“สาดน้ำใส่รถยนต์วันสงกรานต์” เล่นสนุกขำๆ ที่บางคนก็ขำไม่ออก

“สาดน้ำใส่รถยนต์วันสงกรานต์” เล่นสนุกขำๆ ที่บางคนก็ขำไม่ออก

“สาดน้ำใส่รถยนต์วันสงกรานต์” เล่นสนุกขำๆ ที่บางคนก็ขำไม่ออก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากกรณีดราม่าในโลกโซเชียล ว่าด้วยคุณป้าเจ้าของรถเก๋งป้ายแดงโวยวายต่อว่าเด็กอายุ 4 ขวบ เพราะสาดน้ำใส่รถของตน ซึ่งเริ่มลุกลามใหญ่โตจากเรื่องผู้ใหญ่ทะเลาะกับเด็ก ไปเป็นเรื่องของชนชั้นและการดูถูกคนจนแล้ว แน่นอนว่าเป็นผู้ใหญ่จะไปเก่งกับเด็กตัวเล็กๆ ก็ไม่ถูกต้อง แต่สิ่งที่น่าโฟกัสอีกอย่างจากดราม่าล่าสุดนี้ก็คือน้ำผึ้งหยดเล็กๆ อย่าง “การสาดน้ำใส่รถยนต์” ขณะที่เล่นสาดน้ำกันเนื่องในวันสงกรานต์

ในฐานะผู้ที่ (เคย) คร่ำหวอดอยู่ในวงการสาดน้ำวันสงกรานต์ ที่สาดมาแล้วทุกรูปแบบ ตั้งแต่ตั้งซุ้มสาดน้ำหน้าปากซอย เดินลุยโซนเล่นน้ำ ไปจนถึงขึ้นท้ายรถกระบะวิ่งไปทั่วจังหวัด แต่สิ่งที่แก๊งเรา ณ ตอนนั้น ยึดถือเป็นจรรยาบรรณก็คือ จะไม่สาดน้ำใส่รถยนต์ เพราะจะทำให้รถเสียหลักและที่สำคัญคือเปลืองน้ำ แต่ไม่ว่าในสมัยที่เราเป็นเด็กผมติ่งหู หรือแม้จะโตจนขี้เกียจเล่นน้ำแล้ว ก็ยังคงมีหลายคนที่นิยมสาดน้ำใส่รถยนต์ โดยให้เหตุผลว่าช่วยล้างรถฟรีๆ และเจ้าของรถจะกลายเป็นคนผิดทันทีที่ออกมาบ่นว่า “ไม่อยากให้สาดน้ำใส่รถ” ยิ่งเดี๋ยวนี้มีโลกโซเชียล ใครที่กล้าหือออกมาบ่นเรื่องการสาดน้ำใส่รถ ก็อาจจะถูกโจมตีทันทีด้วยประโยค เช่น “ต้องทำใจสิ นี่มันช่วงเทศกาล”, “สาดน้ำวันเดียว ไม่ได้สาดทุกวัน ไม่เห็นเป็นอะไรเลย”, “อากาศร้อน ใจเย็นๆ น่า ปีใหม่ทั้งที” หรือ “กลัวรถเปื้อนก็ไม่ต้องขับออกจากบ้านสิ”

คนไม่อินกับเทศกาลก็กลายเป็นคนผิดไปอีก...

แต่เดี๋ยวก่อน! นักล้างรถเฉพาะกิจทั้งหลาย เวลาที่คุณเป็นผู้กระทำเองมันก็สนุกทั้งนั้นแหละ แต่อย่าลืมว่าผู้ถูกกระทำบางคนเขาไม่ได้สนุกด้วย ที่สำคัญ การเล่น “ขำๆ” ในเทศกาลรื่นเริงของคุณ อาจจะส่งผลกระทบโดยที่คุณคาดไม่ถึงก็เป็นได้

เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับรถหรูไม่หรู ป้ายแดงป้ายดำอะไรทั้งนั้น ลองคิดง่ายๆ ว่า ถ้าคุณขับรถอยู่ แล้วมีคนเอามือมาปิดตาคุณ แน่นอนว่าต้องมีอุบัติเหตุ แต่จะชนรถด้วยกัน ชนคน หรือพุ่งลงข้างทาง อันนี้ก็ต้องแล้วแต่แต้มบุญของแต่ละคน เอามือปิดตาตอนขับรถฉันใด สาดน้ำใส่กระจกหน้ารถก็ฉันนั้น และที่แย่กว่าก็คือน้ำผสมแป้ง คุณอาจจะหวังดีอยากส่งต่อความชุ่มฉ่ำให้คนขับรถ เนื่องในเทศกาลแห่งความสนุกสนานไม่กี่วันต่อปี แต่ใครจะรู้ว่าช่วงเวลาไม่กี่วันนั้น อาจเป็นวันที่ใครบางคนชะตาถึงฆาตก็ได้ ถ้าเป็นคนที่ขับรถเอง หรือรถคันอื่นๆ คุณคงคิดว่าไกลตัว แต่หากรถคันนั้นเสียหลักพุ่งชนคุณหรือเพื่อนร่วมซุ้มสาดน้ำ ที่บังเอิญไปเต้นดึงดาวอยู่หน้ารถคันนั้นพอดี ราคาที่จ่ายสำหรับการล้างรถฟรีครั้งนี้ก็ถือว่าแพงโขอยู่นะ

และในขณะที่เราตื่นตัวเรื่องการประหยัดน้ำมาตลอดระยะเวลา 300 กว่าวัน แต่พอเข้าวันสงกรานต์ หลายคนกลับตั้งหน้าตั้งตาสาดน้ำใส่รถยนต์กันอย่างจริงจัง ราวกับว่าแคมเปญประหยัดน้ำนั้นไม่เคยเกิดขึ้น แล้วค่อยมาประหยัดกันอีกทีเมื่อเข้าสู่ภาวะปกติ แต่หลังจากนั้นก็เป็นหน้าที่ของ กทม. ที่ต้องใช้น้ำล้างทำความสะอาดถนน หลังจากที่มีคนแอบนำแป้งเข้าไปเล่นในพื้นที่จัดงาน โดยปริมาณน้ำที่ใช้ทำความสะอาดในปีนี้เพิ่มขึ้นถึง 384,000 ลิตร จากปีที่แล้วที่ใช้น้ำ 294,000 ลิตร คิดแล้วก็เสียดายน้ำที่คุณๆ สาดรถไป ทั้งที่คนขับก็ไม่เปียก

เมื่อการสาดน้ำในยุคนี้ไม่ใช่การเอามือจุ่มและประพรมน้ำใส่กันสวยๆ อย่างในโปสเตอร์โปรโมตการท่องเที่ยวไทยอีกต่อไป ก็ย่อมมีทั้งคนที่สนุกและไม่สนุกกับการเล่นสาดน้ำอย่างบ้าคลั่งทุกวันนี้ เพราะฉะนั้น ช่วยดูหน่อยว่าคนอื่นอยากเล่นด้วยไหม ถามใจสักคำก็ยังดี อย่าเอาเทศกาลมาเป็นข้ออ้างที่จะทำอะไรก็ได้ แล้วให้คนส่วนน้อยอดทน ก้มหน้ารับกรรมจากความไม่ใส่ใจของคุณ จนกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตยิ่งกว่าดราม่าผู้ใหญ่ด่าเด็กเลย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
>> ชาวเน็ตวิจารณ์ยับ คลิปสาวใหญ่ด่ากราดเด็ก 4 ขวบ สาดน้ำสงกรานต์ใส่รถป้ายแดง
>> พ่อเด็ก 4 ขวบ ซัดป้าเก๋งป้ายแดงด่าลูกสาดน้ำ ฉะ! ถึงเป็นชาวสวน 108 ไร่ ไม่คิดหยามใครต่ำ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook