ศาลสั่งยึดทรัพย์ กำนันเป๊าะ กว่า 10 ล้าน ตกเป็นของแผ่นดิน
ศาลแพ่งสั่งยึดทรัพย์กำนันเป๊าะและครอบครัว 11 ล้านบาทเศษ ได้มาจากทุจริตเขาไม้แก้ว ส่วนของลูกสาว 18 บัญชี 20 ล้านเศษ ศาลให้คืนเชื่อเป็นบัญชีเงินฝากกินดอกเบี้ย
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 31 มีนาคม ที่ศาลแพ่ง ถนนรัชดาภิเษก ศาลมีคำสั่งยึดทรัพย์เป็นสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารของนายสมชาย คุณปลื้ม หรือกำนันเป๊าะ ผู้กว้างขวางในจังหวัดชลบุรี ผู้ต้องโทษจำคุกคดีทุจริตเขาไม้แก้ว นางยุพิน หรือสติล คุณปลื้ม ภรรยา และนายวิทยา คุณปลื้ม บุตรชาย รวม 11 รายการ เป็นจำนวนกว่า 11,000,000 บาทเศษ ให้ตกเป็นของแผ่นดิน และให้คืนทรัพย์สินเป็นสมุดบัญชีธนาคาร 18 รายการ รวมมูลค่าประมาณ 20,000,000 บาทเศษ คืนให้แก่นางจิราภรณ์ คุณปลื้ม บุตรสาว
คดีนี้พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 3 ยื่นคำร้อง ขอให้ศาลมีคำสั่งยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดของนายสมชาย กับครอบครัว รวม 29 รายการ มูลค่า 30,136,418.05 บาทให้ตกเป็นของแผ่นดิน หลังฎีกามีคำพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์และศาลจังหวัดชลบุรีลงโทษจำคุก นายสมชาย เป็นเวลา 5 ปี 4 เดือน ในความผิดฐานทุจริตซื้อที่ดินในเขตป่าสงวน ต.เขาไม้แก้ว จ.ชลบุรี ตามคำร้องสรุปว่า เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ( ปปง.)ตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับธุรกรรมการซื้อที่ดินดังกล่าวแล้ว เชื่อว่านายสมชาย กับพวก ร่วมกันกระทำความผิดต่อหน้าที่ราชการและความผิดใน พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 จึงมีคำสั่งให้อายัดทรัพย์สินดังกล่าวซึ่งมีหลักฐานเชื่อว่าได้มาจากการกระทำความผิดตกเป็นของแผ่นดิน
โดยศาลพิเคราะห์คำเบิกความพยานหลักฐานที่ทั้งฝ่ายนำสืบพิสูจน์ที่มาของทรัพย์สินแล้ว มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าทรัพย์สินเป็นสมุดบัญชีของนายสมชาย จำนวน 1 บัญชี จำนวน 300,000 บาทเศษ ของนางยุพิน จำนวน 9 บัญชี จำนวนเงินประมาณ 10 ล้านบาทเศษ และของนายวิทยา จำนวน 3,000 บาทเศษ รวมทั้งสิ้น 11 บัญชี รวมจำนวนประมาณ 11 ศาลบาทเศษ ได้มาจากการกระทำความผิด จึงมีคำสั่งให้ทรัพย์สินดังกล่าวตกเป็นของแผ่นดิน ส่วนทรัพย์สินเป็นสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารของนางจิราภรณ์ จำนวน 18 บัญชี จำนวนประมาณ 20,000,000 ล้านบาทเศษ นั้นเห็นว่าเป็นบัญชีเงินฝากเพื่อรับดอกเบี้ยธนาคารตามปกติ ไม่มีหลักฐานว่าเป็นทรัพย์ที่ได้มาจากการทำความผิด จึงมีคำสั่งคืนให้นางจิราภรณ์
ภายหลัง นายชำนาญ ชาดิษฐ์ ทนายความ กล่าวว่า จะคัดคำพิพากษาไปรายงานให้กับนางยุพิน และนางจิราภรณ์ ทราบ และนำไปศึกษาเพื่อยื่นอุทธรณ์ในส่วนของทรัพย์ 11 รายการ มูลค่า 11 ล้านบาทเศษ ที่ถูกยึดต่อ