บ่มรักจนสุขงอม โย่ง-ก้อย จ่อคิววิวาห์

บ่มรักจนสุขงอม โย่ง-ก้อย จ่อคิววิวาห์

บ่มรักจนสุขงอม โย่ง-ก้อย จ่อคิววิวาห์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หลังทำอัลบั้มใหม่ร่วมกันเป็นครั้งแรก เผยความในใจทำให้รักกันมากขึ้น

เป็นคู่รักอีกคู่หนึ่งที่หลายคนลุ้นจนตัวโก่ง ว่าเมื่อไหร่จะมีข่าวดีสักที สำหรับขวัญใจวัยรุ่น "โย่ง" อนุสรณ์ มณีเทศ หรือ โย่ง อาร์มแชร์ กับนักร้องสาวสุดเปรี้ยว "ก้อย" วลัยลักษณ์ มุสิกโปฎก หรือ ก้อย แซทเทอร์เดย์ เซโกะ

แต่งานนี้แฟนเพลงอาจจะมีเฮ...เพราะทั้งคู่เปิดใจว่า ภายในปีนี้อาจจะมีข่าวดี พร้อมกับหอบหิ้วอัลบั้มเพลงใหม่ล่าสุด ก้อย โย่ง & เฟรนด์ส : อัลบั้ม มาย ทราเวลเลอร์" อัลบั้มเพลงเฉพาะกิจที่ทำร่วมกันครั้งแรก กับค่ายเพลง สไปร์ซซี่ ดิสก์ มาแนะนำ...ว่าแล้วมาเปิดใจกันเลย

บ่มรักสุกใกล้วิวาห์  คบหาดูใจกันมาเป็นระยะเวลา 7 ปี วางแผนแต่งงานไว้บ้างหรือยัง
ก้อย : จริงๆ ก็คุยกันไว้บ้างคร่าวๆ
โย่ง : จริงๆ ก็มีแพลนไว้ แต่ไม่ได้คิดว่าเมื่อไหร่ หรือยังไง อยากให้งานที่ค้างคา โปรเจกท์ในฝันเสร็จสิ้นไปก่อน คือยังไม่ทราบว่าเมื่อไหร่ เพราะตอนนี้ผมเชื่อว่าการเรียนรู้กันไม่มีวันจบสิ้น เพราะว่าอย่างช่วงที่ผ่านมา ก็ได้เรียนรู้กันเพิ่มขึ้น ด้วยความที่ทำอัลบั้มนี้ด้วยกันทุกอย่าง มันก็จะมีทะเลาะกัน ได้เห็นมุมมองความคิดของแต่ละคนเพิ่มขึ้น ก็เลยรู้สึกว่า ถ้าคิดว่าปลายทาง มันคือการแต่งงาน ผมก็รู้สึกว่ามันคงไม่ใช่ เพราะว่ามันก็แค่ประเพณี ประเพณีหนึ่ง สมมติเราอยู่เกาะ มันก็ไม่จำเป็น เพียงแต่เราเป็นคนที่อยู่ในที่แจ้ง แล้วมีคนสนใจในเรื่องนี้ แล้วก็เป็นแฟนกันด้วย ผมขอเวลาอีกสักพักหนึ่ง เพื่อที่จะทำงาน เติมความฝันของแต่ละคน โปรเจกท์ต่างๆ ก็กำลังจะเข้ามา ตอนนี้ก้อยก็มีโปรเจกท์จะทำร้านเสื้อผ้า ผมเองก็จะเปิดบริษัทออกแบบเล็กๆ ซึ่งถ้าทุกอย่างลงตัวก็จะน่าคุยกันอยู่

แสดงว่าปีนี้ไม่น่าจะมีเรื่องวิวาห์
โย่ง : จริงๆ ก็คิดไว้เหมือนกัน คือผมกับก้อย จะมีเรื่องเซอร์ไพรส์ตลอด แต่ไม่ค่อยมีแพลนอะไรกับเรื่องพวกนี้ จะแพลนกันแบบหลวมๆ ตลอด วันไหน ช่วงไหนโอเค มันอาจจะโอเคก็ได้ วันหนึ่งอาจจะไปทัวร์ แล้วผมอาจจะบอกว่าแต่งงานกันไหม อาจจะมีก็ได้ ต้องรอดูกันต่อไป
ก้อย : จริงๆ ก็มีเหมือนคุยกันแบบเล่นๆ มากกว่า ยังไม่ได้จริงจังอะไรมาก อย่างช่วงนี้ ชีวิตส่วนตัวก็จะกลายเป็นคุยเรื่องงานกันหมดเลย เพราะอย่างอัลบั้มนี้ เราเป็นโปรดิวเซอร์กันเอง เพราะฉะนั้นทุกอย่างในอัลบั้มนี้ เราจะกินนอนอยู่กับมันครึ่งปี เดินเข้าออกโรงพิมพ์ ถ้าจบเรื่องนี้ อาจจะไปทัวร์ที่ไหน ทำคอนเสิร์ตยังไง หลังจากนั้นก็คงจะคุยกัน

กดดันไหมถูกจับตามองเรื่องแต่งงาน
ก้อย : ไม่กดดันเลย อย่างน้องๆ แฟนคลับลุ้นทุกวัน ถ้าแต่งงานคงเป็นเพราะน้องๆ แฟนคลับลุ้นแล้วล่ะ (ยิ้ม) แต่ก็รู้สึกดี เราก็แฮปปี้ มีความสุขอยู่ทุกวัน
โย่งเป็นคนโรแมนติกไหม
ก้อย : จริงๆ เขาเป็นคนโรแมนติก เขาก็จะมีเรื่องเซอร์ไพรส์อยู่เรื่อยๆ คือเขาเป็นคนชอบทำอะไรที่เราไม่คาดคิดเท่าไหร่ เขาทำอะไรก็ทำเลย บางทีกลับบ้าน อยู่ดีๆ ก็จะมีกระดาษแปะอยู่ประตูหน้าบ้าน ก็จะเป็นอะไรแบบเนี่ยอยู่เสมอๆ

ก้อยคือสิ่งที่เติมเต็มในชีวิตให้โย่งไหม
โย่ง : เขาคือคนที่มาเติมเต็มให้ผมเลย เพราะผมจะเป็นคนจัดการระบบไม่ค่อยดี ก้อยก็จะมาดูแลเรื่องระบบให้ ซึ่งก็ดีมากๆ อาจจะคิดว่าก้อยเป็นคนทำอะไรตามอารมณ์ ด้วยนิสัยผู้หญิง แต่จริงๆ ก้อยเป็นคนมีเหตุผลมากกว่าผม

กว่าจะถึงวันนี้ กว่าจะคบกันมาถึง 7 ปี ต้องปรับเข้าหากันเยอะไหม
ก้อย : จริงๆ โชคดีตรงที่เราคล้ายๆ กัน มีเพื่อนกลุ่มเดียวกัน เรื่องที่ปรับภายนอกไม่ค่อยมี แต่จะปรับเรื่องนิสัย หรือเรื่องการใช้ชีวิตประจำวันมากกว่า คือต่างที่มา ต่างคน รับรองว่าต้องมีเรื่องที่แตกต่างกันอยู่แล้ว แต่จะมีบางเรื่องที่สามารถเอามาเป็นจุดศูนย์กลาง แล้วดึงมาใช้ทุกเวลาได้ อย่างเช่น พยายามดึงความชอบที่มันเกิดขึ้นตรงกลาง เอามาเป็นเหตุผลในทุกๆ ครั้ง ทำให้เรารู้สึกว่ามันไม่ใช่เรื่องยาก

มีทะเลาะกันบ่อยไหม
ก้อย : โอ้โห...ทำอัลบั้มนี้ทะเลาะกันทุกวันเลย
โย่ง : ช่วงนี้ทะเลาะกันบ่อย แต่ละคนมีความชอบไม่เหมือนกัน มีรสนิยมไม่เหมือนกัน ก็จะมีอีโก้บางอย่าง ถ้าเป็นเรื่องงานเราก็ต้องฟังเหตุผล ว่ามันทำแล้วดีขึ้นไหม ถ้าไม่ดีขึ้นแล้วยังดื้อดัน ก็ต้องยอมรับ ว่าคุณใช้อารมณ์
ก้อย : ง่ายๆ คือเราใช้เหตุผลขึ้นมาตัดสินปัญหาทุกๆ อย่าง ซึ่งเหตุผลก็ต้องมีส่วนผสมการอะลุ่มอล่วยกันด้วย ความไว้เนื้อเชื่อใจในรสนิยมซึ่งกันและกันด้วย อย่างเรื่องที่เราทะเลาะกันบ่อยๆ คือเรื่องงาน เราก็จะแก้ปัญหาโดยการหยุดทำไปสักพัก แล้วค่อยกลับมาคุยกันใหม่ เราก็รู้อยู่แล้วตั้งแต่แรก ว่าเราต้องทะเลาะกันแน่ๆ แต่ก็รู้สึกว่าเรายินดีที่จะทะเลาะกัน เพราะว่าการทะเลาะ มันทำให้งานเราออกมาดีแน่นอน

มีเรื่องทะเลาะกันทำให้เรารักกันมากขึ้นไหม
ก้อย : ใช่...พอหลังจากนั้น เสร็จงานอัลบั้ม เราก็กอดคอกันเลย เอ้ย...อัลบั้มนี้ทำให้เรารักกันมากขึ้น

กับอาถรรพณ์เลข 7  หลายคู่รักเลิกกันเพราะเลขอาถรรพณ์ 7 ปี
ก้อย : ก้อยไม่กลัวเลย รู้สึกว่ามันเป็นข้ออ้างของคนที่คบกันมาระยะหนึ่งที่ค่อนข้างนานแล้ว เบื่อกันมากกว่า ต่อให้รักกัน 7 ปี ถ้าคุณยังหอมหวานอยู่ ยังเติมเต็มความรักให้กันอยู่ 7 ปีก็ยังถือว่าน้อย คุณสามารถคบกันได้เป็นสิบๆ ปี ยี่สิบปี ถ้าคุณมีความรักให้กันจริงๆ แต่ส่วนมากที่คนบอกว่า 7 ปีเป็นอาถรรพณ์ ก้อยว่ามันเป็นระยะที่คนเริ่มเบื่อกันมากกว่า ก็เลยหยิบมาเป็นข้ออ้าง

คบมานานขนาดนี้เติมเต็มความหวานกันอย่างไรบ้าง
โย่ง : ผมเรื่อยๆ เหมือนเดิม ใช้คำพูดกันน้อยลงจะเข้าใจ โดยส่วนตัว ผมก็ไม่ค่อยเชื่อเรื่องดวงอะไร ผมว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระ คือมันกำหนดอะไรเราไม่ได้เลย นอกจากคนที่จิตใจอ่อนแอ

หลายคนมองว่าเป็นคู่รักปาท่องโก๋ เห็นก้อยก็ต้องเห็นโย่ง เห็นโย่งก็ต้องเห็นก้อย
ก้อย : ก็นี่ไง เลยมาทำอัลบั้มคู่กันซะเลย (หัวเราะ) จริงๆ เราเริ่มคุยกันตั้งแต่คบกันแรกๆ แล้ว เพราะเราคิดว่ากำลังใจเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับเรา ไม่ว่าก้อยจะไปเล่นคอนเสิร์ตที่ไหน โย่งก็คิดว่าจะตามไปให้กำลังใจแน่ๆ หรือเวลาโย่งไปเล่นคอนเสิร์ตที่ไหน ก้อยก็จะไป อันนี้คือสิ่งที่เราคุยกันไว้ ถ้าโอกาสอำนวยนะ แต่โอเคถ้าไม่เจอกัน เราก็โทรศัพท์หากัน

แบบนี้ถ้าก้อยไม่ได้ไปให้กำลังใจโย่งล่ะ จะรู้สึกแปลกๆ ไหม
โย่ง : มันก็เป็นอีกอารมณ์หนึ่งนะ บางคู่อาจจะอยู่กันทุกวัน ถึงเวลาห่างๆ ก็จะรู้สึกว่าเหงา อยู่ไม่ได้ แต่เราก็อยากให้มีอารมณ์คิดถึงกันบ้าง ก็จะทำให้ชีวิตคู่มันดีขึ้น

แหม...หวานขนาดนี้ อิจฉาจริง...จริ๊ง

 

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook