หงา คาราวาน จวกทักษิณโฟนอินไร้สติไม่สร้างสรรค์

หงาคาราวาน โต้  วิสา คัญทัพ  โจมตีคาราวานบนเวที นปช. ชี้ควรมองตัวเองว่ารับใช้ใคร ย้ำไม่คิดขึ้นเวทีเสื้อแดง อัด แม้ว โฟนอิน ไร้สติปัญญาไม่สร้างสรรค์สังคม

นายสุรชัย จันทิมาธร หรือ หงา คาราวาน ศิลปินเพลงเพื่อชีวิต ให้สัมภาษณ์ก่อนขึ้นแสดงคอนเสิร์ต ที่ร้านคาวบอย ถ.ศรีจันทร์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น เมื่อคืนวันที่ 31 มี.ค. ที่ผ่านมา ถึงกรณีที่กลุ่ม นปช.มีการกล่าวพาดพิงถึงวงคาราวานในการขึ้นแสดงดนตรีกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ว่า เราต่างมีเวทีการแสดงออกที่ต่างกัน

แต่การแสดงออกนั้นต้องระวังในความเป็นศิลปิน ที่มีเสรีภาพ ไม่ควรด่าผู้อื่น โดยเฉพาะศิลปินด้วยกัน เพื่อนกันต้องไม่ทำกัน หรือศัตรูกันก็ยังไม่ทำกันขนาดนี้ ศัตรูก็ยังต้องให้เกียรติศัตรู แต่นี้เป็นมันูหยาบ ซึ่งการกล่าวโจมตีวงคาราวานบนเวที นปช. เราไม่โต้ตอบอะไรเพราะถือว่าเป็นการปรบมือข้างเดียว จึงถือว่าไม่มีผลกระทบอะไร คิดเพียงว่าเป็นเสียงสุนัขเห่า จึงไม่จำเป็นที่จะต้องออกมาจี้แจ้งตามที่กลุ่ม นปช.ได้กล่าวโจมตีวงคาราวาน หากเราเห่า หรือกัดตอบเราก็ถือว่าเป็นสุนัขเหมือนกัน เพราะเราถือว่ายังเป็นคนอยู่จึงต้องมีการควบคุมสติอารมณ์เอาไว้

ปัญหาทางการเมืองขณะนี้เราไม่ต้องการพูดถึงเรื่องการแบ่งสีในสังคม ซึ่งเราไม่ต้องการที่จะแบ่งสีไม่ว่าจะเป็นสีเหลือง หรือสีแดง เพราะเราก้าวพ้นสิ่งเหล่านี้ไปแล้ว ดังนั้นแนวทางของคาราวานยังเป็นศิลปินที่ประชาชนยังรู้จักดี

ฉะนั้นการที่นายวิสา คัญทัพ นักดนตรีเพื่อชีวิต ออกมากล่าวโจมตีวงคาราวานบนเวที นปช. ก็เป็นเรื่องที่เขามีสิทธิที่จะทำได้ แต่ความเป็นจริงคาราวานไม่ได้เปลี่ยนไปแต่เราคิดว่าเราได้ทำในสิ่งที่ดีที่สุด และถูกต้องในใจเราที่สุดโดยไม่ได้โกหกตัวเอง และเป็นการกระทำเพื่อการเรียกร้องต่อสู้ไม่ใช่เป็นการทำเพื่อผลประโยชน์ ดังนั้นจึงยืนยันได้ว่าสิ่งที่เราทำมาไม่ใช่การทำเพื่อผลประโยชน์อย่างแน่นอน และอย่างให้รู้ว่าวงคาราวานยังเป็นตัวของตัวเองเราไม่ได้รับใช้ใคร ซึ่งคนที่กล่าวหาวงคาราวานควรหันไปดูตัวเองว่ารับใช้ใครอยู่หรือเปล่า

"ปัจจุบันหลังจากที่ได้ขึ้นแสดงดนตรีบนเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยแล้วก็ถือว่าได้รับผลกระทบจากการแสดงดนตรีบ้างแต่ก็ไม่มากเพราะวงคาราวานยังคงมีงานการแสดงอยู่ตลอด และหากว่างจากงานแสดงแล้วก็จะไปช่วยเล่นดนตรีให้พันธมิตรฯ แต่ผมก็ไม่สามารถที่จะช่วยแสดงดนตรให้เสื้อแดงได้" นายสุรชัยกล่าว

หากให้มองการเมืองขณะนี้กระแสการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีถือว่าเป็นเรื่องผลประโยชน์ของใครฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ดังนั้นการแสดงออกโดยการโฟนอินจึงถือว่าเป็นการโต้ตอบการกระทำที่คลายกับไม่รอบครอบ ไร้สติปัญญาไม่สร้างสรรค์สังคม และหากสังคมยังเป็นเช่นนี้ก็หาทางออกไม่เจอ และถือว่าน่าเป็นห่วง การทำอะไรควรใช้สติปัญญา และจะเป็นการทดสอบสติปัญญาของคนไทยว่าจะฝ่าฟันวิกฤติไปได้อย่างไร