องพูดทุกวันมีปัญหาเรื่องเสียงมั้ย? เสียงไม่ค่อยเป็นปัญหานะคะ นอกจากไม่สบายแต่เราก็ต้องดูแลร่างกายหน่อย พยายามไม่ให้ป่วย ตอนกลางคืนเวลานอนเรานอนห้องแอร์ก็ต้องพยายามเอาผ้ามาห่อคอไว้ เพราะว่าถ้าวันไหนลืมบางทีก็มีปัญหาในการพูดเหมือนกันเพราะว่าอยู่ๆ เสียงก็จะหายไป มันเหมือนเจ็บคอน่ะค่ะ ตัวหนาวไม่เป็นไรแต่คอต้องอุ่นไว้ก่อน
แล้วเรื่องอาหารการกินล่ะ?
กุ๊กว่าคุณพ่อกุ๊กดูแลกุ๊กอย่างดีค่ะก็เลยมีส่วนช่วย ปัจจุบันก็ทานวิตามินบ้างแต่ว่าผลไม้ก็จะไม่ขาดนะ เพราะพ่อจะเตรียมไว้ให้ ส่วนตัวก็พยายามไม่กินน้ำอัดลมค่ะ เพราะกินบ่อยๆ ต่อเนื่องมันรู้สึกว่ามีปัญหากับกระเพาะก็ระวังแค่นั้น เรื่องอื่นก็โอเคหมดเลย โตมานี่ผักที่ไม่เคยกินได้ก็กินได้หมดอย่างมะระก็กินได้ แต่ขอไม่เผ็ดมาก แล้วก็ไม่กินหวานมาก กินได้หมด ยกเว้นสัตว์ประหลาดๆ (หัวเราะ) ไม่กล้ากิน อย่างเนื้อกระต่าย เนื้อกวาง ก็ไม่กล้ากินค่ะ กินอาหารปกติ
มีเวลาฟิต แอนด์ เฟิร์ม บ้างมั้ย?ถ้าวันธรรมดาจะไม่ได้ออกกำลังกาย เพราะเวลามันฟิคหมดเลย พอกลับถึงบ้านก็อาบน้ำ ล้างหน้า ก็เป็นชั่วโมงแล้วใช่ไหมคะผู้หญิง ต้องสระผมด้วยเพราะทำผมมา พอผมแห้งปุ๊บนั่งดูทีวีแป๊บนึงก็ต้องลงไปกินข้าว พอลงไปกินข้าวเสร็จก็เข้าไปทักทายหมา คุยกับพ่อนิดหน่อย หยิบหนังสือพิมพ์ที่อ่านยังไม่จบมาอ่านต่อ ดูทีวีเสร็จ แล้วสวดมนต์ประมาณ 15 นาที ก็เข้าห้องนอน เวลามันมีเท่านี้จริงๆ แต่บางทีวันเสาร์ก็จะไปใส่บาตรกับพ่อ แต่ว่าวิธีการต้องเดินไปไกลๆ หน่อย ก็จะเดินไปประมาณครึ่งชั่วโมงไปตลาดไปซื้อของใส่บาตร บางทีเราก็เดินเล่นๆ ซื้อกับข้าวกลับบ้านกันค่ะ จะได้ออกกำลังกายบ้าง
ต้องอยู่หน้าจอทุกวันมีเคล็ดลับดูแลผิวพรรณอย่างไร?
ก็ดื่มน้ำมากๆ แต่บางทีเราทำโน่นทำนี่มากๆ ก็ไม่ได้ดื่มจะรู้สึกทันทีว่าตาแห้ง ผิวแห้ง ก็จะพยายามดื่มน้ำเยอะๆ ส่วนผิวก็ไม่ได้อะไรมากมายก็ทาครีมปกติที่เคยทา แต่ว่าหน้านี่จะใช้ครีมที่ไม่มีพวกน้ำหอม มันจะเป็นครีมที่เคลือบปกติเฉยๆ แล้วก็ครีมกันแดดก็จบ ส่วนเครื่องสำอาง ที่ช่อง 3 นี่มีช่างแต่งหน้าหลายคน ครีมรองพื้นแต่ละคนก็แต่ละยี่ห้อ พอเราแพ้ขึ้นมาเราก็ไม่รู้ว่าแพ้ยี่ห้อไหน ก็แก้ปัญหาง่ายๆ เราก็ซื้อยี่ห้อที่เรารู้สึกว่าเราใช้แล้วไม่แพ้ให้เขารองพื้นให้ แค่นั้นเอง นอกนั้นก็แล้วแต่ฟรีสไตล์ ไม่ได้ดูแลอะไรมากมาย ก็พยายามดื่มน้ำ ทานผลไม้เยอะๆ ก็ช่วยได้
มีวิตามินเสริมอะไรพวกนี้มั้ยครับ?
วิตามินทานบ้าง เริ่มทานแค่วิตามิน อาหารเสริมไม่ได้ทาน ปกติก็ไม่ได้ทานอยู่แล้ว
แล้วได้ไปสปาดูแลผิวกับเขาหรือเปล่า?
(หัวเราะ) ไม่เลยนะคะ จริงๆ แล้วอยากนะคะ แต่คงเป็นเพราะว่ากุ๊กไม่ชอบนั่งอยู่เฉยๆ นานๆ อย่างให้กุ๊กไปทำผม 5 ชั่วโมง อ่านหนังสือจบเล่มหนึ่งเลยนะ กุ๊กเกือบตาย คือนานขนาดนี้ไม่ไหว เพราะว่าเราเป็นคนที่ชอบทำอะไรหลายๆ อย่างพร้อมๆ กัน เวลาไปอยู่ในร้านอย่างนั้นนานๆ คงอึดอัดน่ะ (หัวเราะ) มีคนรู้จักเราจากหน้าจอเยอะเราต้องปรับตัวมากมั้ย? จริงๆ แล้วส่วนตัวกุ๊กก็ทำตัวให้เป็นธรรมชาติที่สุด อย่างบางทีวันอาทิตย์กุ๊กก็จะไปทำเล็บ กุ๊กก็จะไปสภาพใส่แว่น (หัวเราะ) บางคนก็บอกชอบ บางคนก็บอกว่าเออ ในทีวีดูมีอายุนะ (หัวเราะ) ตัวจริงไม่ได้ดูมีอายุมาก บางคนก็ชอบแบบในทีวีแบบแต่งเยอะๆ แต่เราก็พยายามทำตัวเป็นธรรมชาติที่สุด เพราะมันเหมือนกับว่าเราต้องมานั่งแต่งหน้าทำผม และแต่งตัวให้เต็มที่ทุกวันเราก็ไม่ใช่ดารานะ เราเป็นแค่ผู้ประกาศข่าวคนหนึ่ง เจอคนทักทายบ้างเราก็ยินดี เจอคนเข้ามาชมบ้าง บางคนก็ฝากข้อคิดเราก็อืมมม... เราก็ยินดี แล้วก็ดีใจที่เขาจำเราได้ค่ะ
ทำงานหนักไม่เหมือนคนอื่นน่าจะเครียดทำยังไง?
พอเราโตขึ้นเรื่อยๆ ประสบการณ์มันก็เหมือน บทเรียนที่ทำให้เราเรียนรู้เรื่อยๆ วันหนึ่งเราทนความเจ็บปวดได้นิดหนึ่ง แต่พอเราก้าวขึ้นมาอีกสเต็ปหนึ่งมาเจอเรื่องราวที่ร้ายๆ อีกสเต็ปหนึ่ง เราก็จะทนได้มากขึ้นเรื่อยๆ กุ๊กมีความรู้สึกว่าเป็นแบบนั้น ยิ่งโตขึ้นเรายังปล่อยวางได้มากขึ้นเรื่อยๆ หลายครั้งที่เรามีความทุกข์เราก็ระบายกับเพื่อน สวดมนต์ อ่านหนังสือ หรือมีพื้นที่ส่วนตัว มันก็ช่วยได้ค่ะ
อยากให้เล่าถึงวันที่สนุกๆ?
ก็ล่าสุดเจอเพื่อนเก่าๆ ที่เจอกันมาตั้งแต่เด็กๆ ช่วงปีใหม่ก็จะสนุกค่ะ เป็นการเลี้ยงปีใหม่ในกลุ่ม คือคบกันมาตั้งแต่เรียนมัธยม ก็จะไปเที่ยวต่างจังหวัดก็สนุกมาก ได้เล่าเรื่องเก่าๆ เรื่องใหม่ๆ เรื่องอำกันก็คิดว่ามีความสุขทุกครั้ง เวลาได้อยู่กับเพื่อนเก่า
แล้ววันเศร้าๆ ล่ะครับ?
ถ้าเศร้าที่สุด...ก็คงเป็นตอนที่แม่กุ๊กเสียค่ะ (เสียงสั่น) นอกนั้นก็เป็นสเต็ปไปอย่างที่บอกค่ะ วันหนึ่งเรารู้สึกว่าเราอดทนได้แค่นี้ ก็เป็นสเต็ปต์ไปเรื่อยๆ ...(อืม เปลี่ยนเรื่องดีกว่านะ)
โรคประจำตัวล่ะครับมีบ้างมั้ย?
ก็ไม่มีค่ะ ไม่ค่อยป่วยด้วย ก็มาป่วยตอนที่มาทำเรื่องเล่าเช้านี้ใหม่ๆ ที่รู้สึกว่าร่างกายมันเปลี่ยน เปลี่ยนช่วงเวลาใช่ไหมคะ รู้สึกว่าร่างกายอ่อนแอลง แต่ปกติก็ไม่ป่วยค่ะ
ตรวจสุขภาพประจำมั้ย?
ก็ตรวจบ้าง คือด้วยความที่ปกติไม่ป่วยก็เลยไม่ค่อยหาหมอเท่าไหร่ แต่ตอนหลังๆ นี่ชวนพ่อไป เราก็ไปด้วย
กุ๊กดูแลคุณพ่อยังไง โดยเฉพาะเรื่องสุขภาพ?
คือจริงๆ ต้องบอกว่าคุณพ่อดูแลกุ๊กค่ะ (หัวเราะ) กลับตาลปัตร คือด้วยความที่เป็นลูกคนเล็กก็จะมีคนทำอะไรให้เราตลอดไงทั้งแม่และพ่อ พี่สาว โตมาก็ยังติดที่เขาทำอะไรให้ตลอด แต่ว่าเรื่องสุขภาพก็พยายามค่ะ อย่างไปตรวจสุขภาพประจำปีก็จะพาเขาไป แต่ส่วนใหญ่เขาจะชอบไปเองมากกว่าไปกับเพื่อนเขา ตอนเรารู้ว่าเขาเป็นเบาหวาน เรารู้ว่าอะไรดี เราก็จะพยายามหามาให้ แต่ก็ไม่ค่อยได้ทำบ่อยเพราะคุณพ่อ จะดูแลเรามากกว่า (หัวเราะ)
เวลาว่างจริงๆ กุ๊กทำอะไร ?
กุ๊กชอบดูทีวี ดูหนัง อ่านหนังสือ แล้วก็เล่นกับหมา 3 อย่างนี่ค่ะ และมีดูวีซีดี ดีวีดี ที่เราเลือกเวลาได้ ส่วนละครก็หมดสิทธิ์ นอกจากละครแกะกล่องละครบ่าย (หัวเราะ) อันนั้นได้ดูบ้างเพราะว่าตอนบ่ายมีละคร ตอนที่เราสระผมเสร็จแล้วนั่งเป่าผมก็ได้ดูบ้าง
ถ้าจะให้คะแนนตัวเองเกี่ยวกับเรื่องการดูแลสุขภาพ หรือเกี่ยวกับความงาม เต็ม100 กุ๊กจะให้ตัวเองกี่คะแนน?
(นั่งคิดอยู่นาน...โอ๊ยยากจริงๆ ถามอะไรก็ไม่รู้) กุ๊กว่าถ้าหน้าไม่เป็นปัญหา ไม่แพ้ ไม่เป็นผื่น ก็จะใช้อะไรที่เคยใช้ปกติ ไม่ได้มีความรู้สึกเดือดเนื้อร้อนใจ เต็มร้อยไม่อยากให้คะแนนเลยนะเนี่ย เลวร้ายมาก (หัวเราะ) คือไม่ถึง 50 ค่ะ กุ๊กประมาณ 30-40% เท่านั้นแหละค่ะ ไม่ผ่านเกณฑ์สอบตกค่ะ (หัวเราะ)
เรื่องสุขภาพในมุมมองของกุ๊ก?
ของกุ๊กเนี่ยอย่างแรกที่กุ๊กรู้สึกว่ามันจะช่วยเราได้ก็คือการพักผ่อนให้ เพียงพอ ถ้าบางคนง่วงนอนอ่อนเพลีย ทำอะไรก็หงุดหงิด อารมณ์ไม่ดี แล้วงานมันก็ออกมาไม่ดี ควรดื่มน้ำเยอะๆ แล้วก็พยายามทานผักผลไม้โดยเฉพาะน้องๆ เด็กๆ น่ะค่ะ วันนี้เราอาจจะไม่เห็นคุณค่า แต่ว่ากุ๊กว่าผักผลไม้มันก็มีส่วนช่วยเรามาก ไม่ต้องไปหาวิตามินแพงๆ มาทาน แค่ทานผักผลไม้ให้เป็นปกติ ให้ครบทุกมื้อแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว หากมีเวลาว่างมากกว่านั้นก็ออกกำลังกาย อย่างพ่อกุ๊กนี่ก็ไปตรวจร่างกายมา ล่าสุดก็ปีที่แล้ว คุณหมอบอกเป็นเบาหวาน ความดัน ก็ให้เดินออกกำลังกาย แล้วก็ทานอาหารตามที่เขากำหนดให้ ซึ่งคุณพ่อมีระเบียบต่อตัวเองมาก คือจะเดินออกกำลังกายทุกวัน มันก็ได้ผลจริงๆ ทั้งในเรื่องของน้ำหนักตัว ทั้งในเรื่องของน้ำตาล ความดัน
เอ้า! ก่อนที่สาวกุ๊กจะขอตัวไปอัพเดทข่าวมาเล่าสู่กันฟังในวันพรุ่งนี้ อยากให้ฝากผลงานกับผู้อ่าน
"ไม่ว่าจะเป็นที่ช่อง 3 หรือทรูฯ นะคะก็จะพยายามตั้งใจทำทุกวันให้เต็มที่ พยายามให้อยู่ในมาตรฐานที่ตัวเองทำได้ ถ้าเป็นไปได้ก็จะทำให้ดีขึ้นไปเรื่อยๆ ทั้งนี้ทั้งนั้นถ้ามีอะไรผิดพลาดบ้างก็ขออภัย ผู้ชมด้วยถ้ามีอะไรที่ท้วงติงเข้ามา ถ้าแก้ไขได้ก็จะแก้ไข ส่วนเรื่องอื่นๆ ก็ทราบกันดีอยู่แล้วว่าปีนี้ เป็นปีที่ไม่สู้ดีเท่าไหร่ กุ๊กคิดว่าทุกคนคงจะเจอปัญหาเหมือนกัน ก็คาดหวังว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้น ...ก็ขอให้ผ่านพ้นไปได้ ทั้งปีนี้และปีหน้าค่ะ"