ตำรวจคุ้ยขยะหาหลักฐาน คดีสาวถุงคลุมหัวดับ มั่นใจฆ่าตัวตายเอง

จากกรณีที่ญาติได้ประกาศตามหาคนหายผ่านโซเชียล จนกระทั่งมีคนมาพบเห็นรถคันดังกล่าวจอดทิ้งไว้ซอยเปลี่ยวข้างคลองส่งน้ำชลประทาน และพบศพหญิงสาววัย 33 ปี เสียชีวิตจากการใช้ถุงหิ้วพลาสติกคลุมหัวจนขาดอากาศหายใจตายในที่สุด 

เจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุในหลายๆ จุดอีกครั้ง โดยเฉพาะที่บริเวณหน้า ร้านสะดวกซื้อที่ผู้ตายไปจอดซื้อยา และได้ลงจากรถมาทิ้งขยะที่บริเวณหน้าร้าน ซึ่งเป็นหลักฐานที่บ่งชี้ว่าสาววัย 33 ปี จะคิดฆ่าตัวตาย ถึง 70 เปอร์เซ็นต์ แต่ยังต้องรอผลการตรวจพิสูจน์อีกครั้ง โดยญาติยังเชื่อมั่นว่าผู้ตายถูกฆาตกรรม

ล่าสุด (6 เม.ย.) ความคืบหน้าของคดีวันนี้ พล.ต.ต.ถวาย บูรณรักษ์ ผบก.ภจว.อำนาจเจริญ พ.ต.อ.ชัชนันต์ พรบุตร ผกก.สภ.ลืออำนาจ พ.ต.อ.วิเชียร โชคพิพัฒน์ทวี ผกก.หัวตะพาน พ.ต.ท.ไมตรี บุญมาศ รอง ผกก.สส.ภจว.อำนาจเจริญ และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ร่วมกันลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบจุดเกิดเหตุอีกครั้ง รวมไปเส้นทางต่างๆ ที่ผู้ตาย คือ น.ส.ดวงจันทร์ อายุ 33 ปี ที่ขับรถผ่านและจุดที่ผู้ตายจอดทุกจุด โดยเฉพาะที่บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ ปั๊มน้ำมัน ปตท.กิมซุน ขาออกจากตัวเมืองอำนาจเจริญ ไปยังจังหวัดยโสธร เนื่องจากภาพวงจรที่ปิดที่ทางร้านสะดวกซื้อจับไว้ได้นั่นตั้งแต่ผู้ตายมาจอดรถและลงไปซื้อของ ซึ่งคือยาพาราเซตามอล 5 แผง เนื่องจากที่เบาะรถของผู้ตายมียาเม็ดตกอยู่ที่พื้นรองเท้า 1 เม็ด เมื่อซื้อยาเสร็จผู้ตายก็ได้เดินกลับเข้ามานั่งที่รถได้สักพัก และผู้ตายก็ได้ลงจากรถอีกครั้งเพื่อเดินมาทิ้งขยะที่บริเวณหน้าร้าน

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เข้าไปตรวจจุดรวมขยะที่ทางร้านสะดวกซื้อนำไปทิ้ง เพื่อหาว่าของที่ผู้ตายทิ้งลงไปในถังขยะคืออะไร ซึ่งจากการที่ตรวจค้นอยู่นาน เจ้าหน้าที่ก็พบถุงต้องสงสัยที่คาดว่าจะเป็นถุงขยะที่ผู้ตายนำมาก็คือ ถุงพลาสติกของร้านสะดวกซื้อ ที่มียาพาราเซตามอล 5 แผง ที่กินหมดแล้วอยู่ในถุงพลาสติกดังกล่าว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเองจะได้ส่งสิ่งของดังกล่าวที่ได้จากการตรวจค้น ส่งให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบอีกครั้งว่า ใช่ของผู้ตายหรือไม่ด้วยการตรวจสอบลายนิ้วมือรวมไปถึงตรวจสอบ DNA ว่าตรงกับของผู้ตายหรือไม่

จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับเรื่องความคืบหน้าของคดีดังกล่าว ทำให้ทราบว่าหลักฐานจากกล้องวงจรปิด รวมไปถึงหลักฐานที่ทางเจ้าหน้าที่เก็บได้จากกองขยะซึ่งหากตรวจสอบแล้วว่าเป็นของผู้ตายจริง มันก็จะสามารถบ่งชี้ได้เกือบถึง 70 เปอร์เซ็นต์ ว่าผู้ตายอาจจะฆ่าตัวตายเองไม่ได้ถูกฆาตกรรมแต่อย่างใด เนื่องจากหลักฐานรวมไปถึงพฤติกรรมที่ผิดวิสัยของมนุษย์ที่กินยาจำนวนมาก หากไม่ใช่พฤติกรรมที่บ่งชี้แสดงให้เห็นถึงว่ามีการคิดสั้นจะฆ่าตัวตาย

อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะรอผลพิสูจน์การผ่าศพจากนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจอีกครั้งหนึ่ง เพื่อความแน่ชัด ส่วนเหตุจูงใจที่ทำให้คิดสั้นฆ่าตัวตายนั่น ตอนนี้เจ้าหน้าที่ก็ได้มีหลักฐาน ข้อมูลรวมไปถึงมูลเหตุจูงใจมากพอที่ทำให้ น.ส.ดวงจันทร์ คิดฆ่าตัวตายแล้วทำให้ต้องทำให้ดูเหมือนว่าถูกฆ่าตาย แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้เพราะเกรงจะมีผลต่อรูปคดี ซึ่งคาดว่าจะสามารถทางเจ้าหน้าที่จะสามารถสรุปสำนวนและปิดคดีนี้ได้อย่างแน่นอนภายในเร็วๆ นี้