2 ผัวเมียทำงามหน้า อาสาจะพาฝรั่งไปส่ง แต่จอดแวะต่อย-ชิงทรัพย์

ผัวเมียวัยรุ่นเชียงใหม่คิดน้อย ทำทีอาสาพาฝรั่งนักวิ่งชิงแชมป์ยุโรป แต่แวะจอดทำร้ายปล้นชิงทรัพย์ ฮึดสู้แต่ไม่ไหว ตร.ตามล่า 10 ชั่วโมงจับได้ทันควัน

(12 เม.ย.) ภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณถนนสายมหิดล หน้าหมู่บ้านเชียงใหม่แลนด์ อำเภอเมืองเชียงใหม่ บันทึกภาพชายหนุ่มขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมา โดยมีหญิงคนไทยและชายชาวต่างชาตินั่งซ้อนท้าย ก่อนจะไปจอดข้างทางและลงมือชิงทรัพย์ชายชาวต่างชาติ แต่ผู้เสียหายฮึดสู้ จึงเกิดการชกต่อยกับชายหนุ่มที่ขี่รถจักรยานยนต์

ขณะที่หญิงสาวคนซ้อนท้ายฉวยจังหวะกระชากกระเป๋าของชาวต่างชาติ ก่อนที่ทั้งสองจะพากันขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปตามถนนจนถึงสี่แยกศาลเด็ก มุ่งหน้าไปทางอำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงกลางดึกคืนวันที่ 11 เมษายนที่ผ่านมา

ต่อมา นายนาธาน ชาวสวิสเซอร์แลนด์ ผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ และชุดสืบสวนได้แกะรอยคนร้ายที่ก่อเหตุจากกล้องวงจรปิดของเทศบาลนครเชียงใหม่ที่ติดตั้งบริเวณจุดเกิดเหตุ และตามเส้นทางที่คนร้ายใช้ในการหลบหนี

กระทั่งทราบทะเบียนรถจักรยานยนต์ที่ใช้เป็นพาหนะก่อเหตุ เป็นจักรยานยนต์ฮอนด้า สีขาว หมายเลขทะเบียน จพษ 120 เชียงใหม่ มี นางสาวตุลาภร อายุ 27 ปี เป็นผู้ครอบครอง เจ้าหน้าที่จึงขยายผลจนสามารถจับกุมตัวคนร้ายชายหญิงที่ก่อเหตุ คือ นายพัฒนพงศ์ อายุ 22 ปี ชาวจังหวัดเชียงใหม่ และ นางสาวตุลาภร ชาวจังหวัดแพร่ ได้ที่บ้านพักในอำเภอสันทราย

ขณะที่ล่าสุด ชุดสืบสวนฯ ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งสองมาร่วมแถลงข่าวผลการจับกุมคดีอาชญากรรมในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยมี พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเดินทางมาติดตามมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม และการรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยคดีวิ่งราวทรัพย์ที่เกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เวลาในการติดตามจับกุมคนร้ายหลังเกิดเหตุเพียง 10 ชั่วโมง ซึ่งนายนาธานได้มอบช่อดอกไม้เพื่อแสดงความขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย

นายนาธาน เปิดเผยว่า ตนเป็นแชมป์วิ่ง 5,000 เมตร ในการแข่งขันชิงแชมป์ทวีปยุโรป ได้เดินทางมาเที่ยวเทศกาลสงกรานต์ที่จังหวัดเชียงใหม่ได้ 3 วันแล้ว ในคืนวันเกิดเหตุพบชายหญิงสองคนขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมา จากนั้นก็เข้ามาพูดคุยอาสาจะขี่รถไปส่งที่พัก แต่เมื่อขึ้นซ้อนท้ายไป ทั้งสองกลับจอดรถและกระชากกระเป๋าตน ก่อนจะเกิดการชกต่อยกันขึ้น

ตนถูกต่อยตามลำตัวหลายแห่ง ก่อนจะถูกกระชากกระเป๋าสะพาย ข้างในมีกล้องโกโปร ขณะนั้นมีวัยรุ่นขี่รถผ่านมาจึงลงมาช่วยเหลือตน ทำให้คนร้ายพากันขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป รู้สึกขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สามารถจับกุมคนร้ายได้ในเวลาอันรวดเร็ว แต่ก็รู้สึกเสียดายที่ไม่ได้ทรัพย์สินคืน เพราะทราบว่าคนร้ายนำไปทิ้งลงน้ำแล้ว

นายพัฒนพงศ์ ผู้ต้องหา ให้การอ้างว่า นายนาธานขอร้องให้ขี่รถจักรยานยนต์ไปส่งกลับที่พัก โดยจะให้ค่าจ้าง 50 บาท แต่เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุนายนาธานกลับโวยวายให้จอดรถ เมื่อทวงเงินค่าจ้างก็ไม่ยอมให้ จึงลงมือกระชากกระเป๋า ส่วนสาเหตุเพราะอารมณ์ชั่ววูบเนื่องจากไม่มีเงินใช้จ่ายและหาเงินพาภรรยาไปเที่ยวสงกรานต์ และ เพิ่งลงมือทำเป็นครั้งแรก

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบประวัติพบว่านายพัฒนพงศ์เคยถูกจับกุมในคดีวิ่งราวทรัพย์มาแล้วหลายครั้งตั้งแต่เป็นเยาวชน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาร่วมกันชิงทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม” ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป