"บิ๊กตู่" ลั่น การเปลี่ยนผ่านเป็นเรื่องสำคัญ หากอดีตไม่ดีต้องอย่าทำอีก

"บิ๊กตู่" ลั่น การเปลี่ยนผ่านเป็นเรื่องสำคัญ หากอดีตไม่ดีต้องอย่าทำอีก

"บิ๊กตู่" ลั่น การเปลี่ยนผ่านเป็นเรื่องสำคัญ หากอดีตไม่ดีต้องอย่าทำอีก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

วันนี้ (9 เม.ย.61) ที่หอประชุมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้จัดกิจกรรม "CU Calibre:shaping the nation's future" โดยมี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ปาฐกถาพิเศษ ในหัวข้อ "จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยกับการขับเคลื่อนประเทศในระยะเปลี่ยนผ่าน" ซึ่งมีเหล่านิสิตมาเข้าร่วมกิจกรรมจำนวนมาก

ทั้งนี้เมื่อพลเอกประยุทธ์ เดินทางมาถึง ได้วางพวงมาลาถวายสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระปิยมหาราชและสมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า โดยพลเอกประยุทธ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า

ระยะเปลี่ยนผ่านนั้นเป็นระยะที่สำคัญ ส่วนจะดีหรือไม่ดีไม่สามารถทราบได้ แต่ต้องทำให้ดีที่สุดในทุกกิจกรรมเพื่อลดความขัดแย้ง และสิ่งอื่นๆ ต้องคลี่คลายให้ดีกว่าเดิม ซึ่งวิสัยทัศน์ที่สำคัญจะต้องมองไปข้างหน้าและอย่ามองอดีตอย่างเดียว ส่วนอดีตคือการเรียนรู้และความภาคภูมิใจ หากอดีตไม่ดีต้องอย่าทำอีก เพราะวันนี้คือประวัติศาสตร์ในอนาคต และต้องเตรียมการณ์สอดคล้องกับสถานการณ์วันหน้า 

พลเอก ประยุทธ์ กล่าวว่า ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ต้องวางกรอบหลักการให้ประเทศทุก ๆ 5 ปี ยอมรับว่ามีคนส่วนหนึ่งไม่ต้องการยุทธศาสตร์ชาติ แต่หากไม่มียุทธศาสตร์ชาติประเทศจะเดินหน้าไปได้อย่างไร

ยืนยันยุทธศาสตร์ชาติสามารถเปลี่ยนแปลงได้หากมีเหตุผลเพียงพอ และย้ำว่าตนไม่ได้ต้องการสืบทอดอำนาจ 20 ปีตามยุทธศาสตร์ชาติ พร้อมกับหยอกล้อกับนักศึกษาว่า ตนจะออกข้อสอบในวิชาเบล็ดเตล็ดเกี่ยวกับยุทธศาสตร์ชาติและแผนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติให้กับนักศึกษาได้ทำข้อสอบด้วย

ดังนั้นต้องมีเรือธงสำคัญ ให้กับทั้ง 2 ฝ่ายนอกเหนือจากฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านตามหลักประชาธิปไตย เพื่อผ่านคลื่นลมอุปสรรคอีกเยอะแยะ และต้องเป็นเรือธงที่พาเรืออื่นๆ ไปพร้อมกัน

ส่วนนโยบายพรรคก็ว่ากันไป และขึ้นอยู่กับสถานการณ์ทางการเมือง ส่วนเรื่องการเลือกตั้งนั้นเชื่อว่าต่อไปอาจจะดีขึ้นก็ได้ แต่ขออย่ามาโทษตนในเรื่องนี้

904408042วันเด็ก ที่ทำเนียบรัฐบาล ปีพ.ศ. 2561

พลเอกประยุทธ์ กล่าวต่อว่า การปฏิรูปการศึกษาต้องผลิตคนตรงความต้องการของประเทศ ซึ่งตนไม่ได้ร่ำรวยตั้งแต่เด็ก แต่มีความตั้งใจที่จะรับราชการทหารเพื่อให้ได้ยศนายพลและเกษียญลงตามขั้นตอนเท่านั้น และไม่ได้มีความตั้งใจเข้ามาเป็นนายกฯ แต่ด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ทำให้ตนต้องมายืนตรงนี้

ดังนั้นขอนักศึกษาตั้งมั่นเพื่อเป็นคนดีและคิดว่าจะทำงานในด้านใด ซึ่งหลายคนมีความตั้งใจเป็นทหาร หมอ และครู จึงขอให้ทุกคนมีความมุ่งมั่นและความเพียรพยายามตั้งแต่เด็กจนโต

พร้อมยอมรับว่าขณะนี้ยังข้าราชการทุจริตมีอยู่ส่วนนึง แต่ขึ้นอยู่กับจิตสำนึกจิตใจของคน ยืนยันว่าตนเร่งแก้ทุจริตให้ได้โดยเร็ว ซึ่งการเขียนกฎหมายออกมาเกี่ยวกับจริยธรรมและคุณธรรม แต่กฎหมายจราจรก็ยังบังคับไม่ได้เลยเพราะอยู่ใจคน โดยกฎหมายนั้นไม่ได้บังคับใคร แต่กฎหมายมีเพื่อความเท่าเทียมและเป็นธรรม ซึ่งรัฐบาลไม่ได้ทำกฎหมายเพื่อเพิ่มภาระแต่ต้องอำนวยความสะดวก ขออย่านำรัฐธรรมนูญมาทะเลาะกัน 

ด้านนายเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล นิสิตคณะรัฐศาสตร์ และอดีตประธานสภานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ร่วมรับฟังการปาฐกถาในครั้งนี้ด้วย

700นายเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล ในงานเสวนา

โดยก่อนหน้านี้ที่มีรายงานข่าวว่า เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้แยกตัวนายเนติวิทย์ขี้นไปนั่งบนชั้นลอยของหอประชุม มีเจ้าหน้าที่สันติบาลคอยประกบอยู่นั้น ผู้สื่อข่าวได้รับการยืนยันจากเจ้าหน้าที่ที่จัดงานว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ที่นายเนติวิทย์ต้องไปนั่งอยู่ชั้นบน เป็นเพราะชั้นล่างเต็ม จึงต้องขึ้นไปนั่งข้างบนตามปกติ โดยมีเพื่อนนิสิตอีกมากกว่า 100 คน ทั้งนี้มีเจ้าหน้าที่คอยดูแล และแนะนำการนั่งให้นิสิตแต่ละโซน การแบ่งเจ้าหน้าที่และนิสิตจากการสแกนบัตรนิสิตเก็บข้อมูล AT เช่นเดียวกับหลาย ๆ กิจกรรมของมหาวิทยาลัย และมีการตรวจอาวุธ สำหรับสื่อมวลชนที่ลงทะเบียนเข้างานก็จะมีโซนที่นั่งตามที่มหาวิทยาลัยได้จัดไว้ให้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook